Breaking News

รีวิว FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE 449 แรงม้า ราคา 4,899,000 บาท

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE ขุมพลังเครื่องยนต์ 5.0 ลิตร V8 ที่ 7,000 รอบ/นาที สูงสุดเท่าที่ Mustang GT เคยมีมา

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

นี่คือ American Muscle ขนานแท้ ที่ยังคงสืบทอดเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน สายเลือดของ Mustang ยังคงเข้มข้นไม่เปลี่ยนแปลง มันเกรี้ยวกราด, เหี้ยมเกรียม และพยศราวกับเสพสเตียรอยด์ไปเกินขนาด หลังจาก Ford ยอมผลิต Mustang รุ่นพวงมาลัยขวาเมื่อปี 2015 เจ้าม้าป่าก็เริ่มออกล่าอาณานิคมไปทั่วโลก…

แต่แน่นอนว่า การเกิดมาเป็นสปอร์ตคาร์ขนานแท้ไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนรัก แม้จะอยู่ในโหมดที่ช่วงล่างระบบ MagneRide ถูกปรับให้นุ่มนวลที่สุด แต่ Mustang ก็ยังคงส่งแรงสั่นสะเทือนมายังห้องโดยสารได้อย่างชัดเจน ต้องขอบคุณพวงมาลัยน้ำหนักเบาและตำแหน่งเบาะนั่งที่เหมาะเจาะ ซึ่งช่วยให้อะไรๆ ดูง่ายดายขึ้น มีเนื้อที่เหลือเฟือสำหรับผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า

ในขณะที่เบาะหลังก็พอให้อาศัยได้ในระยะทางสั้นๆ เช่นเดียวกับที่เก็บสัมภาระท้ายรถซึ่งค่อนข้างจำกัด แถมยังต้องแบ่งพื้นที่ไว้ให้ซับวูเฟอร์อีกด้วย ดังนั้น ควรตัดข้าวของที่ไม่จำเป็นออกจากลิสต์สำหรับทริปขับรถเล่นสุดสัปดาห์ออกไปบ้าง เพื่อให้แน่ใจว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะเสียบเข้าไปท้ายรถได้

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

วัสดุภายในห้องโดยสารเพิ่มเติมจาก Mustang รุ่นก่อนหน้านี้อีกเล็กน้อย มีการตกแต่งด้วยโลหะมากขึ้น และฟลอร์คอนโซลก็บุด้วยวัสดุที่นุ่มกว่าเดิม… นิดนึง… มีพลาสติกแข็งๆ ให้เห็นทั่วห้องโดยสารไปหมด เราจึงขอแนะนำให้เบี่ยงเบนความสนใจของพวกมนุษย์เฟอร์เฟคท์ด้วยการอวดหน้าจอขนาด 12 นิ้วหลังพวงมาลัย

นี่คือจุดที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดที่สุด จากเดิมที่เป็นมาตรวัดแบบเข็ม มาเป็นจอ LCD ที่คมชัด น่าทึ่งด้วยกราฟฟิกที่ตื่นตาตื่นใจ และสีสันแพรวพราวราวกับ ลาส เวกัส ยามค่ำคืน ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการทำงานของรถจะโชว์ที่นี่

ซึ่งนอกจากข้อมูลพื้นฐานจำพวกรอบเครื่องยนต์, ความเร็ว, อุณหภูมิ แล้ว ยังสามารถแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะของรถ อาทิ แรง G, เวลาต่อรอบ (ในสนามแข่ง), แรงเบรค และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้น คุณยังสามารถ Customize การแสดงผลบนหน้าจอได้หลากหลายอีกด้วย เจ๋งมั้ยล่ะ!?!?

