Breaking News

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในตระกูล Mercedes-AMG ถึง 5 รุ่น

ข่าวสด รถยนต์ วันนี้ (1/05/19) เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในตระกูล Mercedes-AMG พร้อมกันถึง 5 รุ่น ตอกย้ำความเป็นผู้นำ

Mercedes-Benz Thailand
Mr. Roland Folger and Mr. Frank Steinacher

ข่าวสด: เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในตระกูล Mercedes-AMG ถึง 5 รุ่น

หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆ

เราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้

Mercedes-Benz Thailand
Mr. Roland Folger, President and CEO of Mercedes-Benz (Thailand) Limited

มร. โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับเป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษแล้วที่แบรนด์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์รถสปอร์ตระดับแถวหน้า ที่โดดเด่นทั้งในด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ต

และด้านการพัฒนารถยนต์ที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาแบรนด์ได้เติบโตขึ้น และมีการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างมากมาย โดยยังคงยึดถือหลักการสร้างสรรค์รถยนต์ที่สามารถ ‘ขับเคลื่อนทุกสมรรถนะ – Driving Performance’

เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ ที่พร้อมส่งมอบเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และ เต็มเปี่ยมด้วยนวัตกรรมเพื่อมอบความเร้าอารมณ์ให้กับทุกการขับขี่ให้กับผู้ใช้รถอยู่เสมอ จากความเอาใจใส่ในความต้องการของลูกค้า

และการสร้างความมั่นใจในตัวแบรนด์นี้เอง ที่ทำให้รถยนต์ภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีมียอดขายพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนยอดขาย ทั่วโลกถึงหกหลักในปีพ.ศ. 2561”

เปิดตัวเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี รุ่นใหม่ล่าสุดถึง 5 รุ่น

Mercedes-AMG

สำหรับในประเทศไทย วันนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ กับการเปิดตัวเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี รุ่นใหม่ล่าสุดถึง 5 รุ่น ได้แก่

  • Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé (เปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
  • Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé (เปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
  • Mercedes-AMG G 63
  • Mercedes-AMG C 43 4MATIC รุ่นประกอบในประเทศ
  • Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ

1 ช่างฝีมือ ต่อเครื่องยนต์ 1 เครื่อง – one man, one engine

“การนำเสนอรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที แบบคูเป้ 4 ประตูนั้นเป็นเครื่องยืนยันว่า โรงงานของเราที่เมืองซินเดลฟิงเก้นเป็นโรงงานผลิต และพัฒนารถยนต์หรูชั้นสูงที่เยี่ยมยอดอย่างแท้จริง รถยนต์รุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือของทีมงานที่มีทั้งความสามารถ

และความเอาใจใส่ในการผลิตรถยนต์เป็นอย่างมาก ซึ่งเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีใช้ปรัชญาการผลิตเครื่องยนต์ทุกเครื่อง แบบ “1 ช่างฝีมือ ต่อเครื่องยนต์ 1 เครื่อง – one man, one engine” กล่าวคือ

เครื่องยนต์ของรถยนต์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีแต่ละคันจะผลิตด้วยมือ และใช้ช่างฝีมือเพียง 1 คนเท่านั้นตลอดกระบวนการประกอบ และในขั้นตอนสุดท้าย ช่างฝีมือที่ประกอบเครื่องยนต์แต่ละเครื่อง

จะเซ็นชื่อของตนลงบนแผ่นโลหะที่ติดอยู่บนฝาครอบเครื่องยนต์เพื่อเป็นการรับรองคุณภาพ และมาตรฐาน ซึ่งก่อนปี พ.ศ. 2563 ที่กำลังจะมาถึงนี้ กลุ่มบริษัทเดมเลอร์จะลงทุนประมาณ1.5 พันล้านยูโร

ที่โรงงานผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีแห่งนี้ เพื่อสานต่ออนาคตของบริษัท ด้วยการปรับเปลี่ยนให้โรงงานมีความทันสมัยเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้นในอนาคต

พร้อมลงทุนเพิ่มอีก 600 ล้านยูโรเพื่อการวิจัยและพัฒนาอีกด้วย ซึ่งส่งผลให้การลงทุนในครั้งนี้มีมูลค่ารวมกว่า 2.1 พันล้านยูโร” มร.โรลันด์ กล่าวเพิ่มเติม

