รีวิว ลองขับ BMW M2 เครื่องยนต์ BMW M TwinPower Turbo 6 สูบแถวเรียง 460 แรงม้า, 550 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0- 100 กม./ชม. ภายใน 4.1 วินาที

รีวิว ลองขับ BMW M2 ซูเปอร์สปอร์ตคอมแพกต์ พละกำลังถึง 460 แรงม้า
BMW M2
ยนตรกรรมขนาดเล็ก ขับเคลื่อนล้อหลัง ที่คลุ้มคลั่งที่สุดของแผนก M กลับมาอีกครั้งแบบใหม่หมดจดทั้งดีไซน์และทางเทคนิค แม้ BMW M2 ใหม่ จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีเหนือชั้นมากมาย แต่คุณคิดผิดอย่างยิ่ง ถ้าคิดว่าความไฮเทคเหล่านั้น จะช่วยให้ M2 เชื่องมือขึ้น ในทางกลับกัน เหล่าวิศวกรของ BMW กลับยิ่งส่งเสริมให้รถคันนี้คลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิมเสียอีก!
M2 ทำให้คุณอยู่บนเส้นบางๆ ระหว่างความปลื้มปิติและความสยองขวัญ… เมื่อคุณกดแป้นคันเร่งจนมิดพรม M2 ดีดตัวออกไปพร้อมกับท้ายรถที่ส่ายไปมา และเสียงยางคู่หลังที่บดขยี้กับพื้นถนนแม้ระบบควบคุมล้อหมุนฟรีจะทำงานเต็มที่แล้วก็ตาม
แรงฉุดจากขุมพลังเทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง 460 แรงม้า, 550 นิวตันเมตร ส่งคุณจากจุดหยุดนิ่งสู่ 100 กม./ชม. ใน 4.1 วินาที พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า ร่วมด้วยแขนที่เกร็งและตาเบิกกว้าง
ดูเหมือนแผนก M พอใจกับการเพิ่มความเกรี้ยวกราดให้กับ M2 มากกว่าที่จะทำให้มันไม่แว้งกัดลูกค้าของพวกเขาทันทีที่พลาดพลั้ง รถรุ่นใหม่มีบุคลิกที่ดุดันยิ่งขึ้น, พยศยิ่งขึ้น สิ่งเดียวที่ถูกผ่อนปรนคือช่วงล่างซึ่งนุ่มนวลกว่าเดิม เมื่อรวมกับขนาดที่กะทัดรัด ส่งให้คุณขับใช้งานในชีวิตประจำวันได้สบายมากขึ้น แต่อยู่ในข้อแม้ที่ว่า คุณต้องใจแข็ง ไม่ยอมตามใจมันจนเกินไป…
… เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้านี้ M2 ใหม่ ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถที่สามารถเอนเตอร์เทนคุณ ทว่ามันจะเรียกร้องให้คุณเอนเตอร์เทนมันเช่นกัน คันเร่งที่ตอบสนอง (ด้วยแรงดึงมหาศาล) ตามสั่ง, พวงมาลัยขึงตึง และเสียงฮัมจากท่อไอเสีย ยั่วยุให้คุณส่งมันสู่ความเร็วอยู่ตลอดเวลา และคุณก็จะยอมตามใจมัน เหตุเพราะ M2 เร่งได้เร็วเป็นจรวด
ทั้งยังทรงตัวยอดเยี่ยมในทางตรง น่าเหลือเชื่อที่มันสามารถแช่อยู่บนความเร็วกว่า 250 กม./ชม. (ความเร็วสูงสุดของขีดจำกัดจากโรงงาน) โดยไม่วอกแวกแม้แต่น้อย และนั่นคือสิ่งที่ “ปลื้มปิติ”
แล้วอะไรล่ะที่ “สยองขวัญ”?
ขอต้อนรับเข้าสู่ถนนที่คดเคี้ยวลัดเลาะไปตามแนวเขา กับ M2 ที่เตรียมพร้อมอยู่ในโหมด Track ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสัมผัสความดิบเถื่อนของรถ จากนั้นเรื่องราวสยองขวัญก็เริ่มต้นขึ้น… เมื่อหวด M2 แบบเต็มข้อ มันจะเผยให้เห็นความเกรี้ยวกราดอย่างชัดเจน ดื้อดึงตามแบบฉบับรถขับเคลื่อนล้อหลังยุคเก่าที่พร้อมจะโอเวอร์สเตียร์ได้ทุกเมื่อ
ระบบควบคุมแทร็คชั่นที่ลดการแทรกแซงลง ช่วยให้คุณได้สนุกกับการควบคุมคันเร่งและพวงมาลัยยิ่งขึ้น แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับถูกปล่อยให้เผชิญกับม้าพยศตัวนี้เพียงลำพัง
แต่ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการล่ะก็ นี่คือรถสำหรับคุณอย่างแน่นอน! ในความดิบเถื่อนของ M2 แฝงไว้ซึ่งผลงานทางวิศวกรรมชั้นยอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบบังคับเลี้ยวที่ใกล้เคียงกับคำว่า “สมบูรณ์แบบ” ที่สุด ทั้งตรงไปตรงมา,
ฉับไว, เฉียบคม และให้น้ำหนักที่แม้จะต้องออกแรงมากขึ้นอีกหน่อย ทว่ามีสัมผัสที่เข้ากันได้ดีกับพละกำลังเครื่องยนต์และแรงยึดเกาะของช่วงล่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในโค้ง S ซึ่งต้องใช้การ เบรก-เลี้ยว-เร่ง ซ้ำไปมา
นอกจากนั้น M2 ใหม่ ยังมีของขวัญพิเศษมอบให้กับนักขับมากประสบการณ์อีกด้วย! คุณสามารถเลือกระดับการทำงานของระบบควบคุมแทร็คชั่นได้เองถึง 10 ระดับ จากเต็มพิกัดไปจนถึงปิดการควบคุม ซึ่งหมายถึงคุณสามารถดริฟต์ M2 ไปตามโค้ง พร้อมซอฟต์แวร์ที่วิเคราะห์การสไลด์ของคุณได้ และยังสามารถสั่งติดตั้งแพคเกจ ‘M Race Track’
ที่เหมาะสำหรับการนำไปขับแบบแทร็คเดย์ยิ่งขึ้น ด้วยการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อลดน้ำหนักที่หลังคาและเบาะนั่ง พร้อมปลดล็อคความเร็วสูงสุด (จาก 250 กม./ชม.) ส่งให้ M2 ทำความเร็วขึ้นไปได้ถึง 285 กม./ชม.
ที่ราคา 6.5 ล้านบาท M2 เป็นรถที่คุณควรไปทดลองขับดูสักครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ แต่อย่าเข้าใจผมผิด เพราะนี่คือรถที่ยอดเยี่ยมมากๆ ในแง่ของสมรรถนะ มันอาจไม่เชื่องเท่าไหร่นัก ทว่าก็ไม่ถึงขั้นเอาไม่อยู่ เนื่องจากมีระบบควบคุมต่างๆ คอยช่วยประคับประคองอยู่ เพียงแต่ M2 จะเปิดให้คุณได้สัมผัสกับความ “หวาดเสียว” เล็กน้อย (ก่อนที่ระบบจะเข้ามาแทรกแซง)
แต่ถ้าคุณชื่นชอบรถที่มีบุคลิกดุดันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ต้องมองหาคันไหนให้เสียเวลา พุ่งตรงไปที่โชว์รูม BMW แล้วจับจอง M2 ได้เลย

ถึงจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถขนาดเล็ก แต่ M2 ก็นับว่ามีขนาดใหญ่พอสมควร ด้วยความยาวตัวถังเกือบ 4.6 เมตร และกว้างราว 1.9 เมตร จากโป่งซุ้มล้อที่ถูกขยายออกมา ขณะที่ฐานล้อยาวขึ้นกว่าเดิม 54 มม. ที่สำคัญคือความกว้างของฐานล้อคู่หน้าที่ขยายเพิ่มอีกถึง 38 มม. หรือเทียบเท่ากับความกว้างฐานล้อของรุ่นพี่อย่าง M4 เลยทีเดียว โครงสร้างตัวถังถูกเพิ่มความแกร่งขึ้นทั่วทั้งคัน อาทิ การเพิ่มคานค้ำระหว่างสตรัททาวเวอร์ของแดมเปอร์คู่หน้า และอีกชุดค้ำยันมาที่คานหม้อน้ำ เกิดเป็นคานแบบ 3 เหลี่ยม เพื่อลดการบิดตัวของตัวถังส่วนหน้า ใช้คานแนวตั้งค้ำเชื่อมต่อองค์ประกอบของห้องเครื่องเข้ากับซับเฟรมอลูมิเนียมที่ออกแบบขึ้นสำหรับ M2 โดยเฉพาะ เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับช่วงกลางไปจนถึงท้ายรถด้วยการดามบริเวณเสา C เรื่อยไปถึงรอบๆ ห้องเก็บของท้ายรถ ในขณะที่ซับเฟรมของช่วงล่างด้านหลังก็มีจุดยึดที่แข็งแรงยิ่งขึ้นเช่นกัน





