รีวิว ลองขับ Mercedes-Benz S350d Exclusive เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 6 สูบเรียง 286 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม.
รีวิว ลองขับ Mercedes-Benz S350d Exclusive หรูหราทันสมัย ออปชั่นแน่น
Mercedes-Benz S350d Exclusive
S-class ใหม่ เงียบราวกับกำลังอยู่ในห้องสมุด และนุ่มนวลนั่งสบายยิ่งกว่าโมเดลก่อนหน้านี้เสียอีก ซึ่งผมก็ไม่รู้สึกเซอร์ไพร์สแต่อย่างใด เหตุเพราะเหล่านี้คือสิ่งที่รถอนุกรม S มอบให้คุณเสมอ ตลอดระยะ 6 เจเนอเรชั่นที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงทายาทลำดับที่ 7 คัน
ซึ่งผมกำลังขับอยู่ตอนนี้ Mercedes ยังคงพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ฝีมือในการสร้างรถระดับหรูของพวกเขาไม่เคยลดน้อยลงเลย ในทางกลับกัน ค่ายดาวสามแฉกยังคงพัฒนา S-class ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา
คันทดสอบของเราคือ S 350d Exclusive ซึ่งเป็นเกรดเริ่มต้น ราคา 7 ล้านบาทเศษ ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 6 สูบเรียง ให้กำลังสูงสุด 286 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร ที่มีให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำเพียง 1,200 รอบ/นาที นั่นหมายถึง อัตราเร่งอันน่าประทับใจที่ 6.4 วินาที และความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. นับว่ายอดเยี่ยมมากสำหรับรถที่มีน้ำหนัก 2 ตันเช่นนี้
และแม้คุณจะเหยียบคันเร่งจนมิดพรม ทว่าในห้องโดยสารของ S ใหม่ ยังเงียบจนน่าทึ่ง แน่นอนว่ามีเสียงเครื่องยนต์ดังเข้ามาให้ได้ยินบ้างเล็กน้อย แต่ก็เป็นเสียงที่ไพเราะน่าฟังทีเดียว การวิ่งที่ความเร็ว 120 กม./ชม. เป็นไปอย่างราบรื่นนุ่มนวล จังหวะหนืดๆ ขณะช่วงล่างถุงลม ยืด-ยุบ ช่วยให้รถแทบจะไม่กระเด้งกระดอน ถึงคุณจะนั่ง (หรือเอนนอน) อยู่เบาะหลังซึ่งวางไว้ใกล้ล้อคู่หลังก็ตาม
ขณะที่การบังคับควบคุมอาจให้สัมผัสที่เบาสบายมากไปหน่อย ทว่าก็ยังให้ความมั่นใจได้ในระดับที่น่าพอใจอย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ชอบรถที่มีพวงมาลัยเบาๆ ผมแนะนำให้เข้าไปปรับที่โหมด Individual โดยเซ็ตติ้งที่ผมชอบที่สุดคือ พวงมาลัยและระบบขับเคลื่อนโหมด Sport ขณะที่ช่วงล่างคงไว้ที่ Comfort เช่นเดิม
คุณสามารถหาความสนุกในการขับขี่ได้จาก S 350 d เช่นกัน เพียงแต่อย่าคาดหวังประสิทธิภาพจนมากเกินไป… ด้วยขนาดที่มโหฬารของรถ และช่วงล่างที่เน้นความนุ่มนวลเป็นหลัก ทำให้มันไม่คล่องแคล่วนักบนถนนที่เต็มไปด้วยโค้ง ร่วมด้วยอาการเอียงตัวที่แน่นอนว่ามีมากกว่ารถซีดานขนาดเล็กกว่า นี่จึงไม่ใช่รถที่เหมาะกับการตะบันใส่ทางคดเคี้ยวสักเท่าไหร่ แม้จะอยู่ในโหมด Sport แล้วก็ตาม
นอกจากนั้น ช่วงล่างยังต้องใช้เวลาพอสมควรในการปรับกลับเข้าสู่โหมด Comfort อีกครั้ง ทำให้คุณต้องรับแรงสั่นสะเทือนไปอีกสักพัก กว่าช่วงล่างจะถูกลดความแข็งลง
แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ แม้จะอยู่ในโหมด Sport ทว่า S-class ใหม่ ก็ยังคงให้ความนุ่มนวลได้ดีมาก เพียงแต่คุณอาจคิดเหมือนผม… ติดใจสัมผัสแบบ “พรมวิเศษ” จนไม่อาจถอนตัว… S 350 d คือพาหนะสำหรับการเดินทางอย่างแท้จริง และโดยไร้ซึ่งข้อกังขา ไม่ว่าคุณจะใช้เป็นรถสำหรับครอบครัว หรือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนขับรถและคุณนั่งที่เบาะหลังก็ตาม
แม้จะเป็นเพียงรุ่นเริ่มต้น ที่ยังมีอุปกรณ์ไฮเทคใหม่ๆ ไม่ครบถ้วนเหมือนรุ่นท้อป แต่ก็ถือว่าเหลือเฟือและครอบคลุมสำหรับการใช้งาน และในราคาที่คุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับความสะดวกสบายที่ได้รับ
เป็นอีกครั้งที่ S-class ทำได้อย่างน่าปรบมือให้ดังๆ
S-class ใหม่ มีรูปลักษณ์ที่สะอาดตายิ่งขึ้น ด้วยการลดเส้นสายด้านข้างตัวรถลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ ทว่าโดยภาพรวมก็ยังคงสัมผัสอันหรูหราสูงค่าไว้เช่นเดิม โครงสร้างตัวถังแบบไฮบริด ผสมผสานการใช้วัสดุอลูมิเนียมและโลหะร่วมกัน โดยเพิ่มปริมาณอลูมิเนียมเข้าไปมากถึง 50% โดยน้ำหนัก ด้วยลักษณะโครงสร้างไฮบริดดังกล่าว จำเป็นต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนและความแม่นยำสูงในการเชื่อมต่อชิ้นส่วนต่างๆ แสดงให้เห็นถึง Know-how ของ Mercedes ที่ไม่ธรรมดามากๆ
แชสซีส์ส่วนหน้ารถ ประกอบไปด้วยโครงสร้างทรงวงแหวน, คานด้านข้าง และส่วนรองรับแรงกระแทกหลัก ใช้โพลีเมอร์ในการเชื่อมต่อระหว่างแต่ละชิ้นของคานรองรับการชน เพื่อช่วยลดแรงกระแทกในจังหวะแรกของการชน ขณะที่ส่วนรองรับแรงกระแทกหลักมาพร้อมกับระบบรองรับการชนแบบพิเศษ ที่จะส่งแรงกระแทก (ตามแนวยาว) ไปยังโครงสร้างบริเวณพื้นรถซึ่งทำจากเหล็กกล้าความแข็งแกร่งสูงร่วมกับอัลลอยด์อัดแข็ง ขณะที่ท้ายรถจะแยกส่วนรองรับแรกกระแทกออกเป็น 2 โซน โดยโซนที่เป็นส่วนประกอบของถังเชื้อเพลิงจะถูกล้อมไว้ด้วยอลูมิเนียมหล่อจึงแทบไม่มีโอกาสเสียรูปทรงแม้แต่น้อย ขณะที่โซนสำหรับให้โครงสร้างตัวถังยุบตัวจะทำหน้าที่กระจายแรงแรงกระแทกขณะเกิดการชน มือเปิดประตูเป็นส่วนหนึ่งของระบบ KEYLESS-GO ที่จะยื่นออกมาเมื่อเดินเข้าใกล้รถหรือแตะที่มือเปิด และจะเก็บกลับเข้าไปแนบกับตัวถังเมื่อล็อคประตูหรือขณะขับขี่ เพื่อลดแรงเสียดทานอากาศ (Cd) แอโรไดนามิกส์ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น แม้ตัวรถจะมีพื้นที่ส่วนหน้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.5 ตร.ม. ทว่าค่า Cd กลับลดลงเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากการทดสอบในอุโมงค์ลมและการทดสอบจริงบนถนน นอกจากนั้น ยังใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงในการจำลองการไหลเวียนของกระแสอากาศในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาแอโรไดนามิกส์อีกด้วย
