Breaking News

รีวิว ทดสอบ BMW TRACK DAY รวมพลยนตกรรมพลัง M POWER

รีวิว ทดสอบ BMW M4 Competition, BMW M4 CS Coupe, BMW M5 และสุดยอดรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต BMW i8 Roadster ณ สนามแข่งรถปทุมธานี สปีดเวย์

รีวิว ทดสอบ BMW TRACK DAY รวมพลยนตกรรมพลัง M POWER

BMW TRACK DAY 

BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดกิจกรรม BMW TRACK DAY ที่นำรหัส “M” มาเป็นพาหนะในการขับขี่ในครั้งนี้ โดยนำสื่อมวลชนมาร่วมเปิดประสบการณ์การขับขี่กับขุมพลังที่ถูกกล่าวขานและพัฒนามาจาก BMW M PERFORMANCE ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมการขับขี่ที่ล้ำสมัย ซึ่งในครั้งนี้เราจะได้มีโอกาสสัมผัสบีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS Coupe บีเอ็มดับเบิลยู M5

และสุดยอดรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต บีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster ซึ่งถือว่าเป็นสปอร์ตคาร์อันดับต้นๆ ที่มาพร้อมสมรรถนะสูงจากโรงงาน BMW ที่สาวก bemmer ทุกคนหวังว่าจะได้มีโอกาสสัมผัสสักครั้งในชีวิต ซึ่งทาง บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ได้เนรมิตสี่ยนตรกรรมสมรรถนะสูงไว้ ณ สนามแข่งรถปทุมธานี สปีดเวย์ จังหวัดปทุมธานี แห่งนี้แล้ว

โดยได้มีการแบ่งออกเป็นสองสถานีย่อย สถานีแรกจะเป็นการสลาลอม ทดสอบอัตราเร่งและการเบรก เป็นการขับเป็นรูปเลข 8 บนพื้นเปียก ซึ่งในสถานีนี้เราจะใช้รถบีเอ็มดับเบิลยู M5 และบีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster และอีกสถานีจะเป็นการขับแบบเซอร์กิต เพื่อจะให้เห็นสมรรถนะของระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) หรือระบบเฟืองท้าย Active M ที่ยกความรู้สึกแบบรถแข่งมาให้คุณได้สัมผัส โดยในสถานีจะใช้รถ บีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS Coupe มาให้ลองขับขี่กัน และจบด้วยการวิ่งแบบ Full Track กับสปอร์ตสมรรถนะสูงทั้งสี่รุ่น โดยเรามาทำความรู้จักกับรถทั้งสี่รุ่นดังนี้

  • บีเอ็มดับเบิลยู M5 ราคาจำหน่าย:  13,339,000 บาท
BMW M5
BMW M5
BMW M5
BMW M5

บีเอ็มดับเบิลยู M5 มาด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ M TwinPower Turbo แบบ V8 ความจุ 4.4 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 441 กิโลวัตต์ / 600 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,600 รอบต่อนาที มาคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogic สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.4 วินาที และ 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 11.1 วินาที โลดแล่นด้วยความเร็วสูงสุดที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นรถที่มีแรงม้ามากที่สุดในการทดสอบครั้งนี้

โดยบีเอ็มดับเบิลยู M5 เจนเนอเรชั่นที่ 6 นี้ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของบีเอ็มดับเบิลยู M5 ที่มาพร้อมกับ M xDrive ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่สร้างมาตรฐานใหม่ด้านสมรรถนะให้กับตลาดรถซีดานประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกตั้งค่าลักษณะการขับได้อย่างหลากหลายตามความต้องการถึง 5 โหมดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก (หรือ DSC ที่สามารถเลือกเปิดหรือปิดระบบ DSC หรือเลือกการขับขี่ด้วยโหมด M Dynamic)

BMW M5
BMW M5
BMW M5
BMW M5

และยังสามารถเลือกการขับขี่ด้วยระบบ M xDrive ซึ่งแบ่งเป็นโหมด 4WD, 4WD Sport และ 2WD ที่ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสความแรงเร้าใจด้วยความคล่องตัวสูงสุดบนท้องถนน รวมทั้งระบบเฟืองท้าย Active M ที่มอบเสถียรภาพการกระจายกำลังอย่างเต็มสมรรถนะ ป้องกันการลื่นไถลเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง โดยช่วยลดความแตกต่างของความเร็วรอบระหว่างล้อหลัง