3 รุ่นไฮไลท์ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากต่างประเทศ

Mercedes-Benz Thailand
Mr. Frank Steinacher, Vice President of Sales and Marketing, Mercedes-Benz (Thailand) Limited

มร. ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นอกจาก Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé

และ Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé ที่จะเปิดตัววันนี้เป็นครั้งแรกแล้ว บริษัทฯ ยังนำเสนอรถยนต์อีก 3 รุ่นไฮไลท์ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากต่างประเทศอย่าง

Mercedes-AMG G 63 รถยนต์ที่ถือเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์หรูแบบออฟโร้ด ที่เราได้เสริมความแรงด้วยเครื่องยนต์สมรรถนะสูง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสภาพอากาศ และทุกสภาพถนนมากยิ่งขึ้น

รวมถึงรถยนต์รุ่นประกอบในประเทศอีก 2 รุ่น อย่าง Mercedes-AMG C 43 4MATIC และ Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ ที่ในครั้งนี้นำเสนอในรูปแบบของรถยนต์นั่ง 4 ประตู

ซึ่งได้รับการปรับโฉมทั้งในด้านรูปลักษณ์ สมรรถนะ อัตราการใช้พลังงาน และความรู้สึกขณะขับขี่ตามสไตล์เอเอ็มจี โดยมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุดอย่างระบบอีคิวบูสท์ (EQ Boost)

ในรถยนต์ Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé และ Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ พร้อมทั้งบริการ Mercedes me connect”

Mercedes-AMG

ยอดขายเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ในไตรมาสแรกในปีนี้เติบโตขึ้นกว่า 79%

นับตั้งแต่การเปิดตัวแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อปีพ.ศ. 2560 ที่เราได้แนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ 4 รุ่น อย่าง

  • Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé
  • Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC
  • Mercedes-AMG GT R
  • Mercedes-AMG GT C Roadster

เราได้รับการตอบรับ และความเชื่อมั่นจากลูกค้าเป็นอย่างดี และเราได้เดินหน้ารุกตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอรถยนต์อีก 6 รุ่น ได้แก่

  • C 43 4MATIC Coupé LOCAL PRODUCTION
  • GLC 43 4MATIC Coupé LOCAL PRODUCTION
  • E 63 S 4MATIC+
  • C 43 4MATIC Coupé (Facelift) LOCAL PRODUCTION
  • CLS 53 4MATIC+
  • Mercedes-AMG GT S

ในปีพ.ศ. 2561 ซึ่งทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นถึง 309% เมื่อเทียบกับปี 2017 โดยในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเน้นนำเสนอรถยนต์ที่ลูกค้าสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ ประเดิมด้วยการเปิดตัวรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีไปแล้ว 2 รุ่น คือ

  • Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ
  • Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupé รุ่นนำเข้า

โดยยอดขายเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีใน ไตรมาสแรกในปีนี้เติบโตขึ้นกว่า 79% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา”

การเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ในประเทศไทย

“การเปิดตัวทั้ง 5 รุ่นในวันนี้ จะไม่เพียงแค่สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ในประเทศไทย ที่ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 18 รุ่น

ครอบคลุมทั้งตระกูล 43, 45, 53, 63, 63 S และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที โดยในปีนี้ ทางบริษัทฯ ยังเตรียมมอบเซอร์ไพรส์ให้กับทุกท่าน ด้วยการวางแผนนำเสนอรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีรุ่นใหม่ถึง 5 รุ่นทั้งรุ่นนำเข้า และรุ่นประกอบในประเทศ

ซึ่งนอกจากรถยนต์รุ่นใหม่แล้ว ทางบริษัทฯ ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของกิจกรรม สานสัมพันธ์ระหว่างบริษัท และลูกค้าของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีทุกท่าน จึงได้จัดเตรียมกิจกรรมไว้มากมาย

ไม่ว่าจะเป็น AMG Private Lounge คอมมูนิตี้สำหรับกลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีโดยเฉพาะ เพื่อรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมที่ทางบริษัทฯ จัดขึ้นทั้งในประเทศไทย และกิจกรรมจากค่ายเอเอ็มจีทั่วโลกอีกด้วยด้วย

นอกจากนี้ เรายังเตรียมจัด AMG Driving Academy เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ผู้ชื่นชอบความเร็วแรงทุกท่าน ได้สัมผัสรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีอย่างใกล้ชิด

