รีวิว ลองขับ Porsche Macan 4 ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังรวมสูงสุด 387 แรงม้า อัตราเร่ง 100 กม./ชม. ใน 5.2 วินาที ราคาเริ่มต้นที่ 5,390,000 บาท
รีวิว ลองขับ Porsche Macan 4 คอมแพคท์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าล้วน 100%
Porsche Macan 4
ไม่มี Macan ที่ใช้เครื่องยนต์อีกต่อไป! SUV คันเล็กรุ่นใหม่ของ Porsche เปลี่ยนมาใช้เฉพาะการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนเท่านั้น เจเนอเรชั่นล่าสุดใช้แพลตฟอร์ม PPE (Premium Platform Electric) ที่พัฒนาร่วมกับ Audi และแชร์กับรุ่น Q6 e-tron ร่วมด้วยการเปลี่ยนใหม่หมดทั้งภายนอก, ภายใน และช่วงล่าง
คันทดสอบของเราคือ Macan ‘4’ เกรดรองจาก ‘Turbo’ ซึ่งเป็นรุ่นแรงสุดของตระกูลนี้ มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด (สำหรับล้อคู่หน้าและหลัง) ให้กำลังรวมสูงสุด 387 แรงม้า และมีแรงบิด 650 นิวตันเมตร ร่วมด้วยระบบ Overboost เพิ่มพลังให้เป็น 408 แรงม้า เมื่อใช้ Launch Control
ระบบช่วยออกตัวนี้ จะทำงานเมื่ออยู่ในโหมด Sport และ Sport Plus เพียงเหยียบแป้นเบรกให้สุด – เข้าเกียร์ D – เหยียบคันเร่งมิดพรม รอจนหน้าจอแสดงข้อความว่าระบบ Launch Control เริ่มทำงานแล้ว จากนั้นปล่อยเบรกและ Macan 4 จะกระโจนไปข้างหน้าสู่ 100 กม./ชม. ใน 5.2 วินาที ก่อนแตะ 200 กม./ชม. ในอีกเพียง 15 วินาทีต่อมา
Macan 4 อาจไม่ใช่ SUV ที่เร็วฟ้าผ่าเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นในคลาสเดียวกัน แต่สิ่งที่แยกมันออกจาก EV เหล่านั้นคือ “คุณภาพการขับขี่” ตามแบบฉบับของ Porsche ผมใช้คำว่า “คุณภาพ” เพราะไม่เพียงแฮนด์ลิงที่ไร้เทียมทาน แต่ยังรวมไปถึงการขับขี่ใช้งานทั่วไปที่ทำได้น่าประทับใจทีเดียว
ต้องยกความดีความชอบให้กับช่วงล่างถุงลมแบบ Adaptive ซึ่งควบคุมอย่างไม่คลาดสายตาด้วยระบบ PASM (Porsche Active Suspension Management) ร่วมกับระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง ส่งให้ Macan 4 ทั้งเกาะหนึบในโค้งและนุ่มนวลระดับ First-class บนมอเตอร์เวย์
จุดที่เป็นไฮไลต์คงหนีไม่พ้นระบบบังคับเลี้ยวที่เฉียบคม เอกลักษณ์เฉพาะของ Porsche ทุกรุ่น แม้ไม่สื่อสารชัดเจนเหมือนรถสปอร์ตของค่าย แต่เท่าที่มีอยู่ตอนนี้ก็นับว่าเหนือชั้นกว่ารถในคลาสเดียวกัน รวมไปถึง SUV ส่วนใหญ่ในตลาด
ช่วยให้ Macan 4 กระฉับกระเฉงในโค้งต่อเนื่องและการเปลี่ยนเลนไปมา ในขณะที่ระบบเบรกก็ให้สัมผัสที่ตรงไปตรงมาและเป็นธรรมชาติ ทั้งยังทรงพลังมากพอที่จะกำราบทั้ง 387 แรงม้าให้อยู่หมัดได้สบายๆ
Porsche Macan 4 มีราคาเริ่มต้นที่ 5.39 ล้านบาท ส่วนคันทดสอบของเราติดตั้งออปชั่นมาให้เป็นลิสต์ยาวเหยียด รวมราคาราว 1.37 ล้านบาท ส่งให้ราคาขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 6.75 ล้านบาท