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ความสปอร์ตอันโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู M5 ใหม่นี้ คือปุ่ม M1 และ M2 สีแดงสองปุ่ม ซึ่งอยู่ติดกับระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการตั้งค่าระบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ถึง 2 แบบเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าระบบ M xDrive ระบบควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก (DSC) ระบบเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบระบายอากาศ ระบบการควบคุมพวงมาลัยไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งการตั้งค่ารูปแบบของการแสดงผลบน Head-Up Display

  • บีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster ราคาจำหน่าย: 12,999,000 บาท
BMW i8 Roadster
BMW i8 Roadster
BMW i8 Roadster
BMW i8 Roadster

บีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster รถยนต์สปอร์ตแห่งอนาคตที่มาพร้อมกับรูปโฉมที่ล้ำสมัยมากๆ เมื่อครั้งแรกที่มันได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะชน ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ยังคงทรงพลังเช่นเดิมด้วยกำลัง 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า ส่งบีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster จาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรได้ภายใน 4.6 วินาที เพิ่มลุคสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว

โดยเด่นด้วยสัญลักษณ์ “Roadster” บริเวณท้ายรถและเสา C-pillar โครงกระจกหน้ามาในวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา พร้อมด้วยหลังคาที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าได้อย่างไร้เสียงภายในเวลา 15 วินาที ขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงสุด 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยหลังคาจะถูกเก็บลงในลักษณะตั้งฉาก ทำให้เพิ่มปริมาตรการเก็บสัมภาระที่ท้ายรถได้ถึงมากขึ้นถึง 100 ลิตร

BMW i8 Roadster
BMW i8 Roadster
BMW i8 Roadster
BMW i8 Roadster
BMW i8 Roadster
BMW i8 Roadster

บีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันสูงที่เพิ่มความจุจาก 20 แอมป์เป็น 34 แอมป์ หรือเพิ่มความจุแบตเตอรี่โดยรวมจาก 7.1 เป็น 11.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ส่งพลังด้วยด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 105 กิโลวัตต์ / 143 แรงม้า เพิ่มขึ้นจากเดิม 9 กิโลวัตต์ / 12 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัฒนาจากมอเตอร์ไฟฟ้าของรุ่นก่อนหน้าที่เร่งความเร็วได้สูงสุด 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ซึ่งเมื่อขับขี่ด้วยโหมด eDrive โดยไม่มีการปล่อยไอเสียเลย จะสามารถส่งบีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster ด้วยความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถขับขี่ในตัวเมืองได้โดยไม่ปล่อยมลภาวะออกจากท่อไอเสียเป็นระยะทางสูงสุด 53 กิโลเมตร (EU test cycle)   

BMW i8 Roadster
BMW i8 Roadster
BMW i8 Roadster
BMW i8 Roadster

นอกจากนี้ การออกแบบโดยใช้เทคโนโลยี BMW EfficientLightweight และนวัตกรรมการผลิตที่ล้ำสมัย ยังเป็นหัวใจสำคัญของโครงสร้างหลังคาเปิดประทุนแบบผ้าของบีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster เช่นชิ้นส่วนอลูมิเนียมที่เชื่อมต่อกลไกการเปิดปิดหลังคาเข้ากับตัวรถ ซึ่งผลิตขึ้นด้วยเทคนิคการพิมพ์แบบสามมิติ

อันถือเป็นการบุกเบิกเทคโนโลยีด้านการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยการผลิตโครงสร้างยึดเกาะที่เชื่อมต่อกันในรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งไม่สามารถทำได้ด้วยกระบวนการหล่อขึ้นรูปในแบบดั้งเดิม ขณะที่การพิมพ์แบบสามมิตินี้ ยังช่วยให้ชิ้นส่วนดังกล่าวมีคุณสมบัติครบครัน ทั้งในด้านความแข็งแกร่งและน้ำหนักที่เบา

  • บีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition ราคาจำหน่าย: 8,799,000 บาท   
BMW M4 Competition
BMW M4 Competition
BMW M4 Competition
BMW M4 Competition

บีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition โดดเด่นด้วยฝากระโปรงทรงอูม หรือที่เรียกว่า M4 เพาเวอร์-โดม (power-dome) บนฝากระโปรงหน้า มาพร้อมล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ M ขนาด 20 นิ้ว และการออกแบบภายนอกตัวรถที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ สมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยมของบีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition มีรากฐานมาจากเครื่องยนต์ M TwinPower Turbo 6 สูบขนาด 3 ลิตร ที่ส่งกำลังแรงถึง 450 แรงม้า จึงสามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 4 วินาที และให้ความเร็วสูงสุด 280 กิโลเมตร/ชั่วโมง

BMW M4 Competition
BMW M4 Competition
BMW M4 Competition
BMW M4 Competition

โดยส่งกำลังสู่ล้อด้วยกับระบบเกียร์ M DCT (double-clutch transmission) 7 สปีดที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงในตระกูล M โดยเฉพาะ นอกจากนี้บีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition ยังมาพร้อมเสถียรภาพการขับขี่เหนือระดับที่ให้การยึดเกาะถนนที่ดีที่สุด ตอบสนองทุกการควบคุมได้ฉับไวยิ่งกว่าเดิม ด้วยระบบช่วงล่าง Adaptive M ระบบ DSC (Dynamic Stability Control) ที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษ และระบบเฟืองท้าย Active M

BMW M4 Competition
BMW M4 Competition
BMW M4 Competition
BMW M4 Competition

การออกแบบภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition โดดเด่นและโฉบเฉี่ยวไม่ต่างจากการออกแบบภายนอก ด้วยเบาะนั่ง M ที่มีน้ำหนักเบาและให้ความรู้สึกแบบสปอร์ต สามารถปรับความกว้างของพนักพิงได้ สายเข็มขัดนิรภัยลาย M การจัดวางฟังก์ชั่นควบคุมต่างๆ โดยคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นหลัก เพื่อความสะดวกสบายและรวดเร็วในการสั่งการทุกระบบ พวงมาลัยหุ้มหนัง และคันเกียร์สไตล์ M

นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งานเทคโนโลยี บีเอ็มดับเบิลยู Head-Up Display ได้ในโหมดพิเศษสำหรับรถยนต์ตระกูล M โดยเฉพาะ ซึ่งแตกต่างจากโหมดปกติด้วยดีไซน์กราฟฟิกในแบบสปอร์ต พร้อมมาตรวัดความเร็ว เกียร์ รอบเครื่องยนต์ ไฟแจ้งเปลี่ยนเกียร์ และอื่นๆ อีกมากมาย

  • บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS Coupe ราคาจำหน่าย: 11,439,000 บาท
BMW M4 CS Coupe
BMW M4 CS Coupe
BMW M4 CS Coupe
BMW M4 CS Coupe

คันสุดท้ายกับบีเอ็มดับเบิลยู M4 CS Coupe เป็นรถยนต์รุ่นพิเศษในตระกูล M ที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด พร้อมสานต่อตำนานแห่งสมรรถนะของบีเอ็มดับเบิลยู M ด้วยสไตล์การขับขี่สุดสปอร์ตและประสิทธิภาพที่เหนือระดับ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS Coupe ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร ด้วยเทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo

พัฒนาสมรรถนะการส่งกำลังสูงสุด 460 แรงม้า ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogic เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วภายในเสี้ยววินาที ด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ paddle shift บนพวงมาลัย ซึ่งในรุ่นนี้จะมีแรงม้ามากกว่าในรุ่นปรกติ 10 แรงม้า และมีแรงบิดเพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร รวมไปถึงได้มีการลดน้ำหนักลงไปอีก 30 กิโลกรัม