ภายใต้คำแนะนำของทีมนักขับมืออาชีพ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีอย่างเป็นทางการทั้ง 13 แห่ง ทั่วประเทศที่พร้อมมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของกลุ่มรถยนต์สมรรถนะสูงโดยเฉพาะ”

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

  • Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé
    Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé

Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe

Mercedes-AMG GT 4-Door Coupé เป็นสมาชิกใหม่ของรถยนต์ตระกูล AMG GT ที่พัฒนาขึ้นตามแนวคิด “ชีวิตคือ การแข่งขัน – Life is a race” และเป็นรถสปอร์ต 4 ประตูรุ่นแรกที่เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีพัฒนาเองทุกกระบวนการรถยนต์รุ่นนี้

เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของความสะดวกสบาย ความเร้าใจ และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเพื่อการขับขี่ในทุกสถานการณ์ รวมถึงตัวเลือกเพื่อการปรับแต่งได้ตามรสนิยม และนวัตกรรมยานยนต์รุ่นล่าสุดเพื่อความสปอร์ตในทุกจังหวะ

Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe

ดีไซน์ภายนอก: ของ Mercedes-AMG GT 4-Door Coupé เป็นรถสปอร์ต 4 ประตูที่มีรากฐานมาจากทั้งรถยนต์ตระกูล SLS และ AMG GT, กระจังหน้าแบบ AMG-Specific radiator grille พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์,

aerofoil ที่สามารถยืดและหดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, หลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า อีกทั้งยังมีดิสก์เบรก AMG high-performance ท่อไอเสียคู่แบบ Two round twin tailpipe เฉพาะของ AMG

Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe

และล้ออัลลอย AMG น้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว 5 ก้านคู่ และระบบไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่มีหลอดไฟ LED 84 หลอดต่อข้าง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด

ดีไซน์ภายใน: ของรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น เหมาะสมกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ หน้าจอแบบ Widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 หน้าจอ ที่มาพร้อมกับระบบ MB Audio 20

Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe

ที่มีฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Apple CarPlay™ และ Android Auto, พวงมาลัยแบบ AMG Performance สปอร์ตท้ายตัด

หุ้มหนัง nappa และ Touchpad แบบใหม่ที่สะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system

Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe

โดย Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé มาพร้อมเบาะด้านหลังแบบ 3 ที่นั่ง หุ้มด้วยหนัง ARTICO ตัดสลับ DINAMICA microfibre

ในขณะที่ Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé มาพร้อมเบาะที่นั่งด้านหน้าแบบ AMG Performance Seats ที่สามารถปรับให้กระชับกับสรีระ

Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe

เพิ่มความสบายแต่แฝงด้วยความสปอร์ต อย่างลงตัว เบาะด้านหลังตกแต่งด้วยหนังสุดหรูระดับไฮ-คลาส พร้อมที่นั่งเดี่ยวที่ให้ความสบาย เสมือนนั่งอยู่บนเครื่องบินชั้นธุรกิจ

นวัตกรรม และเทคโนโลยี ของ Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé มาพร้อมกับระบบอีคิวบูสท์ (EQ Boost) มอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษ

Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe

ที่เป็นตัวกลางช่วยประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับระบบเกียร์ และยังสามารถสร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ได้

AMG Performance 4MATIC+ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่จะรักษาความสมดุล และเสถียรภาพของรถได้เป็นอย่างดีในทุกสภาพถนน

  • ระบบช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL+ ที่ใช้ระบบ ADS+ สามารถปรับได้ 3 ระดับตามสไตล์การขับขี่ และสภาพถนน
  • ระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่สามารถปรับได้ 3 โหมด คือ Sport, Sport+ และ Individual
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus)
  • ระบบ Active Braking Assist ที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์คันอื่น หรือ คนเดินถนนในบริเวณทางแยก
  • ระบบกุญแจรถยนต์แบบ KEYLESS-GO
  • ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist) ที่มาพร้อมกับกล้อง 360 องศา

โดย Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé ใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 BITURBO ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 639 แรงม้า

Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe

และมาพร้อมกับระบบควบคุมการเลี้ยวด้วยล้อหลัง (AMG Rear Axle Steering) AMG DYNAMIC PLUS package ที่ช่วยเสริมพลศาสตร์ยานยนต์ และลักษณะรถยนต์แบบสปอร์ต

