Breaking News

รีวิว ทดสอบรถ: SUBARU IMPREZA WRX STi ซาลูนสมรรถนะสูงในตำนาน

รีวิว ทดสอบรถ: SUBARU IMPREZA WRX STi เครื่องยนต์ Boxer 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ราคา 3.35 ล้านบาท

SUBARU IMPREZA WRX STi

รีวิว ทดสอบรถ: SUBARU IMPREZA WRX STi ซาลูนสมรรถนะสูงในตำนาน

หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆ

เราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้

SUBARU IMPREZA WRX STi

ซาลูนสมรรถนะสูงในตำนาน ที่ยังคงสืบสานความสนุกในการขับขี่จากรุ่นสู่รุ่น… ทรงพลัง, เฉียบคม และพยศ นี่ไม่ใช่รถที่คุณจะกำราบมันได้ง่ายๆ

SUBARU IMPREZA WRX STi
SUBARU IMPREZA WRX STi

รถสมรรถนะสูงทุกวันนี้ มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว, แม่นยำ และชาญฉลาด คุณสามารถปล่อยให้มันทำหน้าที่ของตัวเองได้โดยไม่มีอะไรต้องกังวล แต่สำหรับผู้คลั่งใคล้รถยนต์หลายคน พวกเรายังคงโหยหาการเหยียบแป้นคลัตช์และ ผลัก-ดึง ด้ามเกียร์ อยู่ มันอาจทำเวลาต่อรอบได้แย่กว่า, สะดวกสบายน้อยกว่า และยุ่งยากกว่า ทว่าสัมผัสแห่ง “กลไก” นั้นมีเสน่ห์ยั่วยวนเกินต้านทาน และมันคือสิ่งที่แทบจะหาไม่ได้อีกแล้วในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ

กระจังหน้าดำเงา พร้อมสัญลักษณ์ STi ที่คุณจะเห็นได้จากอีกหลายๆ แห่งทั่วทั้งคัน
สกู้ปขนาดใหญ่บนฝากระโปรงออกแบบมาเพื่อดักอากาศเข้าสู่อินเตอร์คูลเลอร์ที่ติดตั้งไว้เหนือเครื่องยนต์โดยเฉพาะ 
ไฟหน้าเป็น LED พร้อมระบบปรับทิศทางตามการเลี้ยวของพวงมาลัย และไฟสูงอัตโนมัติที่ปรับการทำงานตามความเร็วและสภาพการจราจร

ผมก็แทบจะลืมไปแล้วว่ายังมีรถเกียร์ธรรมดาขายอยู่ในเมืองไทย จนกระทั่ง Subaru ส่งซาลูนสีนำเงินคันนี้มาให้เทสต์ไดร์ฟ ผมคงไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อของมันให้เสียเวลา เพราะคุณคงทราบดีอยู่แล้ว นี่คือทายาทที่ยังคงต้องนับเป็นรุ่น “ล่าสุด” ของตระกูล Impreza อยู่เช่นเดิม หลังจากเริ่มออกจำหน่ายในปี 2014 เป็นต้นมา Subaru ยังคงลากยาวตัวถังนี้มาจนถึงปัจจุบัน โดยได้รับการปรับโน่นเติมนี่มาเรื่อยๆ ในระหว่าง 6 ปีที่ผ่านมา

กระจังหน้าดำเงา พร้อมสัญลักษณ์ STi ที่คุณจะเห็นได้จากอีกหลายๆ แห่งทั่วทั้งคัน

สิ่งที่เหมือนเดิมเสมอมาก็คือความเร้าใจในการขับขี่ เหยียบคลัตช์แล้วกดปุ่มสตาร์ท เสียงเดินเบาอันเป็นเอกลักษณ์ของขุมพลังสูบนอนจะดังงึมงำออกมาจากปลายท่อไอเสียคู่ วิญญาณของมันยังคงเดิมเหมือนกับที่คุณเคยรู้จักในยุค 90 แน่นอนว่ามันแรงขึ้น ด้วยเครื่องยนต์ Boxer 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 407 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์คอยประคับประคอง