BMW M4 CS Coupe
BMW M4 CS Coupe
BMW M4 CS Coupe
BMW M4 CS Coupe

เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดีที่สุดในทุกสภาวะ บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS Coupe มาพร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ที่สามารถทำงานในโหมดพิเศษ M Dynamic (MDM) เพื่อความเพลิดเพลินสูงสุดในการขับขี่ และระบบเฟืองท้าย Active M ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมดด้วยกัน (Comfort, Sport and Sport+) เพียงแค่สัมผัสปุ่ม เพื่อปรับให้ตัวรถตอบสนองต่อทุกการควบคุมในแบบที่ต้องการ สอดรับกับลักษณะของเส้นทางอย่างลงตัว

รูปลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู M4 CS Coupe สะท้อนถึงความสปอร์ตเร้าใจ ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นจากกระจังหน้าที่มาคู่กับช่องดักอากาศขนาดใหญ่ 3 ช่อง เข้ากันกับไฟหน้า LED คู่ดีไซน์ทันสมัย กระโปรงหน้าและหลังคาทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีคุณสมบัติความแข็งแกร่งและน้ำหนักเบาพิเศษ ดีไซน์ด้วยเส้นสายสไตล์คูเป้ โฉบเฉี่ยวด้วยชุดแต่งแบบ M และเสริมความดุดันด้วยรูปทรงซุ้มล้ออันทรงพลัง ที่สร้างอารมณ์สุดเร้าใจได้ แม้ในยามที่ตัวรถยังหยุดนิ่งอยู่

BMW M4 CS Coupe
BMW M4 CS Coupe

ภายในของบีเอ็มดับเบิลยู M4 CS Coupe สร้างลุคสปอร์ตเต็มพิกัด โดยตัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ไปจำเป็นออกไป ด้วยเบาะที่นั่งน้ำหนักเบาแบบ M Sport หุ้มหนังแท้สลับ Alcantara พนักพิงหลังปรับความกว้างได้ เข็มขัดนิรภัยลาย M พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง Alcantara ดีไซน์ M พร้อมก้านเปลี่ยนเกียร์ ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS Coupe จะมีให้เลือกเป็นเจ้าของได้ในสีพิเศษจาก BMW Individual

ทดสอบสมรรถนะ BMW M4 Competition, BMW M4 CS Coupe, BMW M5 และสุดยอดรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต BMW i8 Roadster

BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY

จากการทดสอบในสถานีแรก จะเป็นการทดสอบระบบช่วงล่าง Adaptive M ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) หรือระบบเฟืองท้าย Active M ที่มอบเสถียรภาพการกระจายกำลังอย่างเต็มสมรรถนะ ป้องกันการลื่นไถลเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง โดยช่วยลดความแตกต่างของความเร็วรอบระหว่างล้อหลัง M xDrive ระบบควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก (DSC)

ซึ่งในรอบแรกจะเป็นการขับแบบ 2 WD ในการสลาลอม M5 ยังคงมีความเฉียบคมของตัวรถอย่างไม่ต้องกังวล แม้อาจจะมีอาการท้ายออกบ้างเล็กน้อย แต่ก็อยู่ในการควบคุม แต่พอมาขับตามไพลอนที่เป็นรูปเลข 8 บวกกับมีการราดน้ำเอาไว้ด้วย พละกำลัง 600 แรงม้าที่คำรามออกมา เข็มวัดรอบที่ตวัดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมพวงมาลัยที่ตีกลับอย่างรวดเร็วจนไปสามารถควบคุมทิศทางได้ สรุปรถหมุน 180 องศากันทีเลยเดียว โดยเราไม่สามารถกดคันเร่งได้เลย

BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY

ในรอบที่สอง เราใช้โหมด 4WD sport ระบบจะกระจายแรงไปที่ล้อหลังมากกว่า ซึ่งเราสามารถควบคุมรถได้ดีขึ้นแม้รถจะมีอาการท้ายออก แต่เราก็ยังสามารถควบคุมรถได้ให้ไปตามทิศที่เราต้องการโดยรถไม่หมุน ส่วนในรอบที่สามารถปรับเป็น 4WD ซึ่งในคราวนี้ตัวรถผ่านได้โดยไม่มีอาการให้เห็น ซึ่งระบบจะตัดรอบทันทีที่เรากดคันเร่งเกินจนรถเสียอาการ ระบบจะทำงานตอบสนองอย่างฉับไวเพื่อในรถวิ่งอยู่ในเลนตลอดเวลา