นอกจากยางรองแท่นเครื่องยนต์ และที่ยึดเกียร์แบบไดนามิกแล้ว แพ็กเกจดังกล่าวยังมีระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตที่ปรับให้แน่นขึ้น รวมถึงระบบบังคับเลี้ยวแบบพิเศษด้วย

Mercedes-AMG GT 4-Door Coupé ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9-speed ที่มีชุดคำสั่งเฉพาะ

ที่ช่วยให้ระยะทดกำลังเมื่อเปลี่ยนเกียร์สั้นที่สุด ซึ่งทำให้ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นได้เร็วกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ในโหมด Sport+ และโหมดกำหนดเอง

Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé ราคา 9,990,000 บาท

  • รุ่น: Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé
  • เครื่องยนต์: เบนซิน 6 สูบ แถวเรียง
  • ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี): 2,999
  • แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที): 435 / 6,100
  • แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที): 520 / 1,800 – 5,800
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที): 4.5
  • ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.): 285

Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé ราคา 14,990,000 บาท

  • รุ่น: Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé
  • เครื่องยนต์: เบนซิน V8
  • ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี): 3,982
  • แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที): 639 / 5,500-6,500
  • แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที): 900 / 2,500-4,500
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที): 3.2
  • ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.): 315

Mercedes-AMG G 63

Mercedes-AMG G 63

เป็นรถยนต์ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของรถยนต์ G-Class ในตระกูล Mercedes-AMG ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ และสถานะการเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์หรูแบบออฟโร้ดเอาไว้อย่างมั่นคง

ดีไซน์ภายนอก: Mercedes-AMG G 63 ได้รับการออกแบบให้สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์เอเอ็มจี และมีรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยโครงสร้างตัวถังทรงสี่เหลี่ยมที่ใช้เหล็กกล้าหลากหลายระดับ

Mercedes-AMG G 63

มีความทนทาน และแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าโครงสร้างเดิมถึง 55% และยังช่วยดูดซับเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่สปอยเลอร์ ฝากระโปรงหน้า และประตูใช้อลูมิเนียมเป็นวัสดุหลัก

รถคันนี้มาพร้อมกับหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ล้ออัลลอย AMG ขนาด 21 นิ้ว 5 ก้านคู่ ไฟหน้าทรงกลมที่ใช้ระบบMULTIBEAM LED เทคโนโลยีขั้นสูง

Mercedes-AMG G 63

ที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยสูงสุด ไฟเลี้ยวแบบเชื่อมเข้ากับตัวถัง กันชนเสริมที่ดูดุดันเข้ากับแถบสีดำเงา และตราสัญลักษณ์เอเอ็มจีสีเงิน ที่แขวนยางอะไหล่ด้านหลัง

พร้อมฝาปิดที่ทำจากสแตนเลสที่มีตราสัญลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์แบบ 3 มิติ ด้านหน้าของตัวรถเป็นกระจัง และกันชนหน้าของเอเอ็มจีที่มีท่อรับอากาศด้านข้าง และเก็บขอบเป็นสีเงินอิริเดียม

Mercedes-AMG G 63

นอกจากนี้ส่วนหลังคาของรถยังเชื่อมต่อกับโครงสร้างตัวถังด้วยกระบวนการเชื่อมโดยใช้แสงเลเซอร์แทนที่การเชื่อมแบบอัด ซึ่งช่วยให้ส่วนหลังคาเรียบเนียนและแข็งแกร่งกว่าเดิม พร้อมทั้งยังมีการเชื่อมหน้าต่างเข้ากับตัวถังโดยตรงเป็นครั้งแรกเพื่อให้ตัวถังแข็งแกร่งขึ้น ลดการสึกกร่อนของกรอบหน้าต่างด้วย

ดีไซน์ภายใน: มีการตกแต่งภายในแบบใหม่ เพื่อให้ห้องโดยสารมีความทันสมัยและใหญ่ขึ้นในทุกมิติ คือ ยาวกว่าเดิม 101 มิลลิเมตร กว้างกว่าเดิม 121 มิลลิเมตร และสูงกว่าเดิม 40 มิลลิเมตร

Mercedes-AMG G 63 Mercedes-AMG G 63

มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาแบบ IWC แบบเฉพาะของ AMG และแผงหน้าปัดทั้งแบบ analog และแบบดิจิทัลที่ใช้หน้าจอ widescreen ขนาด 12.3 นิ้ว 2 หน้าจอ

