Breaking News

รีวิว Honda e:N1 EV 100% – SUV ไฟฟ้า 204 แรงม้า วิ่งไกล 500 กม. ราคาเริ่มต้น 1,199,000 บาท

รีวิว ลองขับ Honda e:N1 SUV พลังงานไฟฟ้า 100% ดีไซน์ใกล้เคียง Honda HR-V แต่เพิ่มความล้ำสมัย ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กม. ราคา 1,199,000 บาท

Honda e:N1 2025 มุมเฉียงด้านหน้า รถไฟฟ้า EV compact city car

รีวิว ลองขับ Honda e:N1 EV 100% 204 แรงม้า ราคา 1.199 ล้านบาท

Honda e:N1 EV 100% 

Honda e:N1 2025 มุมหน้า รถไฟฟ้า EV compact city car

Honda e:N1 2025 มุมเฉียงด้านหน้า รถไฟฟ้า EV compact city car

Honda e:N1 2025 มุมเฉียงด้านหลัง รถไฟฟ้า EV compact city car

Honda e:N1 2025 มุมหลัง แสดงไฟท้าย LED

“การเช่าใช้ คือวัตถุประสงค์แรกสุดเมื่อ Honda e:N1 ถูกเปิดตัวในไทย … แต่ดูเหมือนการรุกคืบของยนตรกรรม EV จาก ‘ดินแดนหลังม่านไม้ไผ่’ จะสร้างแรงกดดันหนัก จนถึงขั้นต้องเปลี่ยนเกมการทำตลาดในบ้านเราเลยทีเดียว”

จากมุมมองภายนอก การมาถึงประเทศไทยของแบรนด์ต่าง ๆ จาก “ดินแดนหลังม่านไม้ไผ่” ถือได้ว่าเป็น “ประโยชน์” ต่อผู้บริโภค เนื่องจากประเด็นสำคัญ คือ การมีตัวเลือกที่หลากหลาย ทำให้สามารถเปรียบเทียบได้ในหลายมิติ เพื่อให้การตัดสินใจเป็น “เจ้าของ” เกิดขึ้นด้วยความ “คุ้มค่า” สูงสุด

Honda e:N1 2025 มุมหน้ารถ

ช่องชาร์จไฟฟ้า Honda e:N1 2025

Honda e:N1 EV ห้องเก็บอุปกรณ์

แต่จากมุมมองในฐานะแบรนด์ผู้ผลิต นี่คือ “สงคราม” ที่แบรนด์ยนตรกรรมระดับ Senior ในบ้านเราต้องหาทางรับมืออย่างเร่งด่วน เพราะการมาของเหล่า “ผู้มาใหม่” ทุกครั้งสามารถเรียก “เสียงฮือฮา” และ “ยอดจำหน่าย” ไปได้เสมอ

ทั้งจาก “ออพชั่น” “เทคโนโลยี” และเหนืออื่นใด คือ “ราคา” ที่แสดงถึงความ “คุ้มค่า” ได้ชัดเจนกว่า … ชนิดที่เรากล้าพูดเลยว่า “ให้” ได้มากกว่า e:N1 ด้วยซ้ำ

แต่ถ้าถามว่าทำไมเราถึงยังเชื่อมั่นใน e:N1 … คำตอบที่ชัดเจนและง่ายที่สุดก็คือ “ความเป็น Honda ชื่อที่สร้างความอุ่นใจทุกครั้งเมื่อได้ยิน”

Honda e:N1 EV กล้องและเซ็นเซอร์บนกระจกบังลมหน้า

Honda e:N1 2025 ไฟหน้า รถไฟฟ้า EV compact city car

Honda e:N1 2025 ไฟหน้า รถไฟฟ้า EV compact city car

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Honda e:N1 ดูราวกับหยิบเอางานดีไซน์ของ Honda HR-V เจเนอเรชั่นปัจจุบันมาปรับปรุงใหม่ เพื่อนำเสนอความเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% เช่น

โลโก้ H Mark ใหม่บนชุดกระจังหน้าสไตล์เรียบหรู ที่ออกแบบให้เชื่อมต่อไปกับชุดไฟหน้าแบบ LED และมาพร้อมจุดชาร์จแบตเตอรี่ที่สามารถรองรับหัวชาร์จได้ทั้งแบบ DC CCS 2 และแบบ AC Type 2

โดยมีเส้นสายไฟ LED สีต่างๆ คอยทำหน้าที่แสดงสถานการณ์ชาร์จไฟในรูปแบบเฉพาะตัว เสริมความโดดเด่นให้กับมุมมองด้านหน้าด้วยไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED

Honda e:N1 2025 ด้านท้ายรถ รถไฟฟ้า EV compact city car

Honda e:N1 2025 ด้านท้ายรถ รถไฟฟ้า EV compact city car

Honda e:N1 2025 ด้านท้ายรถ รถไฟฟ้า EV compact city car

ในมุมมองด้านข้าง เผยความเฉียบคมของเส้นสาย Shoulder Line ที่ยาวต่อเนื่องจากชุดไฟหน้าไปถึงชุดไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke รับกับงานดีไซน์ของล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว มาพร้อมยางซีรี่ส์ 225/50 R18

