Breaking News

รีวิวทดสอบรถ Mercedes-Benz เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต

รีวิวทดสอบรถ Mercedes-Benz โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จัดทัพเชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จำนวน 5 รุ่นในเส้นทางกรุงเทพฯ – ภูเก็ต

รีวิวทดสอบรถ Mercedes-Benz-กรุงเทพ-ภูเก็ต-starfest-2018-2.jpg
Mercedes-Benz StarFest 2018

รีวิวทดสอบรถ Mercedes-Benz เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต

บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด สร้างสีสันการตลาดครึ่งปีหลัง จัดงานแสดงรถยนต์ “Mercedes-Benz StarFest 2018” แบบคาราวานทั่วประเทศไทย ขนทัพยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Mercedes-Benz S-Class Coupé และ Mercedes-Benz S-Class Cabriolet พร้อมด้วยรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์อื่น ๆ อีกกว่า 7 รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ ทั้ง

  • Compact Car
  • Contemporary Luxury
  • Dream Car, SUV
  • Mercedes-AMG

พร้อมเชิญ สื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จำนวน 5 รุ่นได้แก่

  1. CLA 250 AMG Dynamic
  2. E 300 Cabriolet AMG Dynamic
  3. GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD
  4. E 350 e AMG Dynamic
  5. S 350 d AMG Premium

ในเส้นทางกรุงเทพฯ ภูเก็ต

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงยึดมั่นในแนวคิดที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของแบรนด์รถยนต์หรูในประเทศไทย โดยสำหรับกิจกรรม “Mercedes-Benz StarFest” ถือเป็นอีกหนึ่งงานแสดงรถยนต์ประจำปีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ลูกค้าให้ความสนใจเป็นอย่างดี ซึ่งจากฐานลูกค้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เพิ่มมากขึ้นในทุกปี ทำให้เมื่อปีที่ผ่านมา

ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ริเริ่มจัดกิจกรรมสตาร์เฟส ในรูปแบบของคาราวานขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศไทย ได้สัมผัสยนตรกรรมอันล้ำสมัยของเรากันอย่างใกล้ชิด ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต

พร้อมนำสุดยอดสมรรถนะ แต่ยังเปี่ยมไปด้วยความหรูหราอย่าง Mercedes-Benz  S-Class Coupe และ Mercedes-Benz S-Class Cabriolet มาจัดแสดงแก่สาธารณชนเป็นครั้งแรก รวมถึงการขนทัพรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อื่น ๆ อีกกว่า 7 รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ ทั้ง Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car, SUV และ Mercedes-AMG ไปให้ลูกค้าดาวสามแฉกได้ชมกันอย่างใกล้ชิด

รีวิวทดสอบรถ Mercedes-Benz-กรุงเทพ-ภูเก็ต-starfest-2018-3.jpg
รีวิวทดสอบรถ Mercedes-Benz เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต
รีวิวทดสอบรถ Mercedes-Benz-กรุงเทพ-ภูเก็ต-starfest-2018-4.jpg
รีวิวทดสอบรถ Mercedes-Benz เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต

โดยเราเดินทางไม้เดียวจากกรุงเทพมุ่งสู่ภูเภ็ต ระยะทางกว่า 850 กิโลเมตร ด้วยจำนวนรถที่มีมาหลากหลายรุ่น ก็คงยากที่จะขับให้ครบทุกรุ่น โดยการเดินทางครั้งนี้ เราได้พาหนะคู่ใจ 2 รุ่น โดยในช่วงแรกเราใช้ Mercedes-Benz S 350 d AMG Premium ด้วยชื่อรุ่นก็กินขาดเรื่องความสะดวกสบาย

และยังรวมถึงคุณสมบัติอัจฉริยะมากมายที่ส่งผลให้สมาชิกลำดับล่าสุดของรถยนต์ตระกูล The S-Class ถือเป็นอีกขั้นของการพัฒนานวัตกรรมรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ โดยดีไซน์ภายนอก หรูหราทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ  3 ก้าน งามสง่าด้วยไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ULTRA RANGE ที่ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตรโดยอัตโนมัติหากไม่พบรถยนต์ที่วิ่งสวนทางมา รวมถึง ไฟ daytime สำหรับขับขี่กลางวันแบบ LED 3 เส้น รับกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi-spoke ขนาด 20 นิ้ว

