MAXUS เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการภายในงาน Thailand International Motor Expo 2025 พร้อมนำไลน์อัปรถตู้ไฟฟ้า eDeliver มาจัดแสดงครบทั้งซีรีส์ ซึ่งสร้างความสนใจจากผู้เข้าชมและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะรุ่น eDeliver 5 และ eDeliver 9 ที่ถูกนำมาจัดโชว์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ในโอกาสนี้ MAXUS ยังประกาศยืนยันการทำตลาดเต็มไลน์ในปี 2026 ครอบคลุมรุ่น eD3, eD5, eD7 และ eD9 เพื่อตอบรับทิศทางของไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคโลจิสติกส์ไฟฟ้าและธุรกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น
นาย Wu ผู้อำนวยการฝ่ายขายของ MAXUS กล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้เราโดดเด่น คือ DNA เชิงพาณิชย์อย่างแท้จริง เราพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์จากจุดเริ่มต้นในทุกขั้นตอน เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงอย่างเต็มประสิทธิภาพ”
MAXUS
เริ่มขยายตลาดสู่ต่างประเทศตั้งแต่ปี 2011 และปัจจุบันดำเนินธุรกิจในกว่า 100 ประเทศ รวมถึงตลาดมาตรฐานสูงอย่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส และชิลี
ความสำเร็จนี้มาจากไลน์อัปยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่ครอบคลุมทั้งดีเซล เบนซิน EV และ PHEV ตั้งแต่ MPV กระบะ รถบรรทุกขนาดเล็ก ไปจนถึงรถตู้โดยสาร พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ EV อัจฉริยะที่เหมาะสมกับการใช้งานทั่วโลก ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำจำนวนมาก
สำหรับตลาดไทย MAXUS กำลังก้าวสู่การเติบโตอย่างจริงจัง โดยเตรียมเปิดแฟรนไชส์หลักในปี 2026 และวางแผนขยายศูนย์จัดจำหน่ายและบริการให้ครบ 20 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานระดับสากล
นอกจากนี้ “การดัดแปลงรถเพื่อการใช้งานเฉพาะทาง” ยังเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของ MAXUS ซึ่งเปิดโอกาสให้ธุรกิจไทยสามารถแจ้งความต้องการเฉพาะด้าน เพื่อพัฒนารถที่ตอบโจทย์การใช้งานในโลจิสติกส์ไทยอย่างแท้จริง
สำหรับไฮไลต์ของรถซีรีส์ eDeliver ได้แก่
- eD9 รถสำหรับงานหนักที่ปรับใช้ได้หลากหลาย รองรับการบรรทุกสูงสุด 12.3 ลบ.ม. น้ำหนักบรรทุก 1,530 กก. วิ่งได้ 275–370 กม. และสามารถดัดแปลงเป็นรถพยาบาล รถตำรวจ หรือรถบริการพิเศษได้
- eD5 เหมาะสำหรับการขนส่งในเมือง ด้วยพื้นที่บรรทุก 8.7 ลบ.ม. รับน้ำหนักได้ 1,265 กก. ระยะวิ่ง 301–335 กม. พร้อมระบบชาร์จเร็วและกล้องรอบคัน 360°
- eD3 รถขนาดกะทัดรัดสำหรับงานส่งของในเมือง ปริมาตรบรรทุก 4.8 ลบ.ม. รับน้ำหนัก 1,045 กก. ให้กำลังสูงสุด 118 kW พร้อมรัศมีวงเลี้ยวเพียง 11.74 ม.
- eD7 รถอเนกประสงค์ที่รองรับทั้งผู้โดยสารและสินค้า พื้นที่บรรทุก 8.7 ลบ.ม. รับน้ำหนัก 1,200 กก. ให้พลังสูงสุด 150 kW และมีรัศมีวงเลี้ยว 12.1 ม.
งาน Thailand International Motor Expo 2025 จะจัดตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2025 เวลา 19:25–19:35 ณ บูธ SAIC Maxus (B13) อาคาร IMPACT Challenger 1–3 เมืองทองธานี
TorqueThailand.com