ชุดไฟหน้ามีรูปทรงที่ดูแบนและเล็กกว่าเดิม ใช้ DRL แบบ 3 จุด ไฟหลักเป็นระบบ MULTIBEAM LED ติดตั้งเป็นมาตรฐานสำหรับทั้งใน S 350 d และเกรดสูงสุด S 580 e ซึ่งก็เพียงพอสำหรับการใช้งานและให้แสงสว่างที่ไกลและกว้างครอบคลุมทั้งถนน
ชุดไฟท้ายที่น่าหลงใหล ด้วยการใช้เทคโนโลยี Fibre-optic นำแสงไปตามแท่งใส ที่ออกแบบเรียงซ้อนเล่นระดับกัน ให้ภาพลักษณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจและหรูหราจนชวนให้นึกถึงโคมระย้าราคาแพง
S 350 d ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 6 สูบเรียง ความจุ 3.0 ลิตร ทำกำลังสูงสุดได้ 286 แรงม้า ที่ 3,400-4,600 รอบ/นาที และให้แรงบิดเต็มพิกัด 600 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบต่ำเพียง 1,200 ต่อเนื่องไปจนถึง 3,200 รอบ/นาที นั่นหมายถึง อัตราเร่งที่เรียกใช้งานได้แบบทันทีทันใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงรอบต่ำถึงกลาง ใช้เวลาเพียง 6.4 วินาที ในการดีดตัวจากจุดหยุดนิ่งสู่ 100 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุด (จำกัด) ที่ 250 กม./ชม. ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน่าพอใจ โดยเราทำได้เฉลี่ยจากการใช้งานทั้งในและนอกเมืองที่ 11 กม./ลิตร นับว่าไม่เลวสำหรับรถขนาดมหึมาเช่นนี้
ชุดเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ มีอัตราทดค่อนข้างกว้างเพื่อให้สามารถถ่ายทอดแรงบิดมหาศาลออกมาได้อย่างต่อเนื่องและนุ่มนวลตลอดเวลา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า S 350 d จะเชื่องช้าอืดอาด เนื่องจากเพาเวอร์แบนด์ที่กว้างตามแบบฉบับของขุมพลังดีเซลจาก Mercedes ส่งให้รถสามารถเร่งความเร็วได้ทันใจ คันเกียร์ที่คอพวงมาลัย เอกลักษณ์เฉพาะตัวของค่ายดาวสามแฉก พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยสำหรับโหมด Manual และเลือกรูปแบบการขับขี่ได้จากปุ่มสัมผัสแบบ Haptic ใต้จอแสดงผลส่วนกลาง ระบบบังคับเลี้ยวให้น้ำหนักเบามือ ทว่าตอบสนองฉับไวและเฉียบคมในระดับที่น่าพอใจ เพียงแต่ยังเบาไปหน่อยและยังสื่อสารมายังมือไม่ดีนักหากขับขี่แบบสปอร์ต ซึ่งเป็นเรื่องที่รับได้สำหรับซีดานระดับหรูที่ไม่เน้นเรื่องการฉวัดเฉวียนด้วยความเร็วสูงมากนัก อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานทั่วไปปถือว่าเป็นพวงมาลัยที่บังงคับควบคุมได้อย่างมั่นใจทีเดียว ให้ล้อขนาด 19 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับ S 350 d มีการปรับให้ล้อยื่นออกมาพอดีกับแนวซุ้มล้อ (ตามแนวดิ่ง) เพื่อให้รถดูกว้างและลงตัวยิ่งขึ้น ระบบเบรกให้ประสิทธิภาพเพียงพอต่อพละกำลังเครื่องยนต์ ขณะที่ช่วงล่างแบบถุงลม AIRMATIC พร้อมแดมเปอร์แบบปรับต่อเนื่องอัตโนมัติ ADS+ ที่ทำงานโดยใช้ระบบเซนเซอร์และตรรกะในการปรับความหนืดของแดมเปอร์ให้เหมาะสมกับสภาพถนนตลอดเวลา สามารถให้ความนุ่มนวลในระดับที่เหนือคำบรรยายใดๆ นอกจากนั้น ยังปรับความเตี้ยได้ตามความเร็ว โดยในโหมด Comfort จะเริ่มเตี้ยลง 10 มม. ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. และปรับลงเพิ่มอีก 10 มม. เมื่อเกิน 160 กม./ชม., โหมด Sport ปรับลงคงที่ที่ 10 มม. และ 17 มม. ในโหมด Sport+ และสามารถสั่งยกขึ้นได้ 30 มม. อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนจากโหมดสู่โหมด ต้องใช้เวลาสักพัก อาทิ จาก Sport สู่ Comfort คุณจะสัมผัสได้ถึงความแข็งของช่วงล่างไปอีกสักพัก หลังจากปรับเข้าสู่โหมด Comfort แล้ว… ไม่มีระบบเลี้ยวล้อหลังมาให้ แต่ก็ยังมีวงเลี้ยวแคบจนน่าทึ่งทีเดียว การออกแบบห้องโดยสารได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากห้องโดยสารของเรือยอร์ช Mercedes นิยามภายในของ S-class ใหม่ว่าเป็น “พื้นที่ที่ 3” ซึ่งคั่นกลางระหว่างบ้านและที่ทำงาน แดชบอร์ด, คอนโซลกลาง และที่พักแขน ดีไซน์ให้ดูลอยตัวอยู่เหนือส่วนอื่นๆ และโอบล้อมผู้โดยสารแต่ละตำแหน่ง ขณะที่การรวบรวมทุกการควบคุมไว้ที่จอส่วนกลางช่วยเพิ่มภาพลักษณ์แบบบมินิมอลให้แก่ห้องโดยสาร คุณภาพวัสดุและการประกอบน่าประทับใจ เช่นเดียวกับการตัดเสียงรบกวนภายนอกด้วยการบุฉนวนไว้โดยรอบ ทำให้การเดินทางเงียบกริบในทุกย่านความเร็ว
ความมินิมอลของห้องโดยสาร ส่งให้จอแสดงผลกลายเป็นจุดหลักในการดึงดูดสายตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจอส่วนกลางแบบ OLED ขนาดใหญ่ถึง 12.8 นิ้ว รวมทุกการควบคุมไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นระบบความบันเทิง, ระบบปรับอากาศ และการปรับตั้งค่าต่างๆ ของรถยนต์ โดยมีแผงทรงแท่งแนวนอน (ใต้จอ) สำหรับควบคุมระบบที่จำเป็นและต้องใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แยกไว้ต่างหาก แน่นอนว่า ด้วยจอขนาดใหญ่ จึงไม่จำเป็นต้องมีชุดควบคุม ‘COMMAND’ บนคอนโซลกลางอีกต่อไป เนื่องจากผู้ขับและผู้โดยสารสามารถสัมผัสโดยตรงที่หน้าจอได้อย่างง่ายดายและแม่นยำจากไอคอนขนาดใหญ่ จอสำหรับผู้โดยสารเบาะหลังสามารถแสดงข้อมูลได้ครบถ้วนเช่นเดียวกับจอส่วนกลาง มาพร้อมชุดหูฟังแบบไร้สาย S-class ใหม่ คือรถรุ่นแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ MBUX เจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ช่วยให้ S 350 d เป็นรถที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือระบบสั่งการด้วยเสียง “Hey, Mercedes” (แล้วตามด้วยคำสั่งที่คุณต้องการ) ซึ่งปัจจุบันรองรับคำสั่งภาษาไทยได้แล้ว ทำให้สามารถใช้งานได้คล่องแคล่วและง่ายดายกว่าเดิม โดยในบางกรณีสามารถสั่งการได้ทันทีโดยไม่ต้องเรียก “Hey, Mercedes” ก่อน อาทิ การรับสายโทรเข้า เป็นต้น นอกจากนั้น ที่พิเศษกว่า Mercedes รุ่นอื่นๆ ก็คือ คุณสามารถใช้ระบบสั่งการด้วยเสียงจากเบาะหลังได้ใน S-class