ในส่วนของ i8 ก็ให้การตอบสนองได้ดี ทั้งในเรื่องอัตราเร่งที่ได้พละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ตอบสนองได้ดี ยิ่งเปิดระบบมาช่วยในการขับขี่ส่งผลให้รถมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งในสถานีนี้ทำให้เราเห็นถึงเทคโนโลยีของรถที่ช่วยในการขับขี่ให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้น แม้จะเป็นรถที่มีสมรรถนะสูงก็ตาม

BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY

สถานีที่สองเป็นการขับขี่ในรูปแบบเซอร์กิต เพื่อให้เห็นก็ทำงานของที่ผสานกันของเคริ่องยนต์ ช่วงล่างพวงมาลัยและเกียร์ โดยสนามนี้เราจะได้สัมผัสความแรงของ M4 Competition และ M4 CS Coupe เพื่อให้เห็นความแตกต่างกัน รูปแบบการขับขี่ โดยรอบแรกทางเริ่มจาก M4 Competition 450 แรงม้า อารมณ์ของตัวรถให้การขับขี่แบบรถบ้านมากในโหมด M1 ให้การขับขี่แบบ Comfort ซึ่งเครื่องยนต์และช่วงล่าง และการตอบสนองของเกียร์จะอยู่ในแบบปรกติ แต่แค่นั่นก็ถือว่าเพียงพอต่อการขับขี่

BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY

ซึ่งขุมพลังสามารถเรียกออกมาได้ทันทีแม้จะอยู่ในโหมดปรกติ ช่วงล่างยังสามารถเข้าโค้งหักศอกด้วยความเร็วสูงอย่างสบาย พวงมาลัยตอบสนองได้เป็นอย่างดี ในรอบที่สองเราปรับมาเป็นโหมด M2 ซึ่งในโหมดนี้ทางผู้ฝึกสอนตั้งไว้จะเป็น Sport+ หมายความว่าเกียร์จะไม่สับเอกถ้ารอบไม่ถึงเรดลาย

รอบเครื่องจะสูงขึ้นกว่าปรกติเพื่อให้ครื่องพร้อมตอบสนองยิ่งขึ้น พวงมาลัยหนักขึ้น ช็อกอัพแข็งขึ้นกว่าเดิม คันเร่งไวขึ้นพร้อมซุ้มเสียงทีดุดันกว่าในโหมด Comfort เพื่อให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ น้องๆ รถแข่งในสนามกันทีเดียว

BMW TRACK DAY
BMW TRACK DAY

สิ่งที่น่าแปลกใจคือ M4 CS Coupe สามารถสร้างความประทับใจได้มากกว่า M4 Competition ในเรื่องการขับขี่ ทั้งที่ M4 CS Coupe มีแรงม้าเพิ่ม 10 ตัว แรงบิดเพิ่ม 50 นิวตันเมตร น้ำหนักลดลง 30 กิโลกรัมแค่นั้น แต่วิ่งต่างกันเหมือนหนังคนละม้วน และยังให้ความรู้สึกในการเกาะถนนที่มากกว่าอีกด้วย

จนทำให้ M4 Competition ดูเหมือนรถบ้านไปเลย แถมด้วยรูปทรงที่ดูดุดันกว่า แต่คุณต้องแรกด้วยเงินที่มากกว่าถึง 2,640,000 บาท แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหาเราบอกได้เลยว่านี่คือตัวเลือกที่น่าหลงใหลที่สุดในการขับขี่ BMW TRACK DAY 2020 ในครั้งนี้เลยทีเดียว

Check Also

MG5 10th Anniversary Special Edition

รีวิว ลองขับ MG5 10th Anniversary Special Edition รุ่นพิเศษที่เสริมออปชัน แต่ยังคงความคุ้มค่าในเรื่องราคา

รีวิว ลองขับ MG5 10th Anniversary Special Edition เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ขนาด 1.5 …