Breaking News

รีวิว ลองขับ SUZUKI XL7 เพิ่มอารมณ์ความ “สปอร์ต” กับสีใหม่สไตล์ TWO TONE ราคา 799,000 บาท

รีวิว ลองขับ SUZUKI XL7 ยนตรกรรม 7 ที่นั่ง Multi-Dynamic Crossover มาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่ที่มีความสปอร์ตมากขึ้น กับสีใหม่สไตล์ TWO TONE

รีวิว ลองขับ SUZUKI XL7 สีใหม่สไตล์ TWO TONE ราคา 799,000 บาท

รีวิว ลองขับ SUZUKI XL7 เวอร์ชั่น “สปอร์ต” สีใหม่สไตล์ TWO TONE 105 แรงม้า

SUZUKI XL7

รีวิว ลองขับ SUZUKI XL7 สีใหม่สไตล์ TWO TONE ราคา 799,000 บาท

ดูเผินๆ มันเหมือนจะไม่มีอะไร เว้นแต่คุณจะคิดตามให้ลึกลงไปอีกนิด แล้วจะพบถึงอารมณ์ความ “สปอร์ต” ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่แสดงตัวตนความเป็น “Multi-Dynamic Crossover” ออกมาได้ชัดเจนมากขึ้น

เมื่อพูดถึง Suzuki XL7 หลายคนคงรู้จักกันดี ในฐานะของยนตรกรรม 7 ที่นั่ง Multi-Dynamic Crossover ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่อง “ความคุ้มค่า” หากคุณต้องการรถครอบครัวซักคัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ “เน้นการใช้งาน” ด้วยเพราะคุณสมบัติต่างๆ ที่ถูกกำหนดมาให้ ไล่ตั้งแต่มิติตัวถัง ซึ่งประกอบด้วยความยาว 4,450 มม. ความกว้าง 1,775 มม. ความสูง 1,710 มม.

วางตัวอยู่บนความยาวฐานล้อ 2,470 มม. และความกว้างฐานล้อหน้า 1,515 มม. และล้อหลัง 1,530 มม. พร้อมความสูงใต้ท้องรถ 200 มม. แถมด้วยความเป็น Multi-Dynamic Crossover จึงทำให้คนออกแบบเค้าใส่ “ดีไซน์” สไตล์บึกบึนเข้ามาให้เช่นกัน ตั้งแต่ ราวแร็คหลังคาด้านบน มาจนถึงส่วนของใต้กันชนหน้า- กันชนหลัง ไปจนถึงคิ้วกันกระแทกสีดำบริเวณชายประตู, สเกิร์ตข้าง และซุ้มล้อ ที่เลือกใช้โทนสีดำ

รีวิว ลองขับ SUZUKI XL7 สีใหม่สไตล์ TWO TONE ราคา 799,000 บาท

รีวิว ลองขับ SUZUKI XL7 สีใหม่สไตล์ TWO TONE ราคา 799,000 บาท

รีวิว ลองขับ SUZUKI XL7 สีใหม่สไตล์ TWO TONE ราคา 799,000 บาท

ซึ่งบางครั้งเรามองไปมองมาก็รู้สึกว่าให้อารมณ์ “สปอร์ต” ใช้ได้ และน่าจะดีไม่น้อยถ้าการปรับโฉมครั้งต่อไปจะมีอะไรที่สื่อถึงความ “สปอร์ต” มากขึ้น … กระทั่งในที่สุด Suzuki XL7 ก็มีเวอร์ชั่น “สปอร์ต” ออกมาให้ได้สัมผัส แม้รูปลักษณ์จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

เพราะยังคงใช้พื้นฐานเดิมเป็นหลัก แต่การเปลี่ยนหลังคา และกระจกมองข้างเป็นโทนสีดำ ก็สามารถเปลี่ยนอารมณ์เดิมๆ ที่คุ้นตา ให้มีความน่ามองมากขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้

ไหนจะผสมผสานกับออฟชั่นมาตรฐานที่จัดมาให้ … ชนิดที่บอกเลยว่ายิ่งทำให้ XL7 มีความน่าสนใจมากขึ้นอีกเยอะทีเดียว โดยมีอะไรบ้าง หากจำไม่ได้เราจะย้ำเตือนให้อีกครั้ง เริ่มจาก ไฟหน้า LED, ไฟ Daytime Running Light, ไฟตัดหมอกคู่หน้า, ไฟท้าย LED แบบ Light Guides และล้ออัลลอยทูโทนขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 195/60R16