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันเลื่องชื่อของ Subaru ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง! มันช่วยให้รถสามารถเร่งได้อย่างรวดเร็วและเกาะหนึบแม้จะวิ่งบนนถนนเปียกหรือทางลูกรังก็ตาม ระบบควบคุมไดนามิกส์ของรถแบบ Multi-mode ช่วยให้เลือกระดับการแทรกแซงได้ตั้งแต่ Normal สำหรับการขับขี่ทั่วไป, Traction ที่จะเปิดโอกาสให้รถมีการลื่นไถลได้บ้าง และคุณยังสามารถปิดทั้งหมด เพื่อความเร้าใจขั้นสูงสุดได้อีกด้วย!
ท่อไอเสียเก็บเสียงได้ “ดีเกินไป” สำหรับรถสมรรถนะสูงแบบนี้ ไม่มีระบบวาล์ว เปิด-ปิด เหมือนรถสมัยใหม่
ทั่วไป โชคดีที่มีท่อไอเสียแต่งให้คุณเลือกได้จากหลากหลายสำนักแต่ง

ทว่าความดิบและสัมผัสของการทำงานแบบกลไกยังคงอยู่ แป้นคันเร่งและเบรกสำหรับ Heel & toe, อาการรอของเทอร์โบ และคลัตช์ที่ต้องทุ่มสุดแรงเกิดเพื่อเหยียบมัน การขับ Impreza จึงทำให้ภาพจำในอดีตกลับมาชัดเจนอีกครั้ง… รถที่คุณต้องบังคับควบคุมมันด้วยฝีมือ – และโชคชะตา – ตนเอง

ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว มาพร้อมกับยางขนาด 245/40-18 ทั้งสี่ล้อ
ช่องหลังซุ้มล้อหน้า มีไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น…
ชุดเบรกผลิตโดย Brembo โดยคาลิเปอร์คู่หน้าเป็นแบบ 6 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังแบบ 2 ลูกสูบ พวกมันให้พลังในการเบรกมหาศาล, แม่นยำ และให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง มาพร้อมกับระบบช่วยเสริมแรงเบรก และระบบ Brake Override ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้รอบเครื่องสูงเกกินไปในขณะที่คุณเหยียบเบรกและคันเร่งไปพร้อมๆ กัน

300 แรงม้า อาจดูน้อยนิดในปัจจุบัน แต่ Subaru ก็ใส่อาวุธลับเข้าไปเพื่อให้ Impreza ไม่ใช่รถที่จะถูกข่มเหงได้ง่ายๆ … เกียร์ 6 จังหวะ อัตราทดชิด และฟลายวีลน้ำหนักเบา คือตัวการสำคัญที่ช่วยให้มันเร่งได้เร็วเป็นพายุ รอบเครื่องฟาดพรวดเดียวสู่เรดไลน์เมื่อกดคันเร่งจนมิดพรม มันเร็วมากๆ และคุณก็ต้องสาละวนอยู่กับการเปลี่ยนเกียร์ไปมา ประคองรอบเครื่องไว้อย่าให้ต่ำกว่า 3,000 รอบ/นาที ที่ซึ่งเทอร์โบจะสร้างแรงบูสต์ได้เพียงพอสำหรับการเร่งต่อไป แล้ว Impreza จะฉุดตัวคุณให้จมติดอยู่ในเบาะ

สีซิลเวอร์เมทัลลิกที่กระจกมองข้าง ช่วยให้รถดูมีลูกเล่นมากขึ้น
ขุมพลัง EJ20 “คอแดง” ที่สาวก Impreza รู้จักเป็นอย่างดี มาพร้อมกับความจุ 2.5 ลิตร บวกด้วยเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า และ 400 นิวตันเมตร