ระบบปรับอากาศเป็นแบบแยกอิสระ 4 โซน สำหรับผู้โดยสารแต่ละที่นั่งโดยเฉพาะ ที่น่าสนใจคือดีไซน์ของช่องแอร์บนแดชบอร์ดซึ่งแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร โดยช่องกลางจัดวางไว้ด้านบนสุดเรียงติดกัน 4 ช่อง แต่ละช่องสามารถปรับทิศทางแยกจากกันอิสระ ขณะที่ช่องแอร์ฝั่งใกล้กับกระจกหน้าต่าง เป็นแนวตั้งแบบคู่ ด้านข้างแต่ละช่องมีปุ่มกดสสำหรับเลือกการปล่อยลมออกมาได้ 3 ระดับจาก ปกติ (เปิดกว้างสุด), กลาง และปิด (ไม่มีลมออกมา)
เบาะนั่งคือไฮไลต์ของ S-class ใหม่ นุ่มสบาย, ขนาดใหญ่ และปรับได้อย่างละเอียดหลายทิศทาง พร้อมฟังก์ชั่นนวด ‘Energizing Comfort’ ที่มีให้เลือกถึง 6 รูปแบบ ระบบจะสร้างรูปแบบการนวดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ เช่น ผู้ขับขี่สามารถเลือกการนวดที่ทำให้สดชื่นในกรณีกำลังอยู่บนถนนที่ทอดยาวจนน่าเบื่อ หรือนวดเพื่อผ่อนคลายหากพวกรู้สึกเครียดขณะขับขี่ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมาพร้อมกับระบบทำความเย็นที่เบาะ และผู้ขับยังสามารถปรับเบาะหน้าฝั่งผู้โดยสารได้อีกด้วย
เมื่อเป็นรถสำหรับผู้บริหาร เบาะหลังจึงให้ความสะดวกสบายได้เต็มพิกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่เบาะฝั่งซ้ายของรถซึ่งสามารถปรับเอนนอนและมาพร้อมกับพนักรองขาท่อนล่างและที่วางเท้า พื้นที่โดยรอบกว้างขวางเหลือเฟือ ตัวเบาะทั่งสองสามารถบันทึกได้ 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบทำความเย็นที่เบาะและระบบนวดเช่นดียวกับเบาะหน้า และนอกจากม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง (บริเวณหน้าต่าง) แล้ว ยังมีถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างติดตั้งมาให้สำหรับผู้โดยสารเบาะหลัง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดอีกด้วย ระบบเสียงรอบทิศทางด้วยลำโพงมากถึง 15 ตัว จาก Burmester พร้อมหูฟังไร้สาย 2 ชุด และแทปเล็ทสำหรับควบคุมระบบมัลติมีเดีย MBUX มีมาให้ครบถ้วนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
S-class ติดตั้งระบบช่วยเหลือขณะขับขี่มาให้เต็มพิกัด เพื่อลดภาระและความเครียดให้กับผู้ขับ ทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยขึ้นอีกระดับ ระบบครูสคอนโทรลที่ทำงานร่วมกับระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน ช่วยให้ S 350 d สามารถขับเคลื่อนได้เองกึ่งอัตโนมัติ มันสามารถทำงานได้ราบรื่นเป็นธรรมชาติ ทว่ายังเบรกรุนแรงไปหน่อย
SPECIFICATIONS: Mercedes-Benz S350d Exclusive
Price: ฿7,050,000
Engine: 2925cc inline-6 diesel turbo, 286ps @ 3400-4600rpm, 600 Nm @ 1200-3200rpm
Transmission: 9-speed automatic, rear-wheel drive
Performance: 6.4sec 0-100km/h, 250km/h top speed, 16.1km/l, 174g/km Co2
Weight: 2044kg
TorqueThailand.com