เข้ามาที่ภายในห้องโดยสาร ยังคงคุ้นเคยกันดีกับ กุญแจรถ Keyless Push Start, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, มาตรวัดพร้อมจอ LCD แบบสี, หน้าจอ Infotainment ขนาด 10 นิ้ว, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์หลัง และท้ายสุดกับคุณสมบัติความอเนกประสงค์ จากการปรับที่นั่งแถว 2 แบบ 60:40 และการปรับที่นั่งแถว 3 แบบ 50:50

รีวิว ลองขับ SUZUKI XL7 สีใหม่สไตล์ TWO TONE ราคา 799,000 บาท

ส่วนขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร เรี่ยวแรงสูงสุด 105 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ขณะที่ระบบพวงมาลัยเป็นแบบแร็คแอนด์พิเนี่ยน จับคู่กับช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สัน สตรัท คอยล์สปริง และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง กับดิสก์เบรกด้านหน้า และดรัมเบรกหลัง

ซึ่งทั้งหมดประกอบกันเป็นอารมณ์การขับขี่ที่ยังคงดีงาม และสัมผัสได้ทุกครั้งเมื่อมีโอกาสประจำการหลังพวงมาลัยของ Suzuki XL7 … แม้ตัวเลขแรงม้า และแรงบิดจะไม่ได้เว่อร์วัง แต่สิ่งที่เรายังคงชอบก็คือ “ภาพรวม” ในการขับ ที่มีความ “เป็นกลาง” สามารถ “เข้าถึง” ได้โดยง่าย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างหลากหลาย

เช่น สิ่งที่ทั้งเราเอง หรืออาจจะรวมถึงหลายๆ คนชื่นชอบ อย่างการตอบสนองของเครื่องยนต์ ที่เรียกใช้งานได้ทันใจ แบบที่จะให้ปราดเปรียวก็ได้ หรือ เดินทางสบายๆ ก็ดี แถมยังมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เนื่องจากความสูงของรถที่มี ตามสไตล์ยนตรกรรมอเนกประสงค์ ซึ่งช่วยให้ทัศนวิสัยในระดับดีเยี่ยม

Suzuki XL7

Suzuki XL7

Suzuki XL7

Suzuki XL7

ตามมาด้วยอารมณ์ของพวงมาลัย ที่ปรับเซ็ทมาอย่างลงตัว ในแบบที่เรียกว่าเปลี่ยนยนตรกรรมอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ให้กลายเป็นรถคันเล็ก ที่เคลื่อนตัวได้ปราดเปรียว จนทำให้เรารู้สึกสนุกได้ทุกครั้งเมื่อได้ขึ้นประจำการหลังพวงมาลัย

และหากอ่านมาถึงบรรทัดนี้ … หลายคนคงนึกออกว่าการเปลี่ยนแปลงของรูปลักษณ์ที่เพิ่มโทนสีดำในส่วนของหลังคา และกระจกมองข้าง มันอาจไม่มีผลอะไรเรื่อง “สมรรถนะ” แต่กับคุณค่าทางจิตใจ “มี” แน่นอน เพราะอย่างที่บอกครับ ว่ามันทำให้ภาพลักษณ์โดยรวม “สปอร์ต” ขึ้น

ฉะนั้นการขับขี่ด้วยความเร็วสูง จนถึงการมุดซ้าย ป่ายขวา ทั้งในความเร็วต่ำ หรือแม้กระทั่งความเร็วสูงก็ตามที บอกเลยว่ามันช่วยสร้างความรู้สึก “เร้าใจ” ให้ผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มเม็ด เต็มหน่วยขึ้นกว่าเดิม