นั่นเป็นตัวเลขที่น่าคิดหากคุณต้องการ Compact SUV พลังไฟฟ้า เพราะมันแพงกว่า BMW iX 3 รถในคลาสเดียวกันถึงเกือบ 1 เท่าตัว และเกือบ 2 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Audi Q6 e-tron รถที่มันแชร์แพลตฟอร์มด้วย
แต่นี่คือ Porsche และ Macan 4 ทั้งทรงพลังกว่า และขับสนุกกว่าในแบบที่รถทั้งสองคันข้างต้นทำได้แค่ฝันถึง
นับตั้งแต่ปี 2014 Porsche Macan ขายไปแล้วกว่า 850,000 คันทั่วโลก ในฐานะ Compact SUV สมรรถนะสูงในราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยาก ปัจจุบัน เจเนอเรชั่นที่ 2 ของ Macan มีจำหน่ายเฉพาะขุมพลังไฟฟ้าล้วนเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของ Porsche ที่ต้องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้มากกว่า 80% ของรถโมเดลใหม่ทั้งหมด ภายในปี 2030
Macan ใหม่ ใช้โครงสร้าง PPE (Premium Platform Electric) ที่พัฒนาร่วมกับ Audi ซึ่งออกแบบขึ้นสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ ส่งให้ตัวรถมีฐานล้อยาวกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ถึง 86 มม. นั่นหมายถึง คุณจะได้ห้องโดยสารที่กว้างขึ้นและการขับขี่ที่นุ่มนวลกว่าเดิมตามหลักฟิสิกส์ของรถฐานล้อยาว นอกจากนั้น รถรุ่นใหม่นี้ยังมีกว้างขึ้นและเตี้ยลงกว่าเดิมอีกด้วย
เมื่อเปลี่ยนสู่การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ชุดแอโร่จึงไม่เพียงโฟกัสไปที่การสร้างแรงกด ทว่ายังต้องให้ความสำคัญกับการลดแรงต้าน เพื่อให้รถสามารถวิ่งได้ ระยะทาง/ชาร์จ มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ต้องขอบคุณระบบ PAA (Porsche Active Aerodynamics) ที่ผสานองค์ประกอบ Passive และ Active ให้ทำงานสอดคล้องกันได้อย่างลงตัว ที่กันชนหน้ามาพร้อมช่องรับอากาศขนาดใหญ่ที่มีแผ่นกั้นอากาศแบบ เปิด-ปิด อัตโนมัติ โดยขณะขับขี่ปกติจะปิดเพื่อลดแรงต้าน และเปิดเมื่อต้องการลดความร้อนให้กับแบตเตอรี่, ระบบส่งกำลัง, รับอากาศเข้ามาหมุนเวียนในห้องโดยสาร หรือขณะชาร์จไฟ เป็นต้น ส่วนช่องด้านข้าง (ใต้ชุดไฟหน้า) ทำหน้าที่ระบายแรงดันอากาศออกไปข้างรถและจัดระเบียบกระแสลมปั่นป่วนที่ออกมาจากล้อ ขณะที่ใต้ท้องปิดเรียบสนิทต่อเนื่องไปถึงดิฟฟิวเซอร์ใต้กันชนหลัง โดยมีส่วนที่สามารถยืดหยุ่นได้บริเวณใกล้กับล้อหลังเพื่อช่วยให้พื้นผิวยังคงปิดเรียบขณะช่วงล่างยืดตัว ร่วมด้วยสปอยเลอร์แบบ Active ที่ซ่อนตัวกลมกลืนกับฝาท้าย และสามารถยกตัวขึ้นได้ 2 ระดับ อัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับความเร็วและโหมดการขับขี่ที่เลือก… ทั้งหมดนี้ส่งให้ Macan ใหม่ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.25 เท่านั้น
คันทดสอบของเรามาพร้อมกับชุดไฟหน้า Matrix LED ซึ่งเป็นอุปกรณ์สั่งติดตั้งพิเศษสำหรับ Macan 4 แต่ละชุดประกอบด้วย LED จำนวน 84 ดวง ควบคุมการทำงานผ่านระบบ PDLS Plus (Porsche Dynamic Light System Plus) โดยนำข้อมูลจากความเร็วขณะขับขี่, กล้องหน้า และระบบนำทาง มาร่วมประมวลผลเพื่อกำหนดรูปแบบการส่องสว่าง โดยสามารถส่องได้ไกลสูงสุดถึง 600 เมตร นอกจากนั้น ยังสร้างแอนิเมชั่นเพื่อ ต้อนรับ/อำลา เมื่อเปิดหรือปิดล็อครถได้อีกด้วย
ชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ 3 มิติ มีแถบไฟคาดยาวตลอดความกว้างตัวรถตามสไตล์ Porsche รุ่นใหม่ และใช้ตัวอักษร ‘PORCHE’ ขนาดใหญ่ ขึ้นรูปแบบให้ดูคล้ายทำมาจากกระจกหนา ติดตั้งไว้กึ่งกลาง ถัดลงมาด้านล่างเป็นกล้องหลังที่ติดตั้งกลมกลืนลงตัวกับกรอบไฟท้ายสีดำ เมื่อเปิดฝาท้ายจะพบกับพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ถึง 540 ลิตร และเพิ่มเป็น 1,348 ลิตร หากพับเบาะหลังร่วมด้วย ในขณะที่ช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้าจุได้อีก 84 ลิตร… ทั้งฝาท้ายและหน้าสามารถเปิดได้ด้วยไฟฟ้าจากปุ่มที่ติดตั้งรวมอยู่กับปุ่มกระจกหน้าต่างฝั่งผู้ขับ
Macan 4 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าชนิดแม่เหล็กถาวรที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา โดยมอเตอร์สำหรับล้อคู่หน้ามีเส้นผ่าศูนย์กลาง 210 มม. และส่วนทำงานยาวเพียง 100 มม. ให้กำลังสูงสุด 235 แรงม้า ขณะที่มอเตอร์คู่หลังขนาด 210 และ 200 มม. (ตามลำดับ) ทำได้ 375 แรงม้า เมื่อทั้งสองตัวทำงานร่วมกันจะสร้างพลังรวม 387 แรงม้า และเพิ่มเป็น 408 แรงม้า ในโหมด Overboost ซึ่งทำงานร่วมกับระบบช่วยออกตัว ส่งให้ Macan 4 ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 5.2 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. ใช้แบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน ขนาด 100 kWh ติดตั้งไว้ใต้ท้องรถลึกเข้าไปด้านในแชสซีส์ และปกป้องด้วยแผ่นไฟเบอร์กลาสออกแบบพิเศษเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและรองรับแรงกระแทก ทั้งยังลดน้ำหนักลงได้มากเมื่อเทียบกับการใช้โลหะ มีโมดูล 12 ตัวซึ่งแต่ละตัวมีเซลล์ปริซึม 15 เซลล์เชื่อมต่อแบบอนุกรม ติดตั้งอยู่บนโมดูล ปริซึมแต่ละเซลล์มีเปลือกอะลูมิเนียมเป็นของตัวเอง จึงมีความเสถียรเป็นพิเศษ โดยขั้วบวกซึ่งรับอิเล็กตรอนและทำหน้าที่ชาร์จแบตเตอรี่ผลิตจากกราไฟต์ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงมีเสถียรภาพเชิงกลสูงและมีเสถียรภาพในวงจรที่ดี ทั้งยังมีเปลี่ยนแปลงในปริมาตรระหว่างวงจรการชาร์จและการคายประจุเล็กน้อย ทำให้ขั้วบวกมีความทนทานสูง ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้นานยิ่งขึ้น รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 800 โวลต์ จึงสามารถชาร์จที่ 270 kW ได้
ฝาครอบหัวชาร์จเปิดปิดด้วยระบบสัมผัส ภายในคือชุด IPB (Integrated Power Box) ที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ Porsche รวบรวมที่ชาร์จ AC, DC และ Heater ควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ เข้าไว้ด้วยกัน มีน้ำหนักเพียง 19 กก. ซึ่งเบากว่าระบบทั่วไปถึง 3 กก. ทั้งยังมีขนาดเล็กจนสามารถติดตั้งไว้ใต้เบาะหลังได้ Macan สามารถชาร์จจาก 10-80% ที่สถานี 800 โวลต์ ใน 21 นาที และ 33 นาที ที่สถานีขนาด 400 โวลต์ โดยระบบจะแบ่งวงจร 800 โวลต์ ออกเป็น 400 โวลต์ 2 ชุดแยกจากกัน ทำให้สามารถชาร์จได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่วนการชาร์จ AC รองรับที่ 11 kW ใช้เวลา 10 ชม. ในการชาร์จจาก 0-100% สามารถวิ่งได้ไกล 612 กม./ชาร์จ (WLTP) โดยประมาณ และอาจได้ถึง 700 กม. หากใช้งานในเมืองเพียงอย่างเดียว
พลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งสอง ส่งต่อมายังชุดเกียร์ Single-speed แบบ 2-Stage ที่ดีไซน์ให้เป็นแบบเพลาขนาน 3 แกน โดยล้อคู่หน้าใช้เฟืองอัตราทด 9.2 และด้านหลังที่ 9.8ใช้ระบบ ePTM (Porsche Traction Management) ควบคุมการทำงานระหว่างมอเตอร์หน้าและหลังเพื่อแบ่งถ่ายกำลังให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่แบบ Real Time สามารถทำงานได้ภายใน 10 มิลลิวินาที หากตรวจพบการลื่นไถล นอกจากนั้น การแบ่งถ่ายกำลัง หน้า-หลัง ยังขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ที่ผู้ขับเลือกใช้ โดยในโหมด Normal ระบบ ePTM จะเน้นการใช้มอเตอร์หลังให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้ระยะวิ่งมากขึ้น, Sport และ Sport Plus จะให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน โดยแบ่งกำลังไปด้านหน้ามากขึ้น และในโหมด Off-road ระบบจะปรับเป็นการขับเคลื่อนสี่ล้อ (All-wheel drive) อย่างสมบูรณ์ ด้วยการจำกัดความแตกต่างของกำลังมอเตอร์ทั้งสองให้ใกล้เคียงกันโดยใช้ระบบล็อคเฟืองท้ายกลาง “เสมือนจริง” พร้อมกับยกช่วงล่างสู่ระดับ “High Level I” (สูงขึ้น 20 มม. จากระดับปกติ หรือสูงขึ้น 40 มม. หากเลือก Level II) โดยอัตโนมัติ
ช่วงล่างในคันทดสอบของเราติดตั้งออปชั่นถุงลม ซึ่งทำงานร่วมกับแดมเปอร์ระบบ PASM (Porsche Active Suspension Management) แทนที่สปริงขดซึ่งเป็นมาตรฐานของ Macan 4 ตัวแดมเปอร์เป็นรุ่นใหม่ที่ภายในประกอบด้วยวาล์ว 2 ชุด (จากเดิม 1 ชุด) เพื่อแยกปรับการทำงานช่วงยืดและยุบออกจากกันอิสระ ช่วยให้สามารถเปลี่ยนโหมดระหว่าง Performance และ Comfort ได้รวดเร็วกว่าเดิม นอกจากนั้น ยังส่งให้แรงดันภายในแดมเปอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ช่วงล่างจึงให้การตอบสนองและเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ระบบเบรกถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจาก Taycan โดยใช้แรงหน่วงจากการรีเจนฯ มาช่วยเบรกเป็นหลัก สามารถกู้คืนพลังงานได้สูงสุดถึง 240 kW เมื่อเบรกแรงพอ โดยคิดเป็น 40% การพลังเบรกทั้งหมดที่ทำได้ นั่นหมายถึง 98% ของแรงเบรกจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน! คาลิเปอร์จะทำงานเมื่อความต้องการแรงเบรกสูงกว่าที่ระบบรีเจนฯ ทำได้ นอกจากนั้น การรีเจนฯ จะไม่ทำงานหากผู้ขับยกคันเร่งโดยไม่เหยียบเบรก เพื่อให้รถสามารถไหลต่อไปได้ เป็นการเพิ่มระยะทางการวิ่งไปในตัว อย่างไรก็ตาม คุณสามารถตั้งค่าให้มีการรีเจนฯ เล็กน้อย (แบบเดียวกับ Engine Brake ของเครื่องยนต์) จากระบบ PCM… ล้อขนาด 22 นิ้ว เหมือนคันทดสอบของเรา เป็นออปชั่นอีกเช่นกัน ส่วนล้อรุ่นมาตรฐานมีขนาด 20 นิ้ว