โดยทั้งหมดทั้งมวลอยู่บนมิติตัวถังที่ประกอบด้วย ความยาว 4,380 มม. ความกว้าง 1,790 มม. ความสูง 1,592 มม. วางตัวบนความยาวฐานล้อ 2,607 มม. และความกว้างฐานล้อคู่หน้า 1,539 มม. และคู่หลัง 1,540 มม. โดยมีความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 135 มม. กับน้ำหนักโดยรวม 1,662 กิโลกรัม

ล้ออัลลอย Honda e:N1 2025 ดีไซน์เรียบหรู

ในส่วนของ “มิติตัวถัง” พูดง่ายๆ ว่า “ใกล้เคียง” กับ Honda HR-V ยกเว้นเรื่อง “ความสูงใต้ท้องรถ” และ “น้ำหนัก” ที่ค่อนข้างแตกต่าง เพราะ Honda HR-V มากับความสูงใต้ท้องรถที่มากกว่า คือ 196 มม. ขณะที่ “น้ำหนัก” เบากว่า คือ ราว 1,367–1,404 กิโลกรัม ซึ่งส่วนต่างดังกล่าวน่าจะเกิดจาก “น้ำหนักของแบตเตอรี่” นั่นเอง

ภายในห้องโดยสาร Honda e:N1 2025 EV

พวงมาลัย Honda e:N1 2025 พร้อมปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชัน

ภายในห้องโดยสารมีอารมณ์ความเป็น Honda HR-V ผสมผสานกับวิวัฒนาการความล้ำสมัย ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์ความเป็นยนตรกรรม EV ด้วยไฟ Ambient Light โทนสีฟ้า ลงตัวกับเบาะหนังดีไซน์สปอร์ตโทนสีดำ ตกแต่งด้วยขอบสีขาวและด้ายสีฟ้า

เสริมด้วยออพชั่นที่โดดเด่น เช่น มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว, ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 15.1 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto, ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง,

ตลอดจนจุดชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ไปจนถึงระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา และไม่ลืมความเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV ทำให้ Honda e:N1 มากับเบาะผู้โดยสารด้านหลังที่สามารถแยกพับแบบ 60:40 เพื่อปรับเพิ่มพื้นที่ได้อย่างสะดวกสบาย

Honda e:N1 หมุนปรับช่องแอร์

Honda e:N1 ปุ่มฟังก์ชันบนพวงมาลัย

Honda e:N1 ปุ่มฟังก์ชันบนพวงมาลัย

ความสามารถของ Honda e:N1 เกิดขึ้นจากฐานะของความเป็นยนตรกรรมพลังไฟฟ้า 100% ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e:N Architecture F

โดยมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ขนาด 68.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3-in-1 (Motor, Power Drive Unit และ Gearbox) ซึ่งมีกำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร

และโหมดการขับขี่ปรับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Econ, Normal และ Sport พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วรถ (KERS) หน้าตาคล้ายแป้น Paddle Shift อยู่ที่หลังพวงมาลัย ส่วนการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง สามารถทำระยะทางวิ่งได้สูงสุด 500 กม. (มาตรฐาน NEDC)

หน้าจอ Infotainment Honda e:N1 2025 ด้านหน้าคนขับ

หน้าจอ Infotainment Honda e:N1 2025 ด้านหน้าคนขับ

หน้าจอ Infotainment Honda e:N1 2025 ด้านหน้าคนขับ

ในภาพรวมของการขับขี่ จุดนี้ต้องชื่นชมในความเป็น Honda ซึ่งแม้จะเป็นยนตรกรรมไฟฟ้า 100% แต่อารมณ์ต่างๆ ยังคงอยู่ครบ ตั้งแต่ความรู้สึกจากการควบคุมน้ำหนักพวงมาลัย

ต่อเนื่องไปถึงระบบช่วงล่าง แม็คเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลงด้านหน้า และทอร์ชั่นบีมด้านหลัง ซึ่งแอบรู้สึกได้ถึงความ “ตึงตัง” ที่น่าจะมาจากการปรับให้ “แข็ง” เพื่อรับมือกับน้ำหนักตัวที่มากขึ้น            

และด้วยความ “แข็ง” ของช่วงล่างที่เพิ่มขึ้นนี้เอง ทำให้ Honda e:N1 มีความ “สปอร์ต” ให้สัมผัสได้ชัดเจน ตั้งแต่สัมผัสของพวงมาลัย ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการปรับเซ็ตให้เหมาะสมกับความเป็นยนตรกรรมสไตล์ EV

แถมด้วยธรรมชาติของความเป็น EV ที่พละกำลังมีเท่าไหร่ ก็เสิร์ฟให้ใช้ได้ทันทีตั้งแต่ออกสตาร์ท เพราะฉะนั้น ความสปอร์ต ความกระชับ และความฉับไวของ Honda e:N1 จึงสัมผัสได้ตั้งแต่เริ่มกดคันเร่งเลยทีเดียว 

