รถใหม่: Mercedes-Benz EQC Edition 1886 (2020)

รถใหม่ ล่าสุด: Mercedes-Benz EQC Edition 1886 ตัวเลข 1886 ที่ต่อท้ายชื่อคือความหมายแฝงในการให้เกียรติให้แก่ Karl Friedrich Benz

รถใหม่: Mercedes-Benz EQC Edition 1886 พละกำลังอยู่ในระดับ 402 แรงม้า

หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆ เราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้

Mercedes-Benz EQC Edition 1886 คือ ยนตรกรรมในฐานะ Limited Special Edition ซึ่งตัวเลข 1886 ที่ต่อท้ายชื่อคือความหมายแฝงในการให้เกียรติให้แก่ Karl Friedrich Benz บิดาผู้ให้กำเนิดยานยนต์ชื่อ Benz Patent-Motorwagen ที่ใช้เชื้อเพลิงเบนซิน และได้รับการยอมรับว่าเป็นรถยนต์คันแรกของโลกในยุคนั้น

จุดเด่นของ Mercedes-Benz EQC Edition 1886

โดยจุดเด่นของ Mercedes-Benz EQC Edition 1886 มีความแตกต่างในเรื่องของรูปลักษณ์ ที่เพิ่มความสปอร์ตด้วยตัวถังโทนสีเงิน Metallic High-Tech Silver ตัดด้วยความโดดเด่นจากชุดกระจังหน้าสีดำ

และโทนสีดำเงา High-Gloss Black ในส่วนของตราสัญลักษณ์ EQC Edition 1886 บริเวณซุ้มล้อหน้า ตลอดจนล้ออัลลอยที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาวลาย 10 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว

ห้องโดยสารเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ ตัดเย็บแบบงานฝีมือ และยกระดับความหรูด้วยวัสดุหนัง Artico สลับ Dinamica

ภายในห้องโดยสารมากับเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ ตัดเย็บแบบงานฝีมือ และยกระดับความหรูด้วยวัสดุหนัง Artico สลับ Dinamica โทนสีฟ้า Indigo Blue และสีดำ ซึ่งสร้างความโดดเด่นด้วยงานปักอักษร EQC Edition 1886 ที่พนักพิง

พร้อมการประทับตราที่คอนโซลกลาง และพรมพื้นที่มากับอักษร “EQC” ตามด้วยการติดตั้งแพคเกจ Energizing ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างอารมณ์สบาย ๆ ในห้องโดยสาร

ชาร์จไฟจาก Mercedes-Benz Wallbox ได้เร็วกว่า 3 เท่า

ด้าน “สมรรถนะ” ของ Mercedes-Benz EQC Edition 1886 นั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ โดยยังคงมากับเครื่องชาร์จออนบอร์ดระบายความร้อนด้วยน้ำ (OBC) ขนาด 7.4 กิโลวัตต์

ที่สามารถชาร์จไฟแบบกระแสสลับ (AC) ได้ทั้งที่บ้าน และสถานีชาร์จสาธารณะ ในขณะที่การชาร์จไฟจาก Mercedes-Benz Wallbox นั้นสามารถชาร์จได้เร็วกว่า 3 เท่า

พละกำลังอยู่ในระดับ 402 แรงม้า พร้อมแรงบิด 764 นิวตันเมตร

ส่วนพละกำลังที่มีให้ใช้นั้นอยู่ในระดับ 402 แรงม้า พร้อมแรงบิด 764 นิวตันเมตร โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แยกติดตั้งที่เพลาหน้า และหลัง เพื่อทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ All-wheel drive จากระบบส่งกำลังแบบ Single Speed

ซึ่งเคลมอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ถูกจำกัดไว้ 180 กม./ชม. โดยสามารถวิ่งได้ไกลถึงระดับ 450-471 กม. เมื่อชาร์จแบตเตอรีลิเธียมไอออนความจุ 80 kWh เต็ม

Credit: www.NetCarShow.com