แม้เป็น SUV รุ่นเล็ก ทว่า Macan ก็ไม่ทำให้เสียชื่อ Porsche แต่อย่างใด ต้องปรบมือให้กับระบบบังคับเลี้ยวที่เฉียบคมและตอบสนองเป็นเยี่ยม ทั้งยังให้น้ำหนักที่เหมาะสมตามแต่ละสภาพการขับขี่ ร่วมด้วยระบบเลี้ยวล้อหลัง (สูงสุด 5 องศา) ซึ่งจะเลี้ยวทิศทางตรงกันข้ามกับล้อหน้า เมื่อใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. เพื่อลดรัศมีวงเลี้ยว ส่งให้รถซอกแซกไปมาหรือกลับรถได้คล่องตัวยิ่งขึ้น และเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกับล้อหน้าเมื่อความเร็วมากกว่า 80 กม./ชม. เพิ่มความเสถียรขณะเปลี่ยนทิศทางได้มากยิ่งขึ้น
Macan ใหม่ มาพร้อมกับลิสต์ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือขณะขับขี่ที่ล้ำสมัยยาวเป็นหางว่าว หนึ่งในนั้นคือระบบ Adaptive Cruise Control ที่สามารถปรับความเร็วอัตโนมัติตามป้ายจำกัดความเร็ว, โค้ง และวงเวียนได้ นอกจากนั้น ยังคอยควบคุมพวงมาลัยให้อยู่ในเลนได้แม้ในการจราจรติดขัด, เปลี่ยนเลนเมื่อพบการซ่อมแซมถนนหรือถนนคอขวด ตลอดจนตรวจจับเส้นแบ่งเลนและรถคันที่สวนมาได้อีกด้วย
เมื่อเปิดประตูแบบไร้กรอบกระจกเข้าไปในห้องโดยสาร จะพบกับแดชบอร์ดและคอนโซลกลางที่มีดีไซน์เป็นไปในทิศทางเดียวกับ Taycan คุณภาพวัสดุและการประกอบเป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงของ Porsche ตกแต่งด้วยลายไม้ ‘Summerwood’ ซึ่งเป็นออปชั่นติดตั้งเพิ่มเติม นอกจากนั้น ยังมาพร้อมกับแถบไฟ LED ซึ่งประกอบด้วยไฟถึง 54 ดวง จากประตูหน้าพาดผ่านแดชบอร์ดจนถึงประตูอีกฝั่ง ซึ่งไม่เพียงทำหน้าที่สร้างบรรยากาศแต่ยังใช้เพื่อสื่อสารกับผู้ขับ อาทิ กะพริบเตือนร่วมกับระบบช่วยเหลือขณะขับขี่, แสดงสถานะการชาร์จไฟ หรือต้อนรับเมื่อปลดล็อครถ เป็นต้น
จอแสดงผลทรงโค้งสำหรับผู้ขับขี่ มีขนาด 12.6 นิ้ว คุณต้องประทับใจกับกราฟฟิกที่งดงามและคมชัด ทั้งยังเรียกดูข้อมูลและเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลาย ผ่านปุ่มควบคุมที่ก้านฝั่งขวาของพวงมาลัย นอกจากนั้น ยังมี Head-up Display ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ Porsche นำเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) มาใช้ โดยกราฟฟิกสีจะถูกฉาย (บนกระจกหน้า) ซ้อนไปยังสภาพแวดล้อมจริงอย่างแม่นยำ เช่น เมื่อใช้ระบบนำทาง ลูกศรนำทางจะแสดงอยู่บนเลนเลี้ยวที่ถูกต้อง โดยระบบจะใช้ทั้งข้อมูลสภาพแวดล้อมและตำแหน่งของรถเพื่อระบุตำแหน่งที่แม่นยำของกราฟฟิก นอกจากนั้น ยังรองรับฟังก์ชันของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่บางระบบ เช่น ระบบ Adaptive Cruise Control โดยกราฟฟิกแสดงระยะห่างจากรถคันข้างหน้า จะถูกวางไว้บนถนนเสมือนเป็นพรมลายจุดเพื่อแจ้งระยะ การแจ้งเตือนจากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ก็สามารถแสดงในพื้นที่ AR ได้เช่นกัน ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่รับทราบข้อมูลได้เร็วขึ้น จึงลดความเสี่ยงในการเสียสมาธิได้มากกว่าเดิม ภาพที่ฉายขึ้นบนกระจกหน้าจะ (ดูเหมือน) ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร และมีพื้นที่แสดงผลรวมเทียบเท่ากับจอภาพขนาดถึง 87 นิ้ว