เกือบทั้งหมดของพื้นที่ด้านหน้ารถยกให้กับการรับอากาศเข้าสู่แผงระบายความร้อนต่างๆ ของเครื่องยนต์ ทุกช่องไม่ใช่เพื่อความสวยงามแต่มีหน้าที่เฉพาะเจาะจงทั้งสิ้น ลองมองเข้าไปใกล้ๆ คุณจะเห็นปล่องบังคับทิศทางลมและแผงรังผึ้งที่อัดแน่นเต็มพื้นที่… เราเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อแมลงที่ต้องเสียชีวิตอยู่ด้านใน


ท้ายรถที่กำยำจากโป่งหลังขนาดใหญ่และกันชนที่เน้นเหลี่ยมสันคมชัด สปอยเลอร์ขนาดเล็กทำหน้าที่สร้างแรงกดให้กับล้อคู่หลัง ขณะที่ดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ช่วยเรียงอากาศที่วิ่งมาจากให้ท้องรถ และลึกเข้าไปด้านในคือหม้อพักขนาดมหึมาของชุดท่อไอเสียที่สามารถปรับความดังของเสียงได้ ร่วมด้วยปลายท่อคู่ ซ้าย-ขวา ที่ช่วยบ่งบอกให้รถคันที่กำลังตามหลังรู้เป็นนัยว่า คิดให้ดีหากจะลองดีกับมัน
หลังคาผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์เป็นออปชั่นในตลาดต่างประเทศ แต่ BMW ประเทศไทยติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยลดน้ำหนักลงได้ราว 6 กก. ส่งให้แรงเหวี่ยงที่เกิดจากส่วนบนของรถ (หลังคา) ลดลงตามไปด้วย สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งขณะเข้าโค้ง

ชุดไฟหน้าแบบ Full LED จัดวางไว้ชิดด้านนอกสุดของตัวถัง ช่วยหลอกตาให้รถดูกว้างกว่าความเป็นจริง ใช้โปรเจคเตอร์เดี่ยว เป็นไฟต่ำและสูงในตัว เพื่อให้ได้ภาพลักษณ์ที่นำแรงบันดาลใจมาจาก BMW ระดับตำนานรุ่น 02 ในอดีต ส่วน DRL ใช้เป็นไฟเลี้ยวในตัว ขณะที่ชุดไฟท้ายมีดีไซน์แบบ 3 มิติ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับท้ายรถได้เป็นอย่างดี


