Breaking News

รีวิว MINI Cooper S Countryman Hightrim เวอร์ชั่น LCI ที่ “ให้” มากกว่า ใน “ราคา” ที่ต่ำลง”

รีวิว ทดสอบ MINI Cooper S Countryman Hightrim การปรับโฉมใหม่ (LCI) เพิ่มความน่าสนใจเข้าไปทั้งในเรื่องดีไซน์ และสมรรถนะ ที่ชวนสัมผัส

รีวิว ทดสอบ MINI Cooper S Countryman Hightrim

รีวิว ทดสอบ MINI Cooper S Countryman Hightrim เวอร์ชั่นปรับโฉมใหม่ (LCI) 

MINI Cooper S Countryman Hightrim

รีวิว ทดสอบ MINI Cooper S Countryman Hightrim

รีวิว ทดสอบ MINI Cooper S Countryman Hightrim

รีวิว ทดสอบ MINI Cooper S Countryman Hightrim

“โดยหลักแล้ว การอัพเกรดสินค้าให้มีคุณภาพกว่า มักจะมากับค่าตัวที่ขยับขึ้น เว้นแต่ MINI Thailand ที่ฉีกกรอบดังกล่าว ด้วยการมาถึงของ Cooper S Countryman เวอร์ชั่น LCI ที่ “ให้” มากกว่า ใน “ราคา” ที่ต่ำลง”

เราอาจไม่รู้ตัวเลยก็ได้ว่าย้อนกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทรนด์ความต้องการใช้รถของผู้บริโภคทั่วโลกต่างมุ่งเน้นไปที่ความคุ้มค่าเป็นหลัก จนทำให้หลายค่ายต้องหันมาให้ความสำคัญกับกลุ่มรถอเนกประสงค์มากขึ้น เพื่อจับจองพื้นที่ส่วนแบ่งทางการตลาด

ซึ่งแบรนด์ MINI เองก็เป็นหนึ่งในนั้น จากการเป็นหัวหอกในกลุ่มรถเล็กมาตั้งแต่กำเนิด จนกระทั่งก้าวมาอยู่ใต้ปีกอันงามสง่าของ BMW Group พร้อมแนวคิด และนโยบายใหม่ ตั้งแต่ราวปี 2000 ก่อนจะแตกแขนงไลน์อัพตัวถังออกมาให้ผู้บริโภคได้เลือกเป็นเจ้าของกันมากมายในเจเนอเรชั่นที่ 2 ของ MINI Family

รีวิว ทดสอบ MINI Cooper S Countryman Hightrim

รีวิว ทดสอบ MINI Cooper S Countryman Hightrim

รีวิว ทดสอบ MINI Cooper S Countryman Hightrim

โดย Countryman ในรหัส R60 ได้ถูกสร้างสรรค์ และให้กำเนิดขึ้นในปี 2010 ในฐานะยนตรกรรมอเนกประสงค์ Crossover SUV รุ่นแรก และเจเนอเรชั่นแรก … จากวันนั้น จนถึงวันนี้ Countryman ยังคงอยู่ในเจเนอเรชั่นที่ 2 กับรหัส F60 ซึ่งปล่อยทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2017 ก็ได้รับการปรับโฉมใหม่ (LCI) เพิ่มความน่าสนใจเข้าไปทั้งในเรื่องดีไซน์ และสมรรถนะที่ชวนสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง

หลังจากที่รอคอยองค์ประกอบความพร้อมหลายๆ อย่าง ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ MINI Cooper S Countryman Hightrim (F60) เวอร์ชั่นปรับโฉมใหม่ (LCI) จะได้มาอยู่ในมือเพื่อลองขับกันซักตั้ง เพราะอย่างที่บอกแหละครับว่า เค้ามีอะไรน่าสนใจหลายอย่าง

โดยเฉพาะเรื่องของราคาที่แว่วๆ ว่าโมเดลเริ่มต้น (Entry Level) เคาะเอาไว้เพียง 1,999,000 บาท ซึ่งบอกเลยว่า “เร้าใจ” มากๆ แต่ถ้าอยากไปให้สุดสายก็ต้องเป็นพระเอกของเราเท่านั้น เพราะมากับ “ศักดินา” ตัวท็อปสุด Hightrim ที่เปิดราคาไว้ 2,529,000 บาท