ที่เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวภายในกระจกขนาดใหญ่ สามารถแสดงผลได้ 3 แบบคือ Classic, Sporty และ Progressive และแสดงภาพด้วยระบบ COMAND Online บนจอแสดงผล

Mercedes-AMG G 63 Mercedes-AMG G 63

มีพวงมาลัย AMG Performance แบบท้ายตัดหุ้มหนัง NAPPA ตัดสลับ DINAMICA Microfibre มีขอบโค้งจับได้กระชับมือ และส่วนนูนที่ช่วยบอกตำแหน่งการจับเพื่อช่วยให้ควบคุมรถได้ง่าย

ช่องลมของเครื่องปรับอากาศออกแบบให้เป็นทรงกลมเพื่อรับกับไฟหน้า และชุดไฟแสดงสถานะของรถบนแผงคอนโซล มือจับบนเพดานเพื่อช่วยในการเข้าออกของผู้โดยสารตอนหน้า

Mercedes-AMG G 63 Mercedes-AMG G 63

สวิตช์ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบช่วงล่างที่เป็นสีเงินโครเมี่ยม เบาะที่นั่งทั้งหมดหุ้มหนัง nappa ที่มีปีกเบาะเสริมการปกป้องด้านข้างของผู้โดยสารที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษมากมาย เช่น

ระบบจดจำการปรับตั้งค่าเบาะที่นั่ง ระบบอุ่นเบาะสำหรับทุกคนในห้องโดยสาร และพนักพิงศีรษะสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า เบาะหลังสามารถพับลงได้ 3 ตอน คือ 40%, 60% และ 100%

Mercedes-AMG G 63

อีกทั้งยังติดตั้งระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system และระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 สี

นวัตกรรม และเทคโนโลยี:

  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ: ที่เน้นการกระจายกำลังไปที่ล้อคู่หลังแบบ 40:60
  • ระบบช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL: ที่เป็นระบบมาตรฐานของรถยนต์รุ่นนี้ สามารถปรับได้ตามสไตล์การขับขี่ และสภาพถนน โดยระบบจะอ้างอิงข้อมูลต่าง ๆ เช่นทิศทาง และความเร็วของรถ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับได้ 3 โหมด คือ Comfort, Sport, และ Sport+
  • ระบบ Active Lane Keeping Assist: ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนช่องจราจรโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • ระบบ Active Braking Assist: ที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์คันอื่น หรือ คนเดินถนนในบริเวณทางแยก
    Mercedes-AMG G 63 มีอัตราการใช้พลังงานแบบผสมที่ 13.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบผสมที่ 299 กรัมต่อกิโลเมตร มาพร้อมกับ
  • ระบบเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9-speed Sport ที่มีชุดคำสั่งเฉพาะที่ช่วยให้ ระยะทดกำลังเมื่อเปลี่ยนเกียร์สั้นที่สุด ช่วยให้ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นได้เร็วกว่าเดิม โดยเฉพาะ เมื่อขับขี่ในโหมด Sport+ และโหมดกำหนดเอง

Mercedes-AMG G 63 ราคา 14,790,000 บาท

  • รุ่น: Mercedes-AMG G 63
  • เครื่องยนต์: เบนซิน V8
  • ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี): 3,982
  • แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที): 585 / 6,000
  • แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที): 850 / 2,500 – 3,500
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที): 4.5
  • ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.): 220

Mercedes-AMG C 43 4MATIC รุ่นประกอบในประเทศ

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

รถยนต์กลุ่ม C-Class เป็นรถยนต์กลุ่มที่มียอดจำหน่ายสูงสุดของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และมีส่วนช่วยเสริมสร้างให้แบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูงนี้ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน

ซึ่งการพัฒนารถยนต์ตระกูล 43 ในปีพ.ศ. 2558 นั้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้าง และสานต่อความสำเร็จของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีมาจนถึงปัจจุบัน ความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

และเสียงตอบรับอันเยี่ยมยอดจากผู้เป็นเจ้าของเป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนารถยนต์ C 43 รุ่นปรับโฉมในทุกด้าน ทั้งรูปลักษณ์ สมรรถนะ อัตราการใช้พลังงาน และความรู้สึกขณะ ขับขี่ตามสไตล์เอเอ็มจี