M2 ใช้ตราสัญลักษณ์ BMW ดีไซน์ใหม่ และเก๋ไก๋ด้วยการติดชื่อรุ่นไว้ที่ครีบของกระจังหน้าแบบไร้กรอบ ชุดแอโร่รอบคันตามแบบฉบับของ M มาพร้อมกับกระจกมองข้างที่มีปีกขนาดเล็กเพื่อผลทางด้านแอโรไดนามิกส์
M2 ใหม่ มีกำลังเพิ่มขึ้นถึง 90 แรงม้า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ผลิตกำลังได้ 460 แรงม้า ที่ 6,250 รอบ/นาที และให้แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ได้ตั้งแต่ 2,650 ไปจนถึง 5,870 รอบ/นาที และสามารถลากรอบขึ้นไปได้สูงสุดที่ 7,200 รอบ/นาที ฝาสูบขึ้นรูปด้วยการปรินต์ 3 มิติ ซึ่งนอกจากจะลดน้ำหนักแล้วยังช่วยให้สามารถออกแบบท่อทางเดินระบบหล่อเย็นที่ซับซ้อนกว่าปกติได้ ขณะที่กระบอกสูบเป็นแบบแรงเสียดทานต่ำ และใช้เพลาข้อเหวี่ยงซึ่งขึ้นรูปด้วยวิธีฟอร์จ และมีดีไซน์ที่ช่วยให้ได้น้ำหนักเบาพิเศษ อ่างน้ำมันเครื่องออกแบบพิเศษโดยแยกทางเดินน้ำมันออกเป็น 2 ช่องอิสระ และใช้ปั๊มน้ำมันเครื่องควบคุมด้วยอิเลกทรอนิกส์ เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำมันเครื่องสามารถไหลได้อย่างทั่วถึงแม้ขณะขับขี่ในสนามแข่ง หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงถึง 350 บาร์ ส่วนเทอร์โบทั้ง 2 ตัว เป็นแบบ Mono-scroll พร้อมเวสต์เกตควบคุมด้วยไฟฟ้าเพื่อแรงบูสต์ที่แม่นยำ ร่วมด้วยอินเตอร์คูลเลอร์แบบอินไดเรคท์ และแผงระบายความร้อนต่างๆ ที่ติดตั้งกระจายอยู่ทั่วส่วนหน้าของรถ

เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ‘M Steptronic’ มีอัตราทดที่เซ็ตให้ตรงกับบุคลิกของเครื่องยนต์ใหม่ตัวนี้โดยเฉพาะ จึงไม่น่าแปลกใจที่ M2 เร่งได้เร็วเป็นพายุในทุกย่านความเร็ว ที่น่าปรบมือให้ก็คือ แม้เป็นเกียร์แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ (เทียบกับรถสมรรถนะสูงที่มักใช้ระบบคลัตช์คู่) แต่การเปลี่ยนเกียร์ได้ฉับไวไม่ต่างกัน ต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่นำมาใช้พัฒนาทอร์คคอนเวอร์เตอร์ให้ลดความไม่สม่ำเสมอในการหมุนลง ทำให้ถ่ายทอดพละกำลังจากเครื่องยนต์ได้อย่างหมดจดยิ่งขึ้น Paddle Shift หลังพวงมาลัยตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ (รวมอยู่ในแพคเกจคาร์บอนฯ ในห้องโดยสาร) คุณสามารถกดแป้นลดเกียร์ (แป้นซ้ายมือ) ค้างไว้ เมื่อต้องการให้เกียร์เปลี่ยนลงเกียร์ต่ำสุดเท่าที่จะทำได้ทันที (อาจข้าม 2-3 เกียร์) เมื่อต้องการดาวน์ชิฟต์เพื่อเร่งแซง นอกจากนั้น คุณยังสามารถเลือกความยาวในการลากแต่ละเกียร์ได้ที่ปุ่มด้านหลังของหัวเกียร์อีกด้วย หรือถ้าชอบแบบ Old School ล่ะก็ M2 มีเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะให้เลือกสั่งซื้อด้วยเช่นกัน
พละกำลังจากชุดเกียร์ ถูกส่งต่อมายังล้อคู่หลังผ่านเฟืองท้ายควบคุมด้วยอิเลกทรอนิกส์ ‘Active M Differential’ ที่สามารถปรับอัตราการแบ่งกำลังไปสู่ล้อหลังฝั่งซ้ายและขวาได้อย่างแม่นยำ และให้อัตราการจับสูงสุด 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ขึ้นอยู่กับการหมุนฟรีของแต่ละล้อ นอกจากนั้น M2 ยังเปิดโอกาสให้คุณได้สนุกไปกับการสไลด์ได้ง่ายๆ ด้วยปลายนิ้ว เพียงกดปุ่ม “M (Dynamic) MODE” แล้วเลือกโหมด Sport ที่ระบบช่วยเหลือจะลดการแทรกแซงลง หรือปิดไปเลยในโหมด Track

หากต้องการสนุกกับความผยศของ M2 คุณสามารถเลือกปรับระบบควบคุมเสถียรภาพได้ 10 ระดับ จากเต็มพิกัดจนถึงปิดการควบคุม ยอดเยี่ยมอย่างยิ่งในการปรับบุคลิกของรถให้เหมาะสมกับรูปแบบสนามแข่งและสไตล์การขับขี่ของคุณ รวมไปถึงเพื่อภารกิจดริฟต์กวาดท้ายไปตามโค้ง พร้อมระบบวิเคราะห์ที่ช่วยให้คุณสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปเพิ่มทักษะการดริฟต์ให้เฉียบขาดยิ่งขึ้น