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

สำหรับตัวถังภายนอกไม่ได้มีการปรับปรุงอะไรมากมายนัก ที่เห็นได้ชัดก็คือไฟหน้าทรงใหม่และฝากระโปรงลาดต่ำกว่าเดิม ส่วนท้ายรถก็มีไฟท้ายที่แตกต่างจากรุ่นที่แล้วเล็กน้อย และสปอยเลอร์บนฝาท้ายซึ่งติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในขณะที่ตลาดต่างประเทศต้องสั่งติดตั้งเพิ่มเติม

นอกจากนั้น ปัจจุบันยังมีสีเทา “Carbonize Grey” เหมือนคันทดสอบของเรา มาให้เลือกเพิ่มเติมอีกด้วย ที่ผมชอบที่สุดก็คือ ทั่วทั้งตัวถังภายนอกไม่มีโลโก้ Ford ให้เห็น (โอเค… มีอยู่บนกระจกหน้าที่นึง แต่ก็อยู่หลังฟิล์มดำ) ไม่มีแม้กระทั่งอักษร Mustang จะมีก็เพียงแค่สัญลักษณ์รูปม้าเท่านั้น

นี่คือการโอ้อวดที่เงียบเชียบ ทว่าบ่งชี้ถึงความเกรียงไกรของ Mustang ได้เป็นอย่างดี… ใช่แล้ว มองเพียงแวบเดียว ใครๆ ก็บอกได้ทันทีว่ามันคือ “MUSTANG” ไม่ต้องพูดให้เจ็บคอ!

แต่ผู้เป็นเจ้าของ Mustang อาจต้องเจ็บคอหน่อยถ้ามีคนถามเรื่องสมรรถนะของมัน เพราะคุณจะเล่าได้อย่างไม่รู้จบ

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

เราแหวกว่ายผ่านความหนาแน่นของตัวเมืองมาสู่มอเตอร์เวย์ในที่สุด ไม่รีรอที่จะเปลี่ยนสู่โหมด Sport เพื่อดื่มด่ำพละกำลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ระบบ MagneRide สั่งช่วงล่างให้ขึงตึงขึ้น คุณสามารถเรียกใช้เครื่องยนต์ขนาด 449 แรงม้า กับแรงบิดมหาศาลที่ 529 นิวตันเมตร ได้ทันใจขึ้นผ่านคันเร่งที่ปรับให้ตอบสนองฉับไวกว่าตอนที่อยู่ในโหมด Normal อย่างเห็นได้ชัด

กดคันเร่งลงให้ลึก และ Mustang จะตอบแทนด้วยแรงฉุดจนตัวของคุณกดแน่นกับพนักพิง ท่อไอเสียที่เปิด (เกือบ) หมดเปลือก ปลดปล่อยเสียงคำรามลั่นดุจบทเพลงในฉากไล่ล่าของหนังสยองขวัญ

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

นี่คือเครื่องยนต์ 5.0 ลิตร V8 ที่ปั่นรอบเครื่องได้ถึง 7,000 รอบ/นาที สูงสุดเท่าที่ Mustang GT เคยมีมา ผลจากการพัฒนาระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบใหม่ ช่วยให้มันทำแรงม้าได้มากขึ้นและให้อัตราเร่งที่ดีในทุกย่านความเร็ว หัวฉีดหลักจะจ่ายน้ำมันแรงดันสูงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง

ขณะที่หัวฉีดอีกชุดจะจ่ายเชื้อเพลิงด้วยแรงดันต่ำกว่า เข้าสู่พอร์ทไอดี (ช่องนำอากาศเข้าสู้ห้องเผาไหม้) สิ่งที่ได้กลับมาก็คือ แรงบิดสูงตั้งแต่รอบต่ำ, แรงม้ามากขึ้นที่รอบสูง และประหยัดน้ำมันกว่าเครื่องยนต์รุ่นเก่า

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

Mustang สามารถเร่งจากจุดหยุดนิ่งสู่ 100 กม./ชม. ได้ใน 4.3 วินาที แต่ในความเป็นจริงกลับรู้สึกว่ามันทำได้เร็วยิ่งกว่า ความดีความชอบนี้ต้องยกให้กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ รุ่นใหม่ของ Ford มันเป็นเกียร์ชุดเดียวกับที่ถูกนำมาใช้สำหรับงานฉุดลากน้ำหนักบรรทุกในรถกระบะตระกูล F รวมถึง Ranger และ Raptor รุ่นล่าสุด จริงอยู่ที่ Mustang ไม่จำเป็นต้องมีถึง 10 เกียร์ก็ได้