มันยอดเยี่ยมมากเมื่ออยู่บนเส้นทางที่เป็นโค้งต่อเนื่อง ด้วยพวงมาลัยที่คมกริบ, สื่อสารชัดเจน และเซ็ตมาค่อนข้างไว ร่วมกับช่วงล่างแน่นหนึบและเบรกอันทรงพลังจาก Brembo ทั้งหมดส่งให้ WRX มีชีวิตชีวาอย่างยิ่งเมื่อกระหน่ำโค้ง ชื่อชั้นของยนตรกรรมที่สืบทอด DNA มาจากรถแข่งแรลลี่ยังคงตลบอบอวนอยู่ในทายาทรุ่นหลังคันนี้ ทีมวิศวกรเลือกที่จะปรับปรุงเรื่องของแฮนด์ลิงมากกว่ามุ่งเน้นไปที่พละกำลัง

ห้องโดยสารที่เรียบง่ายตามสไตล์ของ Impreza ไม่มีอะไรซับซ้อนที่นี่เพราะสิ่งที่คุณต้องโฟกัสมีเพียงการขับขี่เท่านั้น
พวงมาลัยขนาดเหมาะมือ ระบบบังคับเลี้ยวตอบสนองได้เป็นอย่างดี สื่อสารชัดเจน และฉับไวสำหรับโค้งต่อเนื่อง มันคือกุญแจสำคัญที่ทำให้รถคล่องแคล่วอย่างยิ่งในสนามแข่งและการขับแบบจิมคาน่า ทว่ากลับควบคุมยากเมื่ออยู่ในโค้งยาวๆ หรือขณะขับที่ความเร็วสูง
สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและระบบสั่งงานด้วยเสียง ส่วนชุดควบคุมระบบครูสคอนโทรลติดตั้งมาให้ที่ก้านฝั่งขวา
มาตรวัดแบบเข็ม อ่านค่าได้ง่ายและมองเห็นชัดเจน จอแสดงผลขนาด 3.5 นิ้ว สามารถเรียกดูค่าการทำงานได้หลากหลาย เลือกเปลี่ยนได้จากก้านด้านข้างของพวงมาลัย

ดังนั้น จงอย่าแปลกใจที่แม้จะไม่ได้แรงไปกวารุ่นเก่า แต่มันไปได้เร็วยิ่งขึ้น มีการลดจุดยึดต่างๆ ของช่วงล่างให้ต่ำลง, เพิ่มความแข็งของโรลบาร์ทั้งหน้าและหลัง, แดมเปอร์และสปริงแข็งขึ้น เรื่อยไปถึงตัวถังที่ต้านทานการบิดตัวได้มากกว่าเดิมถึง 40% เมื่อเทียบกับทายาทรุ่นก่อนหน้านี้ของมัน นั่นหมายถึง ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนอันน่าประทับใจ มันให้อาการที่ตรงไปตรงมา บอกคุณได้ชัดเจนเมื่ออันเดอร์หรือโอเวอร์สเตียร์ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับฝีมือการควบคุมรถของคุณแล้วล่ะ

มาตรวัดแบบเข็ม อ่านค่าได้ง่ายและมองเห็นชัดเจน จอแสดงผลขนาด 3.5 นิ้ว สามารถเรียกดูค่าการทำงานได้หลากหลาย เลือกเปลี่ยนได้จากก้านด้านข้างของพวงมาลัย
มาตรวัดแบบเข็ม อ่านค่าได้ง่ายและมองเห็นชัดเจน จอแสดงผลขนาด 3.5 นิ้ว สามารถเรียกดูค่าการทำงานได้หลากหลาย เลือกเปลี่ยนได้จากก้านด้านข้างของพวงมาลัย

คุณสามารถปรับการกระจายแรงระหว่างล้อหน้าและหลังได้จากสวิตช์ที่ฟลอร์คอนโซล ระบบ DCCD (Driver Controlled Centre Differential) เปิดโอกาสให้คุณเลือกการส่งกำลังได้หลากหลาย จากแบบอัตโนมัติ “Auto +” ที่จะส่งแรงบิดไปล้อหน้ามากขึ้น และ “Auto –” ส่งไปล้อหลังมากกว่า เรื่อยไปถึงแบบเลือกปรับเอง เฟืองท้ายตัวกลางที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์นี้ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเปลี่ยนบุคลิกของรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณปรับให้มันส่งแรงเฉลี่ยไปทางล้อหลัง รถจะให้แฮนด์ลิงที่ดีขึ้น จากอาการอันเดอร์สเตียร์ที่ลดลงเมื่อขับบนถนนลาดยาง