ดีไซน์ภายนอก: ของรถยนต์รุ่นนี้ ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าเอเอ็มจีก้านคู่ตกแต่งด้วยสีเงิน แบบด้าน ฝากระโปรงหน้าที่ปรับแต่งด้วยเส้นสายใหม่ให้สวยงามกว่าเดิม

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

โครงสร้างบังคับทิศทางลมที่ยกตัวขึ้นจากฝากระโปรงหน้าที่ได้รับการออกแบบให้ช่วยควบคุมการไหลเวียนของลมที่ปะทะด้านหน้าของตัวรถให้ดียิ่งขึ้น สเกิร์ตข้างที่ดีไซน์ให้เข้ากับล้ออัลลอยน้ำหนักเบา แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว จากเอเอ็มจี

โดยช่องลม และองศาก้านล้อได้รับการปรับปรุงอย่างละเอียดในอุโมงค์ลมเพื่อให้การไหลเวียนของอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการพัฒนาล้ออัลลอยนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

น้ำหนักรถ และความร้อนที่ระบบเบรกที่ส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะ และอัตราการใช้พลังงาน ฝากระโปรงหลังยังมาพร้อมกับโครงสร้างบังคับทิศทางลมที่ดูสะดุดตา
รวมถึงดิฟฟิวเซอร์สไตล์ใหม่ที่ช่วยพัฒนาการไหลเวียนของอากาศด้านหลังตัวรถพร้อมท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ แบบ Two round twin tailpipe look

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับประตูแบบไร้ขอบ กรอบกระจกมองข้างสีดำแบบลอยตัว จากตัวถัง ขอบตกแต่งสีดำเงาบริเวณด้านข้างตัวรถ และกรอบหน้าต่าง เส้นสายด้านข้างตัวรถที่ ยาวลงไปถึงซุ้มล้อหลัง

ตกแต่งรอบคันด้วย AMG Bodystyling (กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง) เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED และ ULTRA RANGE Highbeam

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

ที่มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่เหนือกว่าระบบไฟหน้า LED มาตรฐาน สามารถปรับความสว่าง และความยาวของลำแสงไฟหน้าให้ส่องได้ไกลกว่า 650 เมตร รวมถึงหลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

ดีไซน์ภายใน: มาพร้อมชุดเบาะที่นั่ง AMG Sport Seats ด้วยวัสดุหุ้มหนัง ARTICO ตัดสลับ DINAMICA กับคุณสมบัติการอุ่นเบาะที่ปรับได้ 3 ระดับ เสริมทั้งพนักพิงหลังและปีกทั้ง 2 ข้าง

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

เพื่อปกป้องด้านข้างของผู้ขับขี่ขณะขับรถด้วยความเร็วสูงได้ดียิ่งขึ้น พนักพิงศีรษะที่ออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อช่วยปลุกเร้าความสปอร์ตภายในห้องโดยสาร เพิ่มเติมความสะดวกสบายด้วยแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว

ที่มีโหมดการแสดงผล 3 แบบในสไตล์เอเอ็มจี คือ Classic, Sporty และ Progressive พร้อมระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่าย และมีความยืดหยุ่นสูงในการควบคุม เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกคำสั่งต่าง ๆ ได้สะดวกรวดเร็ว

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

และสอดคล้องกับสภาพการขับขี่ด้วยความเร็วสูง รวมถึงผู้ขับขี่ยังจะได้พบกับความสปอร์ต เร้าใจมากกว่าที่เคยด้วยพวงมาลัย 3 ก้านท้ายตัดแบบ AMG Performance Steering Wheel หุ้มด้วยหนัง nappa

ที่มีรูปทรงสปอร์ตท้ายตัดที่ออกแบบเป็นวงโค้งอย่างสมบูรณ์แบบ สามารถใช้คำสั่งหรือก้านควบคุมต่าง ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้นคันเกียร์ที่คอพวงมาลัยชุบวัสดุโลหะ และรองรับโหมดเกียร์ธรรมดา และ Touchpad 2 ข้าง

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

ที่คอพวงมาลัยซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาในรุ่นนี้ โดยด้านซ้ายใช้ควบคุมแผงหน้าปัด และ Cruise Control ด้านขวาใช้ควบคุมระบบมัลติมีเดีย ระบบโทรศัพท์ ระบบสั่งการด้วยเสียง เป็นต้น

นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมีระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า หน้าจอมัลติมีเดีย Apple CarPlay™ ขนาด 10.25 นิ้ว

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

ทำงานร่วมกับ Audio 20 GPS พร้อม Touchpad และ Controller ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® ตกแต่งภายในด้วย AMG Matt Silver Glass-Fibre

นวัตกรรม และเทคโนโลยี: Mercedes-AMG C 43 4MATIC มาพร้อมกับชุดคำสั่งเอเอ็มจี เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้การขับขี่มีความสปอร์ตจนถึงขีดสุด ได้แก่

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

  • หน้าจออุณหภูมิของเหลว (Warm-up): ที่แสดงอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และแรงดันในโหมด Boost
  • หน้าจอการตั้งค่า (Setup): แสดงข้อมูลของโหมดการขับขี่ที่ใช้งานอยู่ การตั้งค่าระบบ กันสะเทือน โหมดการปล่อยไอเสีย การตั้งค่าระบบ ESP® และเกียร์ที่ใช้อยู่
  • หน้าจอแรงจี (G-Force): แสดงแรงจีปัจจุบันที่กดลงมาที่ตัวรถ เมื่อผู้ขับขี่ใช้ความเร็วใด ๆ และให้คำแนะนำในการขับขี่ให้เหมาะสม
  • หน้าจอจับเวลา (Race Timer): สำหรับการจับเวลาโดยตัวผู้ขับขี่เอง ซึ่งสามารถจับเวลาต่อรอบพร้อมทั้งแสดงรอบที่ใช้เวลาน้อย และมากที่สุดได้พร้อมกัน รวมถึงระยะที่ขับขี่ และความเร็วเฉลี่ย
  • หน้าจอข้อมูลเครื่องยนต์ (Engine data): แสดงแรงบิด และกำลังเครื่องยนต์แบบ กราฟแท่ง รวมถึงแรงดันในโหมด Boost

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ยังติดตั้งหน้าจอดิจิทัลสำหรับแสดงความเร็ว และเกียร์ปัจจุบัน เมื่อเปิดการใช้งานโหมดเกียร์ธรรมดา โดยสัญลักษณ์ตัว M สีเหลืองจะปรากฏขึ้นมาที่หน้าจอ

รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่มีให้เลือก 5 โหมด คือ

  • Comfort
  • Sport
  • Sport+
  • Individual
  • โหมดการขับขี่ใหม่ คือ Slippery เพื่อช่วยกระจายกำลังให้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ และเหมาะสมกับสภาพถนนที่เปียกเพราะฝน หรือ หิมะ

Mercedes-AMG C 43 4MATIC LOCAL PRODUCTION

Mercedes-AMG C 43 4MATIC รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 4,310,000 บาท

  • รุ่น: Mercedes-AMGC 43 4MATIC รุ่นประกอบในประเทศ
  • เครื่องยนต์: V6 สูบ
  • ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี): 2,996
  • แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที): 390 / 6,100
  • แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที): 520 / 2,500 – 5,000
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที): 4.7
  • ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.): 250

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ LOCAL PRODUCTION

ดีไซน์ภายนอก: ได้รับการออกแบบให้สะท้อนสมรรถนะที่เหนือกว่า ผ่านรูปลักษณ์ที่น่าหลงใหล และลายเส้นด้านข้างที่ดูทรงพลัง ฝากระโปรงและช่องพาวเวอร์โดม พร้อมตกแต่งกระจกมองข้าง

และขอบบานกระจกด้วยสีดำที่ช่วยเสริมความสปอร์ตขึ้นไปอีกขั้น ท่อไอเสียแบบ AMG Sport exhaust system ปลายท่อไอเสียคู่แบบ 2 round twin tailpipe look

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ LOCAL PRODUCTION

สปอยเลอร์ด้านหลังบนฝากระโปรงท้ายแบบ AMG Spoiler lip ปลายสปอยเลอร์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยเสริมคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20”

ตกแต่งด้วย สีดำ พร้อมเทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยี ไฟเบอร์ออฟติก รวมถึงหลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ LOCAL PRODUCTION

ดีไซน์ภายใน: มาพร้อมกับการตกแต่งห้องโดยสารด้วยวัสดุ Metal-weave และ Black piano เบาะที่นั่งหุ้มของเอเอ็มจี และตราสัญลักษณ์เอเอ็มจี ด้วย ARTICO leather ตัดสลับ DINAMICA Microfibre เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