รีวิว ทดสอบ MINI Cooper S Countryman Hightrim

รีวิว ทดสอบ MINI Cooper S Countryman Hightrim

รีวิว ทดสอบ MINI Cooper S Countryman Hightrim

MINI Cooper S Countryman Hightrim เวอร์ชั่นปรับโฉมใหม่ (LCI) มากับความเปลี่ยนแปลงใหม่ที่โดนใจเราไม่น้อย โดยเฉพาะโทนสีที่ดูลงตัวกับรายละเอียด ซึ่งสามารถสัมผัสได้ถึงความสปอร์ตมากขึ้น เช่น ชุดกระจังหน้า, ชุดกันชนหน้าที่มากับช่องดักอากาศดีไซน์เฉี่ยว ล้อมกรอบด้วยวัสดุโครเมียม

ขณะที่ด้านหลัง คือ ส่วนที่เราชอบมากสุด ด้วยองค์ประกอบโดยรวมที่ดูบึกบึนแข็งแกร่ง ตัดกับความสะดุดตาจากชุดไฟท้ายลวดลาย Union Jack รับกับชุดกันชนท้ายที่ออกแบบให้ Diffuser หลังโดดเด่นด้วยโทนสีโครเมียม ลงตัวกับท่อไอเสียที่ประกบอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง

ส่วนระบบส่องสว่างทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นชุดไฟหน้า, ชุดไฟท้าย ตลอดจนชุดไฟ Daytime Running Light นั้นมากับเทคโนโลยี LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ก่อนปิดท้ายด้วยตราประทับเป็นอักษร “S” โทนสีแดงทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เพื่อบ่งบอกความร้ายกาจแห่งอนุกรม Cooper S

MINI Cooper S Countryman Hightrim

MINI Cooper S Countryman Hightrim

MINI Cooper S Countryman Hightrim

เปิดประตูเข้ามาในห้องโดยสาร คุณจะพบกับความกว้างขวางของ Countryman เป็นจุดเด่นเพื่อตอบรับการใช้งานแบบอเนกประสงค์ ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจวัยรุ่นนัก แต่สำหรับพ่อบ้านที่หลงใหลในยนตรกรรม ซึ่งมาพร้อมกับ “สมรรถนะ” และ “อรรถประโยชน์ใช้สอย” รับรองว่าถูกใจ

ตั้งแต่การตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยโทนสีดำ Piano Black พร้อมการเก็บงานด้วยเส้นสาย Chrome Line สีเงิน เสริมด้วยชุดแต่ง MINI Excitement Package และแสงไฟโลโก้ MINI ที่ฉายจากกระจกมองข้างลงสู่พื้นถนน อีกทั้งยังมีด้านหลังซึ่งมากับพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 450 ลิตร ที่ปรับขยายเป็น 1,390 ลิตร ได้จากเบาะนั่งที่พับแบบ 40:20:40 อีกด้วยเช่นกัน

MINI Cooper S Countryman Hightrim

MINI Cooper S Countryman Hightrim

MINI Cooper S Countryman Hightrim

ขณะที่ออปชันมาตรฐานต่างๆ นั้นเรายังคง “คุ้นเคย” กันพอประมาณ เช่น ชุดหน้าจอสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว บริเวณกลางคอนโซล ที่มากับระบบ MINI Connected, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ รวมถึงหน้าจอแสดงผลการขับขี่ พร้อมระบบ MINI Head-Up Display เพราะฉะนั้นเราเลยไม่ต้องเสียเวลา “คลำ” เพื่อศึกษาอะไรกันมากนัก เนื่องจากลึกๆ แล้วเรา “สนใจ” สิ่งที่อยู่ใต้ฝากระโปรงมากกว่า

แม้จะไม่มีสายโหดอย่าง JCW ให้เลือก แต่มีเพียง Cooper S … เราก็เชื่อว่านั่น “มากพอ” แล้วสำหรับการใช้งานไม่ว่าจะในชีวิตประจำวัน หรือแอบซิ่งเบาๆ ยามที่คุณประจำการหลังพวงมาลัยเพียงลำพัง ซึ่งเหตุผลนั้นมาจากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร

เสริมแรงด้วยระบบอัดอากาศ MINI TwinPower Turbo ที่ให้เรี่ยวแรงสูงสุด 192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด Steptronic คลัทช์คู่ พร้อมความสนุกจากแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift และฟังก์ชันปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ MINI Driving Modes

MINI Cooper S Countryman Hightrim

MINI Cooper S Countryman Hightrim

MINI Cooper S Countryman Hightrim

เพราะงั้นบอกได้เลยว่าไม่ต้องห่วงในเรื่องของอัตราเร่ง แม้จะขับขี่ปกติวิสัยด้วยตำแหน่งเกียร์ D ปกติก็ตาม แต่ถ้าหากยังเติมเต็มความมันส์ได้ไม่มากพอ ก็สามารถขยับไปเลือกเล่นได้ทั้งโหมด “S” หรือ “M” และปรับเปลี่ยนเกียร์ด้วย Paddle Shift ซึ่งเอาจริงๆ เชื่อเถอะว่าแค่ “D” ก็สนุกได้แบบเหลือเฟือ เพราะมีทั้งเรื่องของความเฉียบคมจากพวงมาลัย และสไตล์ของช่วงล่างอันเป็นเอกลักษณ์ ที่มีทั้งคน “ถูกใจ” และ “ส่ายหน้า”