จอแสดงผลอีกชุดมีขนาด 5.9 นิ้ว ติดตั้งอยู่บนสุดกลางแดชบอร์ด ที่นี่จะแสดงข้อมูลหลากหลายกว่าจอกลางหน้าปัดของผู้ขับขี่ คุณสามารถเรียกดูแรงบูสต์, ระบบขับเคลื่อน, อัตราสิ้นเปลือง และอื่นๆ ได้จากการโยกสวิตช์ที่ติดตั้งอยู่ใต้ปุ่มไฟฉุกเฉิน
จอแสดงผลอีกชุดมีขนาด 5.9 นิ้ว ติดตั้งอยู่บนสุดกลางแดชบอร์ด ที่นี่จะแสดงข้อมูลหลากหลายกว่าจอกลางหน้าปัดของผู้ขับขี่ คุณสามารถเรียกดูแรงบูสต์, ระบบขับเคลื่อน, อัตราสิ้นเปลือง และอื่นๆ ได้จากการโยกสวิตช์ที่ติดตั้งอยู่ใต้ปุ่มไฟฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตาม ระบบบังคับเลี้ยวของมันดูแปรปรวนมากขึ้นในโค้งกว้างๆ และไวเกินไปที่ความเร็วสูง นอกจากนั้น ยังเบาเกินไปอีกด้วย คุณจะรู้สึกเหมือนร่างกายซีกซ้ายต้องออกแรงอย่างหนัก – ขาซ้ายตะบันคลัตช์และแขนซ้าย ดึง-ผลัก คันเกียร์ ในขณะที่ต้องเบาเท้าขวาบนแป้นคันเร่ง และมือขวาที่กำลังหมุนพวงมาลัย นั่นเป็นอะไรที่ทำให้การบังคับควบคุมดูติดๆ ขัดๆ ไปหมด ต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควรทีเดียว

ชุดเครื่องเสียงรุ่นใหม่มีหน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ขึ้น มาพร้อมกับ Apple CarPlay และ Android Auto เสียที คุณคงไม่คาดหวังเรื่องคุณภาพเสียงหรอก ใช่ไหมครับ?
เวอร์ชั่น STi มีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ เท่านั้น เหตุผลที่ไม่มีเกียร์ DCT น่าจะมาจากการใช้ฟลายวีลน้ำหนักเบา ซึ่งเกียร์คลัตช์คู่จะไม่สามารถทำงานร่วมด้วยได้… คุณต้องใช้รอบเครื่องสูงกว่าปกติเล็กน้อยเพื่อเรียกแรงบิดมาใช้ในการออกตัว น้ำหนักที่เบากว่าของฟลายวีลหมายถึงเครื่องยนต์สามารถหมุนสู่รอบสูงได้รวดเร็วตามไปด้วย นอกจากนั้น อัตราทดเกียร์ที่ค่อนข้างชิดยังช่วยให้ Impreza เร่งได้ทันใจ ยอดเยี่ยมมากๆ สำหรับถนนที่คดเคี้ยว น่าเสียดายที่คลัตช์ค่อนข้างหนัก และคันเกียร์ยังโยกไปมาได้ไม่ลื่นไหลเท่าไหร่นัก… อ้อ! สำหรับรุ่น STi คุณจะได้เบรกมือแบบกลไกมาแทนสวิตช์เบรกมือไฟฟ้า… โค้งแฮร์พิน? ไม่มีปัญหา!