เพราะแรงบิดที่เครื่องยนต์ทำได้นั้น มากพอสำหรับเกียร์ 6-7 จังหวะ ที่มีอัตราทดห่างกว่านี้ แต่จำนวนฟันเฟืองที่มากมายก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ จริงมั้ย? จากข้อมูลที่ได้รับจาก Ford เมื่อเปรียบเทียบเกียร์ชุดนี้กับเกียร์ 6 จังหวะรุ่นก่อน เกียร์ชุดใหม่สามารถเปลี่ยนได้เร็วกว่า, ตอบสนองที่ความเร็วต่ำได้ดีกว่า และสูญเสียพละกำลังของเครื่องยนต์ (ไปกับทอร์คคอนเวอร์เตอร์) น้อยกว่าอีกด้วย

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

ดังนั้นจงอย่าได้แปลกใจหากเกียร์จะเปลี่ยนข้ามจังหวะไปบ้าง บางครั้งมันอาจอยู่ในเกียร์ 3 และเปลี่ยนข้ามไปเป็นเกียร์ 5 หรือ 6 เลย ถ้าคุณไม่ได้กดคันเร่งจนมิดพรม ซึ่งก็เป็นผลดีเพราะทำให้รอบเครื่องยนต์ลดต่ำลง ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น หรือในทางกลับกัน หากคุณต้องการเร่งแซง ชุดเกียร์ก็ขยับสู่เฟืองที่เหมาะสมและส่งตัวถังสุดคลาสสิคของมันพุ่งไปข้างหน้าราวกับกระสุนจากกระบอกปืน

ระบบบังคับเลี้ยวก็สอดรับกับสมรรถนะของรถได้อย่างลงตัว มันสื่อสารตรงไปตรงมา ออกจะขวานผ่าซากไปด้วยซ้ำ คุณต้องใส่ใจกับมันเพิ่มอีกสักหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากบังเอิญไปเจอกับถนนขรุขระเข้าตอนวิ่งด้วยความเร็วสูง มันไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นควบคุมไม่ได้

ทว่าไม่ง่ายดายและเรียบนิ่งเหมือนรถยนต์นั่งทั่วไปเท่านั้นเอง… นั่นแหละ Mustang “ดิบ” คือนิยามที่เหมาะสมที่สุด และเรารู้ว่าคนที่รักการขับ ต่างโหยหานิยามนี้

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

ถูกต้อง! คุณได้ความดิบนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย Mustang จะทำให้คุณปลื้มปิติในวิถีที่ต่างออกไปจากรถสปอร์ตใดๆ บนโลกใบนี้ เข้าสู่โหมด Track และธาตุแท้ของม้าป่าจะถูกเปิดเผยออกมาจนหมดสิ้น พวงมาลัยที่ไวและโผงผาง ตอนนี้เป็นพระเอกของงานตะลุยทางโค้งสุดคดเคี้ยวของถนนลาดยางอันว่างเปล่าที่ลัดเลาะไปตามภูเขา

คุณจะสัมผัสได้ถึงน้ำหนักที่ตึงมือขึ้น ออกแรงเพิ่มอีกหน่อยเพื่อยื้อกับแรง G ที่เกิดขึ้นจากการเหวี่ยงเข้าโค้ง S แคบๆ กระทั่งเปิดจนเห็นทางตรง กดคันเร่งให้จมพื้นแล้วกระโจนสู่โค้งถัดไป Mustang จะพยายามดื้อดึงกับคุณในสถานการณ์ที่ปราศจากระบบช่วยเหลือใดๆ เช่นนี้

มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังขับสปอร์ตคาร์ยุค ‘90s อย่าง Nissan 200SX ที่โมดิฟายมาเต็มเหนี่ยว ทว่า Muscle car แห่งยุค 4.0 หนักแน่นกว่า, ระห่ำ และดุเดือดเลือดพล่าน พลังเบรคจาก Brembo ไร้ข้อกังขาใดๆ มันทำงานได้ดั่งใจสั่ง เพียงพอที่จะหยุดความเกรี้ยวกราดของขุมพลัง V8 ได้อย่างอยู่หมัด