ระบบบังคับเลี้ยวที่แปรผันทั้งน้ำหนักและอัตราทดตามความเร็ว ตอบสนองได้ไร้ที่ติ ทั้งสื่อสาร, ฉับไว, เฉียบคม และให้อรรถรสการขับขี่แบบสปอร์ตเต็มพิกัด สามารถเลือกได้ 2 โหมดคือ Comfort ที่เบาแรงแต่ยังคงตอบสนองแม่นยำ และ Sport ซึ่งขึงตึงพออสมควร ทว่ากลับกลมกล่อมอย่างยิ่งเมื่อขับขี่ในบทบู๊ล้างผลาญ วงพวงมาลัยขนาดอวบอ้วนกำลังดี มาพร้อมปุ่มทางลัด “M1” และ “M2” สำหรับเข้าสู่โหมด Individual ที่คุณปรับตั้งไว้ล่วงหน้าได้ทันที
ใช้ล้อและยางต่างขนาด คือ ล้อหน้าขนาด 9.5×19 นิ้ว พร้อมยาง 275/35 และขนาด 10.5×20 นิ้ว จับคู่กับยาง 285/30 ที่ล้อหลัง วิธีนี้ช่วยเพิ่มการตอบสนองของพวงมาลัย (ที่ล้อหน้า) และการถ่ายแรงเหวี่ยงของล้อหลังที่ใช้ขับเคลื่อน ได้ดีกว่าการใช้ล้อขนาดเท่ากัน (เช่น 20 นิ้วทั้งสี่ล้อ) ช่วงล่างเซ็ตขึ้นเป็นพิเศษโดยแผนก M ใช้คอยล์สปริงร่วมกับแดมเปอร์ควบคุมด้วยอิเลกทรอนิกส์ทั้งสี่ล้อ ทำงานโดยใช้เซนเซอร์ตรวจจับสภาพถนนและระบบบังคับเลี้ยว และนำข้อมูลที่ได้มาปรับวาล์วภายในแดมเปอร์ให้สอดคล้องแยกเฉพาะแต่ละล้อ ในขณะที่ระบบเบรก
ระบบเบรกใช้คาลิเปอร์คู่หน้าแบบ 6 ลูกสูบ ร่วมกับดิสก์ขนาด 380 มม. ส่วนคู่หลังใช้คาลิเปอร์แบบสไลด์และดิสก์ขนาด 370 มม. ทั้งหมดพ่นด้วยสีแดงซึ่งต้องสั่งพิเศษในตลาดต่างประเทศ (มาตรฐานเป็นสีน้ำเงิน) แต่ BMW Thailand มีมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทำงานโดยใช้การควบคุมที่รวมเอาระบบจับการเคลื่อนไหวขณะเบรก, ระบบเพิ่มแรงเบรก และฟังก์ชั่นควบคุมการเบรก ไว้ในโมดูลขนาดกะทัดรัด ส่งผลให้ได้ตัวควบคุมตอบสนองการทำงานได้รวดเร็ว ทันทีที่เหยียบเบรก ผู้ขับสามารถเลือกตั้งค่าการตอบสนองของเบรกได้ 2 แบบ ผ่านเมนู M Setup คือ แบบนุ่มนวลสำหรับการใช้งานทั่วไป และสัมผัสการตอบสนองแบบตรงไปตรงมาเมื่อขับขี่แบบสปอร์ต
แม้จะเน้นความสปอร์ต แต่ระบบช่วยเหลือขณะขับขี่ก็ถูกติดตั้งมาให้เต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็นระบบแอคทีฟครูสคอนโทรลพร้อม Stop & Go, ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ, ระบบช่วยนำจอด เป็นต้น
ห้องโดยสารมาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ จากแผนก M สำหรับการขับขี่แบบสปอร์ตโดยเฉพาะ พร้อมตกแต่งด้วยสีน้ำเงินและแดงอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของรถ M ในชิ้นส่วนต่างๆ ทั่วทั้งคัน ร่วมกับชิ้นส่วนคาร์บอนเงาวับของแพคเกจบนแดชบอร์ด, แผงประตู ตลอดจนแพดเดิลและพวงมาลัย นอกจากนั้น ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแท่นชาร์จไร้สาย, กระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวน, ระบบปรับอากาศแยก 3 โซน, ชุดเครื่องเสียงรอบทิศทางจาก Harman/Kardon ร่วมด้วยระบบผู้ช่วยส่วนตัวสั่งการด้วยเสียงเวอร์ชั่นล่าสุดที่สามารถสั่งปรับระบบปรับอากาศ และเปิดปิดกระจกหน้าต่างได้ด้วย
เบาะนั่งทรงสปอร์ต ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่โดยเพิ่มส่วนปีกเบาะให้สูงขึ้นเพื่อโอบรับร่างกายได้กระชับกว่าเดิม โลโก้ “M2” บริเวณพนักพิงศีรษะเป็นแบบเรืองแสง และมาพร้อมกับสายเข็มขัดนิรภัยตกแต่งแถบสี M เข้าชุดกัน นอกจากนั้น หากคุณเลือก M2 ที่มาพร้อมแพคเกจ ‘M Race Track’ จะได้เบาะแบบ Bucket ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ตัดน้ำหนักออกไปได้ถึง 10.8 กก. ทั้งยังมีช่องบนเบาะสำหรับติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบใช้ในการแข่งขันเตรียมไว้ให้เรียบร้อย พื้นที่ในห้องโดยสารไม่กว้างขวางนัก โดยเฉพาะกับคนที่สูง 175 ซม. ขึ้นไป จะเหลือเฮดรูมน้อยมากจนศีรษะอาจติดกับเพดานในบางจังหวะหากขับขี่โดยสวมหมวกกันน็อค เช่นเดียวกับเบาะหลังที่แม้จะมีพื้นที่วางขามากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 5 ซม. แต่ก็ยังนั่งไม่สบายอยู่ดี
BMW iDrive ใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด 8.0 ร่วมด้วยซอฟต์แวร์เจเนอเรชั่นใหม่ ส่งให้ทำงานได้อย่างทรงพลังทั้งด้านการเชื่อมต่อและประมวลผล ปุ่มต่างๆ บนคอนโซลกลางนี้ยังเป็นแบบกด (ไม่ใช่ระบบสัมผัส) ซึ่งแม้จะไม่หวือหวาอะไร แต่สามารถกดใช้งานได้ง่ายและรวดเร็ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับรถสมรรถนะสูงที่ทุกการละสายตาจากถนนอาจก่อให้เกิดอันตรายได้