Mercedes-Benz S 350 d AMG Premium มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 2,925 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 286 แรงม้า ที่ 3,400-4,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,200-3,200 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 6.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมีระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (AIRMATIC) พร้อมระบบควบคุมแบบอัตโนมัติ เพื่อมอบการขับขี่ที่นุ่มนวล โดยในระหว่างทางฝนตก แต่ด้วยระบบความปลอดภัยรวมไปสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของช่วงล่าง แม้จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ก็สามารถตะลุยฝ่าฝนได้อย่างไม่มีปัญหา แม้จะใช้ความเร็วที่สูง การควบคุมพวงมาลัยและตัวรถยังคงเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ หลังจากใช้ระยะเวลาอยู่หลายชั่วโมง กับระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร และหลังจากพักทานข้าวกลางวัน เราก็มีการสลับรถอีกครั้ง

โดยเราได้มาอยู่หลังพวงมาลัยของ Mercedes-Benz GLC 250 d 4MATIC รถอเนกประสงค์ ที่มีปรัชญาทางการออกแบบที่ต้องการสื่อถึงความสวยงามและเรียบง่าย สะท้อนผ่านเส้นสายลวดลายที่โค้งมน ผสมผสานความดุดัน ความสะดวกสบาย หรูหรา เทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้อย่างลงตัว

สำหรับ Mercedes-Benz GLC 250 d 4MATIC มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System และไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED fibre-optic เพื่อการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ ลายเส้นด้านข้างถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย เสริมโครงสร้างตัวรถให้ดูทรงพลังและสง่างามไปพร้อมกัน รวมถึงเพิ่มความดุดันด้วยล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์ภายใน ถูกออกแบบโดยเน้นความหรูหรา ทันสมัย ด้วยลายไม้แบบ Open-pore brown ash wood แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงกลิ่นอายของความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิม

พร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ และเกียร์อัตโนมัติ แบบ 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600 -1,800 รอบต่อนาที  อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 222 กม./ชม. ที่ได้ทั้งสมรรถนะในการขับขี่ แต่แถมพ่วงด้วยความประหยัดจากขุมพลังดีเซล

ซึ่งแม้ถนนอาจจะมีความขุรขระบ้างเป็นช่วง แต่ด้วยความเป็นรถทรงสูงทำให้การแล่นผ่านเป็นเรื่องง่าย ช่วงล่างซับแรงกระทำจากพื้นถนนได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารแทบไม่รู้สึก โดยวันนั้นฝนตกทั้งวัน ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทำให้การขับขี่บนสภาพพื้นถนนเปียกนั้นมั่นใจมากขึ้น โดยรถวิ่งบนถนนได้อย่างมั่นคงไม่มีอาการเสียสูญให้เรารู้สึก แม้เราจะใช้ความเร็วสูงพอสมควร

รีวิวทดสอบรถ Mercedes-Benz-กรุงเทพ-ภูเก็ต-starfest-2018-5.jpg
Mercedes-Benz StarFest 2018
รีวิวทดสอบรถ Mercedes-Benz-กรุงเทพ-ภูเก็ต-starfest-2018-6.jpg
Mercedes-Benz StarFest 2018

จากการขับขี่ทำให้เรารู้ว่าทำไม เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงเป็นหนึ่งที่คนทั่วโลกมั่นใจและเชื่อใจ รวมไปถึงการยอมรับจากผู้คนมากมาย ซึ่งในประเทศไทยในช่วงปีสองปีที่ผ่านมานี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า ทำไม! จึงเป็นอันดับหนึ่งในตลาดรถหรูในบ้านเรา

Check Also

Honda City Hatchback 2024 TURBO RS

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback 2024 TURBO RS เสริมความสปอร์ต เน้นความประหยัดสำหรับ Hot Hatch ตัวจริง

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback TURBO RS เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO ให้กำลัง 122 …