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

Mustang ให้ความมั่นใจได้อย่างเต็มเปี่ยม และเป็นหนึ่งเดียวกับคุณ พริ้วไหวเหมือนกับคู่เต้นรำที่รู้ใจกันมานาน การเพิ่มขนาดเหล็กกันโคลงให้อวบอัดขึ้น ประกอบกับการปรับช็อคอับใหม่ ส่งให้ช่วงล่างเกาะถนนยิ่งขึ้น คุณจะไม่ตำหนิความแข็งกระด้างของมันแม้แต่น้อย เอาเข้าจริงคุณจะหลงรักเสียด้วยซ้ำ ระบบแม่เหล็ก (ซึ่งอยู่ในรูปแบบของเหลว) ที่บรรจุอยู่ในกระบอกช็อคอับ มีลักษณะเหมือนเกล็ดโลหะขนาดเล็กจิ๋วนับล้านๆ ชิ้น

ซึ่งจะถูกควบคุมด้วยขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้าที่สั่งงานมาจากสมองอิเล็กทรอนิกส์ของระบบ MagneRide เพื่อควบคุมความ อ่อน/แข็ง ของช็อคอับให้เหมาะสมกับสภาพถนนและรูปแบบการขับขี่ต่างๆ โดยรับรู้จากปัจจัยแวดล้อม อาทิ คันเร่ง, องศาหักเลี้ยวของพวงมาลัย, แรงเบรค เป็นต้น

จากนั้น มันจะนำข้อมูลมาคำนวนความหนืดที่ช็อคอับต้องการ ณ เวลานั้น ที่น่าทึ่งก็คือ ระบบ MagneRide จะทำการปรับช็อคอับถึง 1,000 ครั้ง/วินาที ซึ่งระบบนี้เป็นหลักการทำงานเดียวกับที่มีในซูเปอร์คาร์อย่าง Ferrari, Lamborghini และอีกหลายๆ แบรนด์

นอกจากนั้น Ford ยังได้ทำการเพิ่มความแข็งแรงให้กับคอม้าและลูกปืนล้อเป็นพิเศษ สำหรับ Mustang ที่ติดตั้งระบบ MagneRide เท่านั้น โดยระบบนี้เป็นออปชั่นในตลาดต่างประเทศ แต่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับ Mustang ทุกรุ่น ที่ Ford ประเทศไทยจำหน่าย

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

นอกจาก Track Mode แล้ว Mustang ยังมีโหมด Drag Strip ให้เลือกอีกด้วย โดยโหมดนี้ระบบ MagneRide จะลดความแข็งของช่างล่างด้านหน้า และปรับให้ด้านหลังแข็งขึ้น ผู้ขับยังสามารถล็อครอบเครื่องเพื่อออกตัวได้อีกด้วย ส่วนอีกโหมดหนึ่งก็คือ Line Lock ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้ควบคู่กับโหมด Drag Strip สำหรับเบิร์นยางคู่หลังเพื่อให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการ Take Off นั่นเอง

แต่ถ้าคุณไม่ได้อยากจะบู๊ล้างผลาญแบบนี้ตลอดเวลาล่ะก็ ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะนี่คือ Mustang ฉบับเอาใจทุกเพศทุกวัย และทุกรูปแบบการขับขี่ มันจึงมาพร้อมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะช่วยประคับประคองและดูแลคุณไม่ให้พลาดท่าให้กับพละกำลังของเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นแทรคชั่นคอนโทรล, ระบบช่วยเหลือและป้องกันการชน ตลอดจนระบบตรวจจับคนเดินเท้า, ไฟสูงอัตโนมัติ ไปจนถึง Adaptive Cruise Control เผื่อคุณอยากจะเดินทางแบบกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ

นอกจากนั้น Mustang ใหม่ ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกพอสมควร แต่ก็อย่าได้คาดหวังว่าจะฟู่ฟ่าแพรวพราวเหมือนรถยนต์นั่งทั่วๆ ไป ในระดับราคาที่เท่ากัน

