รีวิว ลองขับ Toyota Corolla Altis HEV GR Sport 2025 สปอร์ตเต็มขั้น แรงตอบสนองดีขึ้น เซอร์ไพรส์เกินคาด

รีวิว ลองขับ Toyota Corolla Altis HEV GR Sport 2025 สปอร์ตหรู พลังไฮบริดลิเธียมไอออนใหม่ ช่วงล่างแน่น พวงมาลัยไว ขับสนุก ออปชั่นจัดเต็ม

รีวิว ลองขับ Toyota Corolla Altis HEV GR Sport 2025 สปอร์ต ขับสนุก

Toyota Corolla Altis HEV GR Sport 

เรียกได้ว่าเป็น “ข่าวดี” อย่างแท้จริงสำหรับแฟนๆ แบรนด์ Toyota ที่กำลังรอคอยการมาของ NEW COROLLA ALTIS เวอร์ชั่นปี 2025 เพราะการมาในครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงการอัปเกรดอารมณ์ความสปอร์ตขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง “สมรรถนะ” การขับขี่ที่ก้าวหน้าไปอีกระดับด้วยเช่นกัน

ขอเกริ่นนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับ NEW COROLLA ALTIS เวอร์ชั่นปี 2025 ที่มีจัดจำหน่ายในบ้านเรา จะมีทั้งหมด 4 รุ่นย่อยหลัก แบ่งเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายใน 2 รุ่น คือ รุ่นเริ่มต้น 1.6 G ราคา 894,000 บาท ก่อนขยับขึ้นมาเป็นรุ่น 1.8 Sport ราคา 979,000 บาท

ส่วนเวอร์ชั่น HEV (Hybrid) ก็มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยเช่นกัน เริ่มต้นที่รุ่น HEV Premium ราคา 1,009,000 บาท และรุ่นสูงสุด Top of the Line ที่เป็นพระเอกของเราในวันนี้ คือ HEV GR Sport ค่าตัว 1,129,000 บาท

ซึ่งมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ก็คือ รูปลักษณ์ทั้งภายนอก และภายใน ที่นำเสนอความเป็น TOYOTA GAZOO Racing ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น สำหรับรุ่น GR Sport อาทิ การเลือกใช้ “สีดำเงาใหม่” ในส่วนของกันชนหน้า, กระจังหน้า, หลังคา และสปอยเลอร์หลัง รับกับล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้วใหม่ และไฟท้าย Full LED แบบ Clear Lens ใหม่ อย่างลงตัว

ภายในห้องโดยสารเป็นอีกจุดเร้าอารมณ์ ด้วยเบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต หุ้มหนัง Suede แบบเจาะรู และหนังสังเคราะห์ เดินด้ายสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และ Lumbar Support แบบไฟฟ้า ใหม่ จับคู่กับเข็มขัดนิรภัยสีแดงสไตล์ GR Sport ใหม่ ที่ลงตัวกับภายในเดินด้ายสีแดง

พร้อมการตกแต่งสีแดง และสีเงิน Smoked Silver ใหม่ โดยไม่ลืมที่จะเพิ่มเติมความเป็น GR Sport เล็กๆ น้อยๆ เข้าไปในรายละเอียดต่างๆ อย่างเช่น พวงมาลัยตกแต่งสัญลักษณ์ GR ใหม่ รวมถึงปุ่ม Push Start และ Smart Key ที่ก็มีการตกแต่งสัญลักษณ์ GR มาให้อีกด้วยเช่นกัน

สิ่งที่น่าสนใจใน NEW COROLLA ALTIS HEV GR Sport เวอร์ชั่นปี 2025 ก็คือ “สมรรถนะ” เนื่องจากมีการอัปเกรดระบบ Hybrid ขึ้นใหม่ ซึ่งโดยหลักๆ ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ VVT-I จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีการอัปเกรดประเภทของชุดแบตเตอรี่ไฮบริดจากเดิม “นิกเกิล เมทัล ไฮไดรด์” ไปเป็น “ลิเธียม ไอออน”

โดยข้อดีแบบสรุปด่วนๆ ให้ฟังก็คือ แบตเตอรี่ “ลิเธียม ไอออน” สามารถ “อัด หรือ คาย ประจุไฟฟ้า” ทำได้กว่า และเมื่อประกอบกับ “ซอฟต์แวร์” ที่ปรับมาใหม่ ก็ยิ่งทำให้ NEW COROLLA ALTIS HEV GR Sport เวอร์ชั่นปี 2025 สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า (EV) ทำระยะทางได้มากขึ้นกว่าเดิม และแน่นอนว่าช่วยให้เกิดการประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้น

โดยมีการเคลมเอาไว้ว่าสามารถทำได้ถึง 23.8 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker) นอกจากนี้แล้ว ด้วยความที่ชุดมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถดึงพลังไฟมาใช้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวดเร็วขึ้น เพราะฉะนั้นจึงรู้สึกได้ว่าการตอบสนองด้านอัตราเร่งทำได้ฉับไวขึ้อีกด้วย

และไม่ใช่แค่นั้น เพราะ NEW COROLLA ALTIS HEV GR Sport เวอร์ชั่นปี 2025 ยังมีการปรับแต่งเพิ่มเติมเป็นพิเศษสำหรับรุ่น GR Sport โดยเฉพาะอีกด้วย คือ ในส่วนของพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (Electric Power Steering) และระบบช่วงล่าง เช่น โช๊คอัพ (Shock Absorber) คอยล์สปริง (Coil Spring) และเหล็กกันโคลงด้านหลัง (Rear Stabilizer Bar)

ที่หากเทียบกับรุ่นย่อย HEV Premium ด้วยกัน หลายๆ คนน่าจะรู้สึกได้ถึง “ความสปอร์ต” ที่ชัดเจนกว่า ตั้งแต่การตอบสนองที่เฉียบคมของพวงมาลัย โดยในโหมด Power น้ำหนักพวงมาลัยจะตึงมือขึ้นอย่างชัดเจน ขณะที่ Normal จะเบาแรงลงมาหน่อย

ส่วน Eco จะเน้นความสบาย คล่องมือเป็นหลัก ซึ่งทั้ง 3 โหมด ต้องบอกว่าอยู่ระดับที่ “สัมผัส” ได้ แต่ก็ไม่ได้ต่างกันอย่างชัดเจน เทียบเท่ากับยนตรกรรมจากฝั่งยุโรป รวมไปถึงการตอบสนองของคันเร่งจากโหมดต่างๆ ทั้ง 3 โหมด เช่นกัน

ช่วงล่าง คือ จุดเด่นที่ต้องยอมรับ ว่าทำได้น่าประทับใจ เพราะแม้จะปรับพิเศษเพื่อความเป็น GR Sport โดยเฉพาะ แต่ก็ไม่ได้ “ตึงตัง” เพื่อเน้นความสปอร์ต หากแต่เป็นการผสมผสานเอาความนุ่มนวล หนักแน่น เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเพิ่มความโดดเด่นในเรื่องของการทรงตัว

และการยึดเกาะถนน บนความเร็วสูง ที่สร้างรอยยิ้มมุมปากให้ผู้ชื่นชอบการขับรถได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับการตอบสนองของระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (Electric Power Steering) ที่ลงตัว เพื่อส่งให้ NEW COROLLA ALTIS HEV GR Sport เวอร์ชั่นปี 2025 มีบุคลิกที่ปราดเปรียวอย่างเหนือความคาดหมาย

เรี่ยวแรงที่แบ่งแยกออกมา คือ 53 กิโลวัตต์ และ แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร จากมอเตอร์ไฟฟ้า ผสมรวมเข้ากับเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ที่ 98 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร รวมทั้งระบบได้ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT อาจดูเป็นตัวเลขที่ไม่มาก

แต่ประเด็นสำคัญ คือ ความหมดจดในการถ่ายทอดกำลัง ที่ทำให้รู้สึกได้ว่ามีเรี่ยวแรงตอบสนองได้ทุกครั้ง ในทุกความต้องการ จนสร้างความมั่นใจในการขับขี่ได้ดี ยกเว้นจุดเดียวที่เราเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะไม่คุ้นเคยซักที

กับเรื่องของ “เสียง” ขณะกดคันเร่งเต็มในช่วงออกตัว ซึ่งรอบที่สูง ตลอดจนแผดเสียงกร้าว นั้นค่อนข้างที่จะเร้าใจไปซักนิด แต่เราก็เชื่อว่าน้อยคนนักจะออกตัวในลักษณะนี้ เว้นแต่เผลอ “จุ่ม” คันเร่งลึก คุณอาจจะรู้สึกได้ว่า “เสียง” จะค่อนข้าง “ก้าวร้าว” ไปซักหน่อย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเข้าใจซักนิด ว่ายนตรกรรม HEV เน้นความนุ่มนวล เน้นความประหยัด เพราะฉะนั้นการเดินคันเร่งนิ่มๆ นวลๆ ควรจะเป็นพฤติกรรมพื้นฐานของผู้ขับขี่ เพราะฉะนั้นถ้าไม่ติดนิสัยจากรถเครื่องยนต์สันดาป เรามั่นใจว่าคุณจะพบกับความเซอร์ไพรส์ในการขับขี่แน่นอนอย่างที่กล่าวไปข้างต้น

ว่า NEW COROLLA ALTIS HEV GR Sport เวอร์ชั่นปี 2025 เปลี่ยนชุดแบตเตอรี่ไปเป็น “ลิเธียม ไอออน” เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นบุคลิกบางอย่างจึงเปลี่ยนไป ด้วยความสามารถด้าน EV ที่มีมากขึ้น เพราะฉะนั้นถ้ามีปริมาณแบตเตอรี่มากพอให้เลือกใช้ EV Mode

พร้อมกับวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. ล่ะก็ … NEW COROLLA ALTIS HEV GR Sport เวอร์ชั่นปี 2025 จึงแทบไม่ต้องปลุกให้เครื่องยนต์ลุกขึ้นมาทำงานเลยก็ว่าได้

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของระหว่างเรา และ COROLLA ALTIS HEV GR Sport เว้นแต่นี่คือ “เวอร์ชั่นปี 2025” ที่มีการอัปเกรดขึ้นใหม่ และสิ่งที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจน คือ การกลับมาในครั้งนี้เหมือนการถือกำเนิดใหม่ ที่มีเซอร์ไพรส์มากมายเหลือเกินให้ค้นหา

เพราะนอกจาก “ดีไซน์” ที่สดใหม่ขึ้น รวมถึง “สมรรถนะ” อันน่าประทับใจกว่าเดิม … “ออปชั่น” ต่างๆ ยังเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้ “เวอร์ชันปี 2025” ของ NEW COROLLA ALTIS HEV GR Sport น่าสนใจกว่าที่คิด ซึ่งจริงๆ แล้ว อาจจะมีมาตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ แต่ขาดความสนใจจากเราไปซักนิด เพราะไปมุ่งเน้นในเรื่องของการขับขี่เป็นหลัก

เพราะหลังจากได้มีโอกาสอยู่ร่วมกันนานพอสมควร ความชัดเจนในเรื่องของ “ออปชั่น” ความสะดวกสบาย จึงเป็นอีกหนึ่งความสะดวกสบายที่เราตระหนักได้ว่าไม่ด้อยไปกว่ารุ่นอื่นๆ เช่นกัน ว่ากันด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, ระบบควบคุม และปรับความเร็วอัตโนมัติ ที่ทำได้ถึง 0 กม./ชม. (All Speed Dynamic Radar Cruise Control),

ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ และระบบเบรกมือไฟฟ้า, เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับไฟฟ้า  8 ทิศทาง พร้อมระบบนวด Lumbar Support แบบไฟฟ้า, ระบบ Smart Entry เปิดประตูอัจฉริยะ สำหรับผู้ขับ ผู้โดยสารตอนหน้า และห้องเก็บสัมภาระตอนท้าย

ตลอดจนเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense พร้อมระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor) ซึ่งทั้งหมดนั้นมากพอ สำหรับตอบโจทย์การใช้งานในทุกรูปแบบ ภายใต้ราคาเพียง 1,129,000 บาท เท่านั้น

Specification: Toyota Corolla Altis HEV GR Sport 

• Price :  1,129,000 BHT
• Engine :  1,798 CC / 4 Cylinder / 16 Valve / VVT-i 98 hp @ 5,200 rpm / 142 Nm @ 3,600 rpm 
• Electric Moto :  53 hp / 163 Nm
• Transmission  :  E-CVT
• Performance :  0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
• Weight :  N/A