จอแสดงผลทรงโค้งหันเข้าหาผู้ขับ ‘BMW Curved Display” ตั้งตระหง่านทอดยาวเกินครึ่งหนึ่งของแดชบอร์ด ภายในประกอบด้วยจอแสดงผล 2 ชุด คือ จอสำหรับผู้ขับซึ่งสามารถปรับแต่งรูปแบบกราฟฟิกและเรียกดูข้อมูลได้หลากหลาย โดยเมื่อเลือกเปลี่ยนเกียร์เองแบบ Manual จอจะแสดงตัวเลขตำแหน่งเกียร์ขนาดใหญ่ไว้ตรงกลาง พร้อมสัญญาณเตือนเปลี่ยนเกียร์ ให้เห็นเด่นชัด นอกจากนั้น ยังระบบ Head-up Display ที่จะตัดคอนเทนต์รองออกไป เหลือไว้เพียงข้อมูลสำคัญสำหรับการขับในสนาม เมื่อเลือกใช้โมหด Track จออีกชุดสำหรับระบบอินโฟเทนเมนต์และการปรับแต่งค่าอย่างละเอียดต่างๆ ของรถ พิเศษด้วยการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะของรถและแสดงผลการขับขี่ต่างๆ ซึ่งมีให้เฉพาะรถตระกูล M เท่านั้น

SPECIFICATIONS: BMW M2
- Price: ฿6,529,000 (BSI included)
- Engine: 2993cc turbocharged straight-six, 460hp @ 6250rpm, 550Nm @ 2650-5870rpm
- Transmission: 8-speed M Steptronic auto, rear-wheel drive
- Performance: 4.1sec 0-100km/h, 250km/h top speed (limit), 10.4km/l, 217g/km CO2
- Weight: 1800kg