เนื่องจากอารมณ์แบบ Go-Kart Style นั้นไม่ได้ “หดหาย” ไปไหน เพียงแต่มันถูกปรับเปลี่ยนไปตามลักษณะของตัวรถ ซึ่งในโมเดล Countryman ที่มากับตัวตนในแบบ Crossover SUV อาจจะสัมผัสได้น้อยกว่าโมเดล Hatchback ใช่ว่าจะไม่มี

โดยคุณจะรู้สึกดีไม่ว่าจะความเร็วต่ำ หรือความเร็วสูง บนถนนที่ราบเรียบ และอาจจะถึงขั้นกระอักกระอ่วนได้ บนถนนที่พบเจอกันบ่อยๆ ในเมืองกรุง ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นเราคงไม่ฟันธง เพราะต้องขึ้นกับรสนิยมของผู้ใช้

MINI Cooper S Countryman Hightrim

MINI Cooper S Countryman Hightrim

MINI Cooper S Countryman Hightrim

แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัวเราคงก็คงไม่อาจปฏิเสธถึงความรู้สึกดังกล่าว ก่อนจะจบด้วยบทสรุปทิ้งท้ายว่า “รับได้” เพราะสิ่งที่แลกมากับบุคลิกดังกล่าวของช่วงล่างก็คือ ความมั่นใจ และเสถียรภาพที่ไม่เป็นสองรองใคร ยามเมื่อใช้ความเร็วสูง

ซึ่งเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งมันจะหลอมรวมเข้ากับพละกำลัง และความเฉียบคมของระบบพวงมาลัยที่เอื้ออำนวยให้ตอบสนองได้ดั่งใจ เพื่อแปรเปลี่ยนเป็นความสนุกราวกับกลายร่างเป็นเจ้าตัวแสบอย่าง MINI Hatch เพียงแต่ได้เปรียบกว่าในเรื่องของทัศนวิสัย และอรรถประโยชน์ใช้สอย

และด้วยความที่มากคุณสมบัติในการตอบโจทย์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สาวก MINI ชาวไทยจะให้การตอบรับเป็นอย่างดี นับตั้งแต่ปรากฏตัวในเจเนอเรชันแรก และมีแนวโน้มมากขึ้นในเจเนอเรชันล่าสุด (LCI) ด้วยเหตุผลง่ายๆ ก็คือ เทคโนโลยีในที่พัฒนาขึ้นในหลายๆ ด้าน

ทั้งในเรื่องของสมรรถนะ และระบบความปลอดภัย บนพื้นฐานความสะดวกสบายในสไตล์ Crossover SUV แถมด้วยเรื่องสำคัญที่สุด ก็คือ “ราคา” ที่เคาะออกมาได้หวือหวาที่สุด คือ รุ่นเริ่มต้น Entry Level ไม่ถึง 2 ล้านบาท และรุ่นท็อป Hightrim ที่ 2,529,000 บาท

MINI Cooper S Countryman Hightrim

MINI Cooper S Countryman Hightrim

MINI Cooper S Countryman Hightrim

ซึ่งหากคุณไม่ซีเรียสในเรื่องรายละเอียดออปชัน หรือ การตกแต่ง จนต้องขึ้นไปตัวท็อป แต่เลือกที่จะเสพความ “คุ้มค่า” ในเรื่องของ “สมรรถนะ” และ “ประโยชน์ใช้สอย” ให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันล่ะก็ … เราคิดว่ารุ่น Entry Level ที่ค่าตัวไม่ถึง 2 ล้านบาท น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

Specification :  MINI Cooper S Countryman Hightrim

  • Price : 2,529,000 BHT
  • Engine :  1,998 CC / 4 Cylinder / 16 Valve / MINI TwinPower Turbo 192 hp @ 5,000 – 6,000 rpm / 280 Nm @ 1,350 – 4,600 rpm 
  • Transmission :  7A/T
  • Performance :  0 – 100 Km/h @ 7.4 Sec / Top Speed @ 224 Km/h
  • Weight : 1,535 Kg.

Check Also

Honda City Hatchback 2024 TURBO RS

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback 2024 TURBO RS เสริมความสปอร์ต เน้นความประหยัดสำหรับ Hot Hatch ตัวจริง

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback TURBO RS เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO ให้กำลัง 122 …