นอกจากนั้น มันยังเป็นรถที่ไม่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย การเก็บเสียงทำได้ไม่ดีนัก แม้ Subaru จะพยายามแก้ไขแล้วก็ตาม แน่นอนว่าน้ำหนักของคลัตช์และคันเกียร์ที่เลื่อนได้ไม่นุ่มนวล ก็เป็นอุปสรรคในการขับท่ามกลางการจราจรที่เคลื่อนตัวสลับหยุดนิ่ง วัสดุต่างๆ ในห้องโดยสารก็ยังดูไม่สมราคาเท่าไหร่ ยังดีที่มันเป็นรถแบบซาลูนจึงมีพื้นที่รอบๆ ตัวเหลือมากพอ ทั้งเบาะหน้าและหลัง ช่วยลดความอึดอัดในการเดินทางไปได้บ้าง

ปุ่มหมุนคือระบบ SI-Drive (Subaru Intelligent Drive) สำหรับเลือกการตอบสนองของเครื่องยนต์ เริ่มจาก Intelligent สำหรับการขับทั่วไป มุ่งเน้นไปที่การประหยัดน้ำมัน, Sport จะปรับการตอบสนองให้ฉับไวยิ่งขึ้น และสูงสุดที่ Sport Sharp สำหรับบทบู๊ที่สมบูรณ์แบบของคุณ ถัดลงมาคือสวิตช์ควบคุมการกระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและหลัง ที่ช่วยให้คุณเลือกปรับ Bias ของเซ็นเตอร์ดิฟได้หลายระดับ และแสดงผลบนจอกลางมาตรวัดของผู้ขับขี่ เราแนะนำให้ปรับไปด้านหลังมากหน่อย เพื่อลดอาการอันเดอร์สเตียร์บนถนนลาดยาง
เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนังแท้และตกแต่งด้วยแถบสีแดง โอบกระชับและนั่งสบายทีเดียว คิดว่า Subaru ควรปรับปรุงเรื่องความทนทานของหนังที่นำมาใช้สักหน่อย เพราะคันทดสอบของเราถูกใช้งานมาเพียง 5,500 กม. แต่หนังเริ่มแตกยับตามขอบเบาะเสียแล้ว
เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนังแท้และตกแต่งด้วยแถบสีแดง โอบกระชับและนั่งสบายทีเดียว คิดว่า Subaru ควรปรับปรุงเรื่องความทนทานของหนังที่นำมาใช้สักหน่อย เพราะคันทดสอบของเราถูกใช้งานมาเพียง 5,500 กม. แต่หนังเริ่มแตกยับตามขอบเบาะเสียแล้ว

ใช่แล้วครับ WRX STi โฟกัสไปที่การขับขี่เป็นหลัก ด้วยราคา 3.35 ล้านบาท สิ่งที่คุณจะได้รับจึงไม่ใช่ความสะดวกสบายเต็มพิกัด แต่คืออรรถรสขณะกำลังยึดยื้ออยู่กับมัน และความดิบในแบบของรถยุค ’90s สัมผัสของความเป็นกลไกใน Impreza ชวนให้หวนรำลึกถึงช่วงเวลาที่ “รถสปอร์ต” เป็นเหมือนรถแข่ง แต่มีเบาะกับพรม และจดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฎหมาย รถที่มีไว้สำหรับผู้หลงใหลการขับขี่อย่างแท้จริง, เอาออกมาขับในวันหยุด หรือใช้สำหรับแทร็คเดย์

ถ้าทั้งหมดนั่นคือตัวตนของคุณ นี่คือรถที่ตรงประเด็นที่สุด

SUBARU IMPREZA WRX STi

SUBARU IMPREZA WRX STI

  • Price: 3,350,000 Baht
  • Engine: 2,457cc 16v horizontally-opposed 4-cyl turbocharged, 300hp @ 6,000rpm, 407Nm @ 4,000rpm
  • Transmission: 6-speed manual, all-wheel drive
  • Performance: 5.2sec 0-100km/h, 250km/h, 8.9km/l, 259g/km Co2
  • NCAP Rating: 5 stars

Check Also

MG5 10th Anniversary Special Edition

รีวิว ลองขับ MG5 10th Anniversary Special Edition รุ่นพิเศษที่เสริมออปชัน แต่ยังคงความคุ้มค่าในเรื่องราคา

รีวิว ลองขับ MG5 10th Anniversary Special Edition เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ขนาด 1.5 …