Breaking News

Lamborghini Urus S สู่มาตรฐานใหม่แห่งซูเปอร์เอสยูวีสายไลฟ์สไตล์ สัมผัสสุดยอดสมรรถนะ ดีไซน์ภูมิฐานและการขับขี่อเนกประสงค์ในหนึ่งเดียว

Lamborghini Urus S

ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) สุดยอดแบรนด์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์หรูระดับโลกสัญชาติอิตาลี ประกาศเปิดตัว Urus S [1] สุดยอดยานยนต์สานต่อความสำเร็จของ Urus รุ่นเดิมที่เคยสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในนิชมาร์เก็ตของซูเปอร์เอสยูวีระดับหรู

มาพร้อมการเพาเวอร์อัปกำลังเครื่องและฟังก์ชั่นอเนกประสงค์เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับในแบบฉบับซูเปอร์เอสยูวีจากลัมโบร์กินี เคียงคู่กับ Urus Performante [2] ใหม่สำหรับนักขับที่ต้องการสัมผัสยนตรกรรมแนวสปอร์ตอันเร้าใจ

“รถยนต์ตระกูล Urus ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถตอบโจทย์กลุ่มนักขับที่ต้องการสุดยอดเอสยูวีที่ผสานการขับขี่แนวสปอร์ตที่สนุกเร้าใจเข้ากับการใช้งานที่สะดวกสบายในทุกวัน เราจึงนำเสนอ Urus S คู่กับ Urus Performante ใหม่เพื่อมอบอีกหนึ่งความสมบูรณ์แบบแห่งดีไซน์สุดหรู สมรรถนะขั้นสุดยอด และฟังก์ชั่นอเนกประสงค์ครบครัน”

สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าว “ความสำเร็จของรถยนต์ตระกูล Urus ซึ่งมียอดการผลิตมากกว่า 20,000 คัน คือบทพิสูจน์แห่งความโดดเด่นในฐานะต้นฉบับแห่งซูเปอร์เอสยูวีที่แท้จริง และ Urus S ตอกย้ำความสำเร็จของเราให้เด่นชัดยิ่งขึ้น”

Lamborghini Urus S

Lamborghini Urus S

Lamborghini Urus S

สุดยอดสมรรถนะ พร้อมรูปลักษณ์ที่ภูมิฐานและการใช้งานอเนกประสงค์

เครื่องยนต์ Twin-turbo V8 มอบกำลังเครื่องยนต์ให้สูงถึง 666 แรงม้า [3] เทียบเคียงกับรุ่น Urus Performante มอบอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์ดียิ่งขึ้นที่ 3.3 กิโลกรัม/แรงม้า เช่นเดียวกับอัตราเร่งเต็มพลังที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ จาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.5 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ใน 12.5 วินาที

โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 305 กม./ชม. ซึ่ง Urus S สามารถเบรกจากระดับความเร็ว 100 กม./ชม. จนรถหยุดนิ่งได้ในระยะทางเพียง 33.7 เมตรเท่านั้น เครื่องยนต์ Twin-turbo ยังมอบสุดยอดแรงบิดสูงสุดถึง 850 นิวตันเมตรที่ 2,300 รอบต่อนาทีถึง 6,000 รอบต่อนาที

ระบบท่อไอเสียที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ในสไตล์ซูเปอร์เอสยูวีจากลัมโบร์กินี มอบพลังเสียงกระหึ่มอย่างมีเอกลักษณ์นับตั้งแต่เริ่มสตาร์ตและให้เสียงที่คมชัดแตกต่างไปในแต่ละโหมดการขับขี่

โครงแชสซีของ Urus ติดตั้งระบบช่วงล่างถุงลมแบบ adaptive เพื่อมอบการขับขี่แนวสปอร์ตที่ตื่นเต้นเร้าใจแต่ยังสามารถขับขี่ได้อย่างราบรื่นบนท้องถนนทั้งในโหมด STRADA, SPORT, CORSA และ EGO พร้อมการตอบสนองแรงบิดที่ฉับไวและการรักษาความเสถียรของตัวรถได้อย่างดีเยี่ยมเพื่อให้เหมาะกับการขับแบบออฟโร้ดทั้งในโหมด TERRA, NEVE และ SABBIA

