Breaking News

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2566

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2566 ชะลอตัวด้วยยอดขาย 59,530 คัน ลดลง 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 20,203 คัน ลดลง 1.4% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 39,327 คัน ลดลง 8.4% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้จำนวน 26,818  คัน ลดลงถึง 20.3%

TOYOTA

ประเด็นสำคัญ

ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน 2566 ชะลอตัวทุกเซ็กเมนท์ด้วยยอดขาย 59,530 คัน ลดลง 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่รถยนต์นั่งชะลอตัวเล็กน้อยที่ 1.4% ด้วยยอดขาย 20,203 คัน ส่วนทางด้านรถเพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวเช่นกันที่ 8.4% ด้วยยอดขาย 39,327 คัน ประเด็นหลักที่ทำให้ตลาดรถยนต์ในเดือนนี้ชะลอตัวอยู่ที่ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ซึ่งลดลงถึง 20.3%

ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอการตัดสินใจซื้อของภาคธุรกิจ และภาคประชาชนในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ประกอบกับการเติบโตของเศรษฐกิจหลังฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด ที่มียอดสั่งซื้อรถยนต์ทุกประเภทเข้ามาเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา

ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคม มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงของการเลือกตั้ง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการชะลอการตัดสินใจซื้อ ซึ่งภาคประชาชน และภาคเอกชนต่างเฝ้ารอความชัดเจนในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลต่อไป

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน 2566

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย  59,530 คัน ลดลง 6.1 %                        

  • อันดับที่ 1 โตโยต้า   19,565  คัน    ลดลง   9.8 %      ส่วนแบ่งตลาด   32.9%
  • อันดับที่ 2 อีซูซุ        13,336  คัน    ลดลง   19.6 %     ส่วนแบ่งตลาด   22.4%
  • อันดับที่ 3 ฮอนด้า     6,409  คัน    เพิ่มขึ้น 25.5 %     ส่วนแบ่งตลาด   10.8%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 20,203 คัน ลดลง 1.4%                                  

  • อันดับที่ 1 โตโยต้า     7,284  คัน      เพิ่มขึ้น  5.5%   ส่วนแบ่งตลาด   36.1%
  • อันดับที่ 2 ฮอนด้า      3,783  คัน      ลดลง   4.7%   ส่วนแบ่งตลาด   18.7%
  • อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      1,503  คัน      ลดลง   1.7 %   ส่วนแบ่งตลาด  7.4%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 39,327  คัน ลดลง 8.4%                                

  • อันดับที่ 1 อีซูซุ         13,336  คัน   ลดลง   19.6.%   ส่วนแบ่งตลาด 33.9%
  • อันดับที่ 2 โตโยต้า    12,281 คัน    ลดลง   16.9%   ส่วนแบ่งตลาด 31.2%
  • อันดับที่ 3 ฟอร์ด       2,869   คัน  เพิ่มขึ้น   13.4%   ส่วนแบ่งตลาด  7.3%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 26,818 คัน ลดลง 20.3%                                

  • อันดับที่ 1 อีซูซุ          11,880  คัน     ลดลง      23.1%   ส่วนแบ่งตลาด 44.3%
  • อันดับที่ 2 โตโยต้า    10,249 คัน     ลดลง      18.7%   ส่วนแบ่งตลาด 38.2%
  • อันดับที่ 3 ฟอร์ด         2,869 คัน    เพิ่มขึ้น     13.4%   ส่วนแบ่งตลาด  10.7%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,944 คัน

โตโยต้า 1,900 คัน – อีซูซุ 1,676 คัน – ฟอร์ด 837 คัน – มิตซูบิชิ 438 คัน – นิสสัน 93 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 21,874 คัน ลดลง 24.8% 

  • อันดับที่ 1 อีซูซุ          10,204 คัน     ลดลง   27.9%   ส่วนแบ่งตลาด 46.6%
  • อันดับที่ 2 โตโยต้า     8,349 คัน     ลดลง   19.8%   ส่วนแบ่งตลาด 38.2%
  • อันดับที่ 3 ฟอร์ด         2,032 คัน     ลดลง   8.1 %   ส่วนแบ่งตลาด  9.3%   

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – เมษายน 2566

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 276,603 คัน ลดลง 6.1%

  • อันดับที่ 1 โตโยต้า       94,686 คัน    ลดลง     4.2%   ส่วนแบ่งตลาด 34.2%
  • อันดับที่ 2 อีซูซุ            60,495 คัน    ลดลง    18.3%  ส่วนแบ่งตลาด 21.9%
  • อันดับที่ 3 ฮอนด้า        32,370 คัน    เพิ่มขึ้น   5.3%   ส่วนแบ่งตลาด 11.7%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย  97,769 คัน เพิ่มขึ้น 1.6%  

  • อันดับที่ 1 โตโยต้า       35,364 คัน   เพิ่มขึ้น    29.8%   ส่วนแบ่งตลาด 36.2%
  • อันดับที่ 2 ฮอนด้า        21,569 คัน    ลดลง       9.6%   ส่วนแบ่งตลาด 22.1%
  • อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ         6,721 คัน     ลดลง      4.5%    ส่วนแบ่งตลาด  6.9%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 178,834  คัน ลดลง 9.9%      

  • อันดับที่ 1 อีซูซุ           60,495 คัน    ลดลง     18.3%     ส่วนแบ่งตลาด 33.8%
  • อันดับที่ 2 โตโยต้า     59,322 คัน    ลดลง     17.1%      ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
  • อันดับที่ 3 ฟอร์ด        13,909 คัน     เพิ่มขึ้น   40.8%    ส่วนแบ่งตลาด  7.8%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 128,290  คัน ลดลง 18.0%

  • อันดับที่ 1 อีซูซุ            55,402 คัน    ลดลง    19.2%   ส่วนแบ่งตลาด   43.2%
  • อันดับที่ 2 โตโยต้า       49,536 คัน    ลดลง   21.0%   ส่วนแบ่งตลาด   38.6%
  • อันดับที่ 3 ฟอร์ด          13,909 คัน   เพิ่มขึ้น  40.8%   ส่วนแบ่งตลาด   10.8%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 23,171 คัน

โตโยต้า 8,633 คัน – อีซูซุ 7,870 คัน – ฟอร์ด 4,399 คัน – มิตซูบิชิ 1,830 คัน – นิสสัน 439 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย  105,119 คัน ลดลง 22.5%

  • อันดับที่ 1 อีซูซุ         47,532 คัน    ลดลง  23.8%    ส่วนแบ่งตลาด 45.2%
  • อันดับที่ 2 โตโยต้า   40,903 คัน   ลดลง  22.4%    ส่วนแบ่งตลาด 38.9%
  • อันดับที่ 3 ฟอร์ด        9,510 คัน   เพิ่มขึ้น  12.4%    ส่วนแบ่งตลาด  9.0%   

ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่

Check Also

Mitsubishi Motors Thailand in Motor Show 2024

สัมผัสกับขุมพลังใหม่ฟูลไฮบริดกับรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ยอดนิยมแห่งยุค New Xpander HEV และ Xpander Cross HEV, สุดยอดรถกระบะสมรรถนะสูง All-New Triton Athlete พร้อมข้อเสนอพิเศษภายในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ขนทัพยานยนต์รุ่นใหม่คุณภาพสูง ภายใต้แนวคิดที่มุ้งเน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำโดย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ร่วมด้วย มิตซูบิชิ …