หน้าจอ Infotainment Honda e:N1 2025 ระบบสื่อสารและแผนที่

หน้าจอ Infotainment Honda e:N1 2025

พูดง่ายๆ ก็คือ Honda e:N1 ให้สัมผัสโดยรวมที่ใกล้เคียงกับความเป็นรถสันดาปภายใน (ICE) ฉะนั้นใครที่ไม่คุ้นเคยกับ EV แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก คล้ายกับกำลังขับขี่อยู่ใน Honda HR-V ที่อัพเกรดพละกำลังให้ดุเดือดยิ่งขึ้น ตอบสนองได้อย่างทันใจ

ดังนั้น สบายใจได้ในเรื่องสมรรถนะการขับขี่ ภายใต้มาตรฐานของแบรนด์ Honda ซึ่งมั่นใจว่าผู้บริโภคที่ได้ลองขับ จะรับรู้ได้ถึงความเหนือชั้นของศักยภาพ          Honda e:N1 2025 ระบบชาร์จไร้สาย Wireless Charging

คอนโซลกลาง Honda e:N1 2025 เกียร์

แต่คำถามคือ … ถ้าผู้บริโภคไม่ได้ลองขับ แต่ตัดสินใจจากเอกสารโบรชัวร์ในมือ Honda e:N1 จะตกเป็นรองทันที โดยเฉพาะเมื่อเอาค่าตัวราว 1.2 ล้านบาทเป็นตัวตั้ง แล้วหารด้วย “ออพชั่น” มาตรฐานที่ให้มา ซึ่งถ้าพูดแบบไม่อ้อมค้อม ในระดับค่าตัวนี้ ยนตรกรรมจากดินแดนหลังม่านไม้ไผ่ ให้มาค่อนข้างเยอะกว่าทีเดียว   

เพราะตามข้อมูลในโบรชัวร์ “เทคโนโลยีด้านการขับขี่” ที่มีมาให้ประกอบด้วย ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA), ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors),

โหมดการขับขี่แบบ Econ, Normal และ Sport, ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB) พร้อมระบบ Auto Brake Hold และมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว                   ปุ่ม Parking และ Brake Hold Honda e:N1 2025

คอนโซลกลาง Honda e:N1 2025 มีปุ่ม Drive Mode

เสริมด้วยระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information – BSI), ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor – CTM), กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera), เซนเซอร์กะระยะ 8 จุด (8-position Parking Sensors) และระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)   

ขณะที่เทคโนโลยีความปลอดภัย จุดเด่นอยู่ที่ Honda SENSING เช่น ระบบเตือนการชน พร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS),

ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน

พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)     

ใช่ครับ … นี่คือทั้งหมดที่ Honda e:N1 มี และเป็นรองทันทีเมื่อเทียบกับยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ จากดินแดนหลังม่านไม้ไผ่ ที่จัดมาให้เพียบในส่วนของ “ออพชั่น” แถมด้วยงานดีไซน์สวยสดใหม่ที่ทำเอาใครเห็นเป็นต้องเหลียวหลัง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า “ตอบโจทย์” ผู้บริโภคที่ชอบความหวือหวาได้อยู่หมัด  

เบาะ Honda e:N1 2025 ด้านหน้า

แล้ว Honda e:N1 ล่ะ? … แน่นอนครับว่า “ออพชั่น” ที่มีให้เพียงพอต่อการใช้งาน อาจทำให้รู้สึกว่า “ราคา” สูงไป และด้อยกว่าคู่แข่งจากดินแดนหลังม่านไม้ไผ่ แต่หากมองถึงสิ่งที่จะได้ ก็คือ ความเป็นแบรนด์ Honda ที่เราคุ้นเคยและมั่นใจกันมาโดยตลอดหลายสิบปี

เพราะฉะนั้น สบายใจได้ในเรื่องบริการหลังการขายว่า Honda e:N1 สามารถเข้าศูนย์บริการที่ไหนก็ได้ในบ้านเรา ภายใต้มาตรฐานจากแบรนด์ Honda

ฉะนั้นสุดท้ายนี้เอาเป็นว่าเรายกให้เป็นหน้าที่ผู้บริโภคตัดสินใจดีกว่า ระหว่าง “ความยั่งยืน” และ “ความฉาบฉวย” แบบไหน “ตรงใจ” คุณที่สุด … !!!

Honda e:N1 2025 มุมเฉียง ด้านหลัง รถไฟฟ้า EV compact city car

Specification: Honda e:N1

  • Price : 1,199,000 BHT
  • Electric Motor : 150 kW / 204 Hp / 310 Nm
  • Transmission : Electric
  • Performance : 0–100 km/h @ N/A / Top Speed @ 160 km/h
  • Weight : 1,662 kg

Check Also

ด้านหน้า Mitsubishi X-Force HEV ULTIMATE พร้อมไฟหน้า LED และกระจัง Dynamic Shield

รีวิว ลองขับ Mitsubishi X-Force HEV 2025 | คอมแพคต์ SUV ไฮบริดใหม่ ขับสนุก ประหยัด ทันสมัย

รีวิว ลองขับ Mitsubishi X-Force HEV Ultimate X 2025 ดีไซน์ Silky & Solid พร้อม 7 Drive …