ซึ่งเราเองก็ยังคงชอบที่จะลิ้มรสความเร้าใจแบบนั้น ด้วยการเล่นกับโค้งในเส้นทางสายรอง เบรกให้เหมาะ เช่นเดียวกับการขยับพวงมาลัยให้ได้องศาอย่างเหมาะสม พร้อมกับค่อยๆ เดินคันเร่ง เพื่อเร่งความเร็วออกจากโค้ง จากนั้นก็ทำมันซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ก่อนจะเปลี่ยนอิริยาบถใหม่เป็นการเดินทางแบบสบายๆ เพราะเจ้า XL7 ก็สามารถทำได้อย่างไม่เคอะเขินเช่นกัน

รีวิว ลองขับ SUZUKI XL7 สีใหม่สไตล์ TWO TONE ราคา 799,000 บาท

SUZUKI XL7

Suzuki XL7

เพราะถ้าคุณไม่ได้เน้นความสปอร์ตจากการขับเต็มขั้น คุณก็ยังสามารถอวดเรือนร่างหล่อๆ ได้ จากการขับขี่แบบสบายๆ ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น เพราะโดยส่วนตัวแล้วการขับสไตล์พ่อบ้านแบบนี้ โดยที่ไม่เร่ง ไม่รีบ ใช้ความเร็วเดินทางตามกฎหมายกำหนดแบบเพลินๆ ก็ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของเราอีกเช่นกัน แถมเราเองยังใช้การเดินทางแบบนี้บ่อยครั้งซะด้วย เนื่องจากส่วนหนึ่งเรารับรู้ได้ถึงบุคลิกเฉพาะตัว

จากประเด็นสำคัญ คือ Suzuki XL7 เค้าไม่ได้เป็นรถสปอร์ตมาตั้งแต่กำเนิด หากแต่เป็นรถครอบครัว ที่สามารถมอบอารมณ์สปอร์ตมาให้ลิ้มรสได้บ้างเล็กๆ น้อยๆ … เพราะหากสังเกตเวลากระแทกคันเร่ง การตอบสนองของเครื่องยนต์จะยังคงต้องการ “เวลา” เพื่อ “คิด”

ก่อนจะแผดเสียงออกมา พร้อมความเร็ว ซึ่งนั่นคือ “เรื่องธรรมชาติ” ของเครื่องยนต์เบนซินพิกัดเล็ก ที่ถูกเซ็ทมาให้เหมาะสมกับฐานะของรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง

Suzuki XL7

Suzuki XL7

Suzuki XL7

Suzuki XL7

ฉะนั้นอย่างที่บอกล่ะครับ ว่าพฤติกรรมการขับแบบสบายๆ จึงดูเป็นอะไรที่ลงตัวกับ Suzuki XL7 มากกว่า และก็น่าจะเป็นอะไรที่ถูกใจคนในครอบครัวแน่นอน แล้วก็ที่สำคัญเลย คือ คุณจะได้รับความประหยัดแถมมาอีกด้วย โดยเฉพาะในยุคน้ำมันแพงกว่าข้าวแกงข้างถนนแบบนี้

ฉะนั้นมาถึงบรรทัดนี้ เราคงจะไม่ชี้นำอะไรมาก เพราะหลายคนน่าจะได้สัมผัสกับ Suzuki XL7 กันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย เพราะงั้นความต่างจากรุ่นมาตรฐานที่เราคุ้นเคยกันมา ก็คือ “สไตล์ทูโทน” ที่เข้ามาเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้มีความสปอร์ตมากขึ้น เช่นเดียวกับราคาที่ปรับเพิ่มจากเดิม 779,000 บาท เป็น 799,000 บาท … ซึ่ง “คุ้มค่าหรือไม่” เราต้องยกให้ผู้บริโภคเป็นคนตัดสิน น่าจะเป็นอะไรที่เหมาะสมกว่า

Specification: SUZUKI XL7         

  • Price: 799,000 BHT
  • Engine: 1,462 CC / 4 Cylinder / 16 Valve 105 hp @ 6,000 rpm / 138 Nm @ 4,400 rpm 
  • Transmission: 4A/T / Front Wheel Drive
  • Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
  • Weight: 1,175 Kg.

Check Also

MG5 10th Anniversary Special Edition

รีวิว ลองขับ MG5 10th Anniversary Special Edition รุ่นพิเศษที่เสริมออปชัน แต่ยังคงความคุ้มค่าในเรื่องราคา

รีวิว ลองขับ MG5 10th Anniversary Special Edition เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ขนาด 1.5 …