ด้วยการคาลิเบรตระบบส่งกำลังแบบเดียวกับ Urus Performante ทำให้ Urus S มอบการตอบสนองและสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตามโหมดที่ใช้งาน พร้อมสัมผัสการควบคุมที่หรูหราภูมิฐานเพื่อมอบสุนทรียภาพในการขับขี่ประจำวันจากแชสซีที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีเยี่ยมในทุกรายละเอียด

ด้วยภาพลักษณ์อันโดดเด่นที่ครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งานบนทุกสภาพการขับขี่ ทำให้ Urus S คือซูเปอร์เอสยูวีแนวไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับอย่างแท้จริง

Lamborghini Urus S

Lamborghini Urus S

Lamborghini Urus S

สุดยอดดีไซน์และภาพลักษณ์ที่พร้อมสะกดทุกสายตา

Urus S ยกระดับงานออกแบบยานยนต์อันเป็นเอกลักษณ์และภูมิฐานในทุกมุมมอง โดยเน้นรูปลักษณ์แนวสปอร์ตหากยังคงความหรูหราของยานยนต์ไลฟ์สไตล์ไว้อย่างกลมกลืนเพื่อมอบความโดดเด่นที่แตกต่างจากเอสยูวีรุ่นอื่น ๆ อย่างชัดเจน

ด้วยออปชั่นการปรับแต่งใหม่มากมายทั้งในเรื่องโทนสี อุปกรณ์เสริม ล้อ แพ็คเกจการตกแต่ง และรายละเอียดพิเศษอื่น ๆ ที่แสดงตัวตนของเจ้าของรถได้อย่างชัดเจน ครอบคลุมทั้งความหรูหราภูมิฐานไปจนถึงสัมผัสที่สนุกสนานเร้าใจในแบบสปอร์ต

งานออกแบบกันชนหน้าผนวกเส้นสายอันละเอียดอ่อนเข้ากับการเคลือบผิวแผ่น Skid plate สแตนเลสสตีลสีดำด้านรูปแบบใหม่มาเป็นมาตรฐาน เสริมด้วยเส้นสายสีดำดูภูมิฐานของส่วนตะแกรงหน้า มาพร้อมออปชั่นการตกแต่งถึง 5 รูปแบบที่ผสมผสานทั้งโทนสีตัวรถ การเคลือบสีดำเงา และชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งแบบเงาและด้านอย่างสมดุล

ทำให้คุณตกแต่ง Urus S ให้สะท้อนถึงสไตล์ที่แตกต่างได้อย่างตรงใจที่สุด ส่วนฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบารุ่นใหม่มาพร้อมช่องระบายอากาศสีดำด้าน ซึ่งสามารถเลือกออปชั่นสีดำเงาแบบ Gloss Black

รวมถึงสีตัวรถหรือชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ก็สามารถเลือกได้ทั้งแบบเงาและด้านตามต้องการ พร้อมนำเสนอออปชั่นเด่นคือหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ที่จะเติมเต็มความหรูหราแนวสปอร์ตขั้นสุดให้แก่ Urus S รุ่นใหม่นี้

ส่วนกันชนหลังยังได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความกลมกลืนและขับเน้นความหรูหราในทุกองศา ส่วนล่างได้รับการเคลือบสีดำด้านที่ติดตั้งกับท่อไอเสียคู่ดีไซน์ใหม่พร้อมทำผิว Brushed steel ให้เป็นแบบมาตรฐาน โดยมีออปชั่นสีดำด้านหรือดำเงาได้ตามต้องการ ไปจนถึงการตกแต่งแบบ Ad Personam ในสีโครเมียมโทนสว่าง

Lamborghini Urus S

Lamborghini Urus S

นอกจากล้อขนาด 21 นิ้วแบบมาตรฐาน ยังนำเสนออุปกรณ์ตกแต่งใหม่อื่น ๆ ทั้งล้อ Nath ขนาด 22 นิ้ว แบบ Titanium Matt และ Diamond Polish หรือล้อ Taigete ขนาด 23 นิ้วที่เลือกได้ทั้งสี Bronze และ Diamond Polish

การตกแต่งห้องโดยสารของ Urus S ได้รับการออกแบบโทนสีและส่วนตกแต่งใหม่ทั้งหมด โดยออปชั่น Bi-color Sportivo และ Bi-color Sophisticated แนวใหม่นำเสนอรูปแบบตะเข็บที่สวยหรูเหมือนกับของ Urus Performante โดยการตกแต่งแบบ Bi-color Sportivo จะให้บรรยากาศที่สปอร์ตและดุดัน

ในขณะที่ Bi-color Sophisticated จะมอบความหรูหราภูมิฐานและการตกแต่งด้วยโทนสีเฉพาะอย่างมีสไตล์ โดดเด่นด้วยการใช้หนังสีดำเนื้อละเอียดมาจับคู่กับโทนสีใหม่ที่ตัดกันอย่างงดงามร่วมกับสี Blu Leandro และ Verde Aura ที่พัฒนาใหม่ ควบคู่ไปกับสีแทน ครีม และน้ำตาลอย่างลงตัว

ยิ่งไปกว่านั้น Urus S ยังมอบโอกาสพิเศษแก่นักขับให้สามารถปรับแต่งรถยนต์ในฝันให้โดนใจที่สุดด้วยโทนสีและอุปกรณ์ตกแต่งใหม่อีกมากมายที่จะช่วยเน้นภาพลักษณ์อันเปี่ยมพลังและคงไว้ซึ่งความงดงามภูมิฐานที่พร้อมสะกดทุกสายตาบนท้องถนน

Lamborghini Urus S

Lamborghini Urus S

Lamborghini Urus S

Lamborghini Urus S

Urus S มาพร้อมระบบการเชื่อมต่อออนไลน์ที่ครบครันทั้งระบบการนำทาง ระบบความปลอดภัยและบริการควบคุมมากมายจากภายในตัวรถ โดยสามารถใช้งานได้ผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน รวมถึงการควบคุมจากสมาร์ตวอชต์ อาทิ ฟังก์ชั่น Virtual Car Key

Urus S มาพร้อมระบบการเชื่อมต่อออนไลน์ที่ครบครันทั้งระบบการนำทาง ระบบความปลอดภัยและบริการควบคุมมากมายจากภายในตัวรถ โดยสามารถใช้งานได้ผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน รวมถึงการควบคุมจากสมาร์ตวอชต์ อาทิ ฟังก์ชั่น Virtual Car Key

  • [1] ยานยนต์ยังไม่มีการเสนอขายจึงไม่เข้าข่ายตามระเบียบข้อบังคับ Directive 1999/94/EC ส่วนข้อมูลด้านการใช้พลังงานและการปล่อยไอเสียกำลังอยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติ
  • [2] ข้อมูลด้านการใช้พลังงานและการปล่อยไอเสียของรุ่น Urus Performante คือ Fuel Consumption Combined: 14,1 l/100km (WLTP); CO2-emissions Combined: 320 g/km (WLTP)
  • [3] Urus S นำเสนอในตลาดจีนในรุ่นกำลังเครื่องยนต์ 640 แรงม้าตามข้อกำหนด

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:

Check Also

50 Years of Turbo

พบกับปอร์เช่ที่งาน Retro Classic ในเมืองสตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี ที่มาในธีม “เหนือกว่าสมรรถนะ – 50 ปีของปอร์เช่ เทอร์โบ” ณ งานนิทรรศการ การแสดงสินค้าในวันที่ 25 ถึง 28 เมษายน 2024

งาน Retro Classics ที่เมืองสตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี เป็นงานที่รวมพลกลุ่มผู้ชื่นชอบรถคลาสสิกและรถสปอร์ตจากทั่วทุกมุมโลก สำหรับปอร์เช่ งานนี้ ไม่ได้เป็นเพียงงานแสดงสินค้าทั่วไป แต่ยังเป็นงานประจำปีที่พลาดไม่ได้ โดยงานจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 28 …