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

“ใครจะแคร์” ผมรู้ว่าเรามันคอเดียวกัน อย่างน้อยที่สุดเมื่อมันคือ “Mustang” คงดูตลกพิลึกถ้าจะมีอุปกรณ์เว่อร์วังเหมือนกับนั่งอยู่ใน Mercedes แทนที่จะเป็นบรรยากาศแบบมินิมัล อีกประการก็คือ นี่คือ Muscle car ที่มาพร้อมกับแนวคิด “ทุกคนเป็นเจ้าของได้” นั่นหมายถึง การพยายามตัดทอนอุปกรณ์ที่ (อาจจะ) เกินจำเป็น หรือไม่เกี่ยวข้องกับการขับ ออกไปบ้าง เพื่อตีกรอบราคาให้เอื้อมถึงง่ายยิ่งขึ้น

ข้อเท็จจริงก็คือ ในสหรัฐอเมริกาบ้านเกิดของมัน รถสปอร์ตอย่าง Mustang มีราคาใกล้เคียงกับรถซีดาน เช่น Toyota Camry ที่นั่น โดยรุ่น V8 เหมือนคันทดสอบของเรา เริ่มที่ประมาณ 40,000 ดอลลาร์ (ราว 1.3 ล้านบาท) ขณะที่ Camry V6 เริ่มที่ 35,000 ดอลลาร์ (ราว 1.1 ล้านบาท) ดังนั้น สำหรับคนอเมริกัน ถือว่าเป็นมันเป็นรถที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกับซูเปอร์คาร์ ในราคาที่ถูกกว่ากันแบบเห็นๆ

ลืมเรื่องราคาในไทยไปสักครู่ แล้วลองจินตนาการว่าคุณกำลังอยู่ในอเมริกา ผมเชื่อว่าคุณจะเห็นแบบเดียวกับที่คนอเมริกันเห็น… สปอร์ตคาร์ที่สืบเชื้อสายมายาวนาน ถ่ายทอดทอดพันธุกรรมที่เปี่ยมพลัง, นักสู้ที่ไม่ต้องอ้อมค้อมให้เยิ่นเย้อ จากรุ่นสู่รุ่น Mustang คือตำนานที่ยังคงดำเนินเรื่องราวของมันต่อไป และมีผู้คนมากมายที่สามารถครอบครองมันได้ เทียบกับ 1.3 ล้านบาทแล้ว สมรรถนะที่ได้มาถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

รีวิว ทดลองขับ FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE

แล้วคุณก็รู้สึกตัวอีกครั้ง และพบว่าตัวเองอยู่ในประเทศไทย… ในฐานะที่พวกเราเป็นคนไทย เราทุกคนต่างยอมรับและเห็นด้วยกับอัตราภาษีของรถนำเข้า ซึ่งมีเหตุมีผลรองรับชัดเจน เอาล่ะ… ราคา 4.9 ล้าน ก็ยังคงฟังดูน่าสนใจอยู่ดี เมื่อเทียบกับ 449 แรงม้าล่ำบึ้ก และความบันเทิงในแทร็คช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กับเพื่อนๆ ของคุณ บวกกับการรับประกันคุณภาพและสามารถเข้าเซอร์วิสได้ที่ศูนย์ฯ ของ Ford โดยตรง ยิ่งทำให้ Mustang เป็นรถที่น่าครอบครองยิ่งขึ้น

ยังมีรถยี่ห้ออื่นๆ ให้เลือกอีกหลากหลายในราคานี้ แต่ Mustang เป็นเพียงคันเดียวที่มีบุคลิกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างชัดเจน และแทบหาไม่ได้อีกแล้วในรถสมัยนี้… โดยไม่จำเป็นต้องแปะโลโก้ใดๆ ไว้บนรถ

SPECIFICATIONS

  • FORD MUSTANG 5.0L V8 GT PERFORMANCE PACKAGE
  • Price: ฿4,899,000
  • Engine: 4951cc 32v V8, 449ps@7000rpm, 529Nm@4600rpm
  • Transmission: 10-speed automatic, rear-wheel drive
  • Performance: 4.3sec 0-100km/h, 250km/h top speed (limit), 270g/km Co2
  • Weight: 1831kg
  • NCAP rating: 3 stars

Check Also

Honda City Hatchback 2024 TURBO RS

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback 2024 TURBO RS เสริมความสปอร์ต เน้นความประหยัดสำหรับ Hot Hatch ตัวจริง

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback TURBO RS เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO ให้กำลัง 122 …