รีวิว ลองขับ Toyota Camry HEV 2025 รุ่น Smart เทียบรุ่นท็อป Premium Luxury ส่วนต่าง 334,000 บาท คุ้มไหม? เจาะออปชัน ความหรู และการใช้งานจริง
รีวิว ลองขับ Toyota Camry HEV 2025 รุ่น Smart คุ้มไหม?
Toyota Camry HEV 2025
“ถ้าไม่บอก หลายคนคงนึกไม่ถึงว่า CAMRY อยู่กับสังคมไทยมาเนิ่นนานเลยทีเดียว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 หรือย้อนไปราวๆ 32 ปี มาแล้ว โดยครึ่งหนึ่งของอายุ CAMRY ในไทย หรือย้อนไปประมาณ 16 ปี CAMRY คือ ยนตรกรรมที่พาให้เรารู้จัก คำว่า Hybrid มาจนถึงปัจจุบัน ที่เครื่องยนต์สันดาปใน CAMRY กลายเป็นอดีตไปแล้ว”
ALL-NEW CAMRY ถูกเปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการในบ้านเรา โดยตัดสินใจถอดไลน์อัปเครื่องยนต์สันดาปภายในออกทั้งหมด และเลือกเดินหน้าทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด HEV ในทุกไลน์อัปล้วน มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วยรุ่นเริ่มต้น HEV Smart ราคา 1,475,000 บาท, HEV Premium ราคา 1,659,000 บาท และรุ่นสูงสุด HEV Premium Luxury ราคา 1,809,000 บาท
นำเสนอ 4 จุดเด่นหลักๆ คือ “เครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อนแบบ Hybrid เจเนอเรชั่นใหม่” ขนาด 2.5 ลิตร พละกำลังสูงสุด 227 แรงม้า มาพร้อมอัตราการประหยัดน้ำมันที่ 25 กม./ลิตร ซึ่งแน่นอนว่าเป็นตัวเลขที่ดีขึ้นกว่าเดิมทั้งในเรื่องของพละกำลัง และความประหยัด
หัวข้อต่อมา คือ “การออกแบบภายใต้แนวคิด Energetic Beauty” เน้นการสะท้อนความเป็นผู้นำชัดเจน การใส่ใจในรายละเอียด เพื่อถ่ายทอดผ่านความหรูหราอย่างเรียบง่าย แต่ทันสมัยประณีต
ต่อไป คือ หัวข้อ “อุปกรณ์ และฟังก์ชันต่างๆ เน้นความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย” ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลาย และมีความสุขกับการใช้งาน ALL