จอส่วนกลางของระบบ PCM (Porsche Communication Management) มีขนาด 10.9 นิ้ว ทำงานบนระบบปฏิบัติการ ‘Android Automotive’ ซึ่งจะเริ่มบูทเครื่องทันทีที่ผู้ขับ (พร้อมกุญแจรถ) เดินเข้าใกล้รถ นั่นหมายถึง คุณสามารถเริ่มใช้งานได้ทันทีเมื่อเข้ามาอยู่ในห้องโดยสาร รองรับการติดตั้งแอปฯ อื่นๆ ได้เช่นเดียวกับที่เราทำกับสมาร์ตโฟน ผ่าน Porsche App Centre นั่นหมายถึงคุณสามารถใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ได้จากหน้าจอของ Macan ระบบปฏิบัติการใหม่นี้ รองรับทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay ที่พิเศษคือสามารถแสดงแผนที่ของ Google Map หรือ Apple Map ขึ้นบนจอแสดงผลของผู้ขับได้อีกด้วย
แพคเกจ Sport Chrono สั่งติดตั้งเพิ่มเติมเช่นกัน สามารถใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ผ่านหน้าจอส่วนกลาง นั่นรวมไปถึงการบันทึกเวลต่อรอบ, เรียกดูข้อมูลด้านการขับขี่ต่างๆ, เพิ่มสนามแข่งใหม่ และวิเคราะห์การขับขี่ในสนามแข่งของคุณ
ระบบปรับอากาศ Advanced Climate Control แยก 4 โซน มาพร้อมกับเซนเซอร์ตรวจจับค่ามลพิษจากอนุภาค PM2.5 ในอากาศทั้งในและนอกรถตลอดเวลา พร้อมแสดงค่าผ่านหน้าจอส่วนกลางได้ หากตรวจพบว่าค่าฝุ่นสูงเกินขีดจำกัด ระบบจะเปิดโหมดหมุนเวียนอากาศอัตโนมัติ และทำการหมุนเวียนอากาศผ่านระบบกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กซ้ำๆ หลายครั้ง เพื่อทำความสะอาดอากาศภายในห้องโดยสาร นอกจากนั้น ยังมีเครื่องสร้างไอออนที่จะขจัดเชื้อโรคและมลพิษจำนวนมากออกจากอากาศในระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติก่อนที่จะไหลเข้าสู่ภายในรถ จึงได้คุณภาพอากาศที่ดีกว่าอย่างรู้สึกได้
เบาะคู่หน้าจัดวางต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 28 มม. คันของเราติดตั้งออปชั่นเบาะ ‘Comfort Seat’ ปรับได้ 14 ทิศทาง (เบาะมาตรฐาน 8 ทิศทาง) ในขณะที่เบาะหลังต่ำลง 15 มม. และ Porsche เคลมว่าผู้นั่งที่ตัวสูงกว่า 1.8 เมตร ก็สามารถนั่งได้สบายๆ พื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวางทุกที่นั่งจากแพลตฟอร์มใหม่ที่มีฐานล้อยาวขึ้นเกือบ 3 นิ้ว… หลังคากระจกก็เป็นอุปกรณ์สั่งติดตั้งพิเศษเช่นกัน
SPECIFICATIONS: PORSCHE MACAN 4
Price: from ฿5,390,000 (฿6,758,000 with options)
Powertrain: Twin e-motors, 387ps (408hp with overboost), 650Nm
Transmission: single-speed, all-wheel drive
Performance: 5.2sec 0-100km/h, 220 km/h top speed, 516-612km range (WLTP)
Weight: 2330kg