พวงมาลัยแบบ AMG Performance steering wheel หุ้มหนัง nappa ตกแต่งด้วย DINAMICA Microfibre ที่เป็นพวงมาลัยนิรภัยพร้อมเพาเวอร์ปรับระดับด้วยไฟฟ้า

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ LOCAL PRODUCTION

แบบปรับน้ำหนักตามระดับความเร็ว เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า รวมถึงเพลิดเพลินกับระบบมัลติมีเดีย อย่าง

หน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ Digital widescreen cockpit ระบบ MB Audio 20 พร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Apple CarPlay™

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ LOCAL PRODUCTION Mercedes-AMG E 53 4MATIC+

และ Android Auto ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system รวมถึงระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 สี

ด้านความปลอดภัย และเทคโนโลยี: มีระบบอีคิวบูสท์ (EQ Boost) ที่ถูกใส่เข้ามาในรถยนต์รุ่นนี้เป็นครั้งแรก เพื่อช่วยในการออกตัวรถ และควบคุมการทำงานของระบบไฮบริด

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ LOCAL PRODUCTION

โดดเด่นด้วยระบบปรับรูปแบบการขับขี่แบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้โหมดการขับขี่ให้สอดคล้องกับความต้องการได้

ซึ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถสัมผัสถึงการขับขี่แบบเร้าใจ หรือ การขับขี่แบบนุ่มสบายตลอดการเดินทางได้ในคันเดียว

  • ระบบกุญแจ KEYLESS-GO พร้อมเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติไม่ต้องใช้มือ (HAND-FREE ACCESS)
  • ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2-Zones
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist)
  • ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System)
  • ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist)
  • ระบบนำทาง (navigation system)
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมเทคโนโลยี AMG Performance 4MATIC+
  • ระบบตรวจเช็คลมยาง (Tyre pressure monitoring system)
  • ระบบช่วงล่างแบบถุงลม AMG RIDE CONTROL+ Suspension

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ LOCAL PRODUCTION

และยังมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถยนต์รุ่นประกอบในประเทศนี้อีกด้วย ได้แก่

  • ระบบเตรียมความพร้อมของรถยนต์
  • ระบบเช็คสภาพรถยนต์
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ทางไกล
  • ระบบโทรศัพท์ฉุกเฉินของเมอร์เซเดส-เบนซ์
  • ระบบ Communication module (LTE) เพื่อเชื่อมต่อกับบริการ Mercedes me connect

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 5,260,000 บาท

  • รุ่น: Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ
  • เครื่องยนต์: เบนซิน แถวเรียง 6 สูบ
  • ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี): 2,999
  • แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที): 435 / 6,100
  • แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที): 520 / 1,800-5,800
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที): 4.5
  • ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.): 250

บทสรุป

Mercedes-AMG Launch

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด สร้างสีสันให้กับวงการรถหรูอีกครั้ง เปิดตัวรถสปอร์ตสมรรถนะสูง 5 รุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG เอาใจคนรักความเร็ว และแรงโดยเฉพาะ ยกทัพมาทั้งรุ่น

  • Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé
  • Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé (เปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้)
  • Mercedes-AMG G 63
  • Mercedes-AMG C 43 4MATIC รุ่นประกอบในประเทศ
  • Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ

ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และรูปร่างที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมที่จะยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่รถสปอร์ตขึ้นไปอีกขั้น

นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังพร้อมจัดกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็น AMG Private Lounge คอมมูนิตี้สำหรับกลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และ AMG Driving Academy

ที่จะจัดขึ้นเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมพร้อมสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อย่างเป็นทางการทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ

ติดตามข้อมูลข่าวสารของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ที่

Check Also

Mercedes-Benz StarFest 2024

งาน Mercedes-BenzStarFest 2024 นำทีม The new E-Class จัดเต็มข้อเสนอสุดพิเศษ วันนี้ – 5 มิถุนายน 2567

เมอร์เซเดส–เบนซ์ ประเทศไทย สานต่อความคึกคักของงาน Motor Show 2024 เดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายช่วงหน้าร้อนกับงาน “Mercedes-Benz StarFest 2024” นำเสนอคอนเซปต์ “The Ultimate Experience” ยกทัพยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด …