ในงาน Toyota Motor Asia Media Day ที่จัดขึ้นควบคู่กับ Japan Mobility Show กลุ่มโตโยต้าในเอเชียได้ประกาศแผนยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญเพื่อขับเคลื่อนภูมิภาคสู่อนาคตแห่งการสัญจรภายใต้วิสัยทัศน์ “Mobility for All” หรือ “การขับเคลื่อนเพื่อทุกคน”
ที่มุ่งสร้างโอกาสในการเดินทางให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม ปลอดภัย และยั่งยืน พร้อมแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 10 รุ่นทั่วเอเชียภายใน 3 ปีข้างหน้า และเริ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ในประเทศไทยและอินโดนีเซียภายในสิ้นปีนี้
โตโยต้าเอเชียเดินหน้ากลยุทธ์ Multi-Pathway เพื่อมอบโซลูชันยานยนต์ที่เหมาะสมกับพลังงานและความต้องการของแต่ละประเทศ โดยยึดหลัก “Best in Town – ดีที่สุดในเมือง” “Customers Come First – ลูกค้ามาก่อน”
และ “Start by Doing – เริ่มต้นด้วยการลงมือทำ” เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์การสัญจรที่เหมาะกับตนเองมากที่สุด ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และตอบโจทย์วิถีชีวิตที่แตกต่างของผู้คนในภูมิภาค
วิสัยทัศน์ “Best in Town”
ภายใต้วิสัยทัศน์ “Best in Town” โตโยต้ามุ่งพัฒนารถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละพื้นที่ในเอเชีย ผ่านเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง ตัวอย่างที่เห็นชัดคือแพลตฟอร์ม IMV (Innovative International Multi-Purpose Vehicle)
ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายและเหมาะสมกับสภาพตลาดของแต่ละประเทศ ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคเติบโต แข็งแรง และยั่งยืน
นอกจากนี้ โตโยต้าจะเปิดตัวรถยนต์ในตระกูล IMV รุ่นใหม่ รวมถึง IMV BEV เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการทางเลือกด้านพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ
“Customers Come First”
ในส่วนของ “Customers Come First” โตโยต้าเน้นการรับฟังเสียงของลูกค้าและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับทุกคน ผ่านแบรนด์ในเครือ ได้แก่ Toyota, Lexus, GR, Century และ Daihatsu
ซึ่งต่างมีบทบาทในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน เพื่อมอบอิสระแห่งการขับเคลื่อนอย่างแท้จริง หนึ่งในไฮไลต์ของปีนี้คือการเปิดตัว Land Cruiser FJ รุ่นใหม่ ที่จะผลิตในประเทศไทย
โดยยังคงเอกลักษณ์ด้านความทนทาน สมรรถนะออฟโรด และความสนุกในการขับขี่ที่เป็นตำนานของ Land Cruiser แต่เพิ่มความทันสมัยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น
ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)
โตโยต้ายังแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนในการเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ด้วยกลยุทธ์ Multi-Pathway
ที่เปิดกว้างให้กับเทคโนโลยีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฮบริดประหยัดพลังงาน (HEV) รถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รถไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ไปจนถึงรถเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (FCEV) เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกโซลูชันที่เหมาะกับชีวิตและสิ่งแวดล้อมของตนเองได้อย่างแท้จริง
ในปีนี้ โตโยต้าจะเริ่มผลิตรถยนต์ BEV ในไทยและอินโดนีเซีย พร้อมเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดราคาประหยัดรุ่นใหม่อย่าง Yaris ATIV Hybrid เพื่อขยายการเข้าถึงรถไฟฟ้าในกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป และยังมีแผนทดลองใช้เชื้อเพลิงชีวภาพและพัฒนาโครงการสถานีเติมไฮโดรเจนในภูมิภาคเอเชีย
ภายใต้พันธกิจ “30 by 30 Mission” โตโยต้าตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า (xEV) ให้ได้ถึง 30% ของตลาดอาเซียนภายในปี 2030
โดยคาดว่ายอดขายสะสมจะเกิน 1.5 ล้านคัน ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 8 ล้านตัน หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 25 ล้านต้น ถือเป็นอีกก้าวสำคัญสู่เป้าหมาย “Carbon Neutral Asia” ที่จะสร้างประโยชน์ให้ทั้งผู้คนและสิ่งแวดล้อม
โตโยต้ายังดำเนินโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เช่น “Move Your World” ที่ส่งเสริมการสร้างแรงบันดาลใจและการเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่ในเอเชีย
รวมถึงโครงการ Toyota Mobility Foundation (TMF) ที่ร่วมมือกับพันธมิตรในหลายประเทศเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและระบบข้อมูลที่ช่วยแก้ไขปัญหาการจราจร เพิ่มความปลอดภัย และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน
ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่
- Website: https://www.toyota.co.th/
- Facebook: Toyota Motor Thailand
- LINE ID: @ToyotaThailand
- TikTok: @ToyotaMotorTH
- X: @ToyotaMotorTH
- Instagram: @toyotamotorthailandofficial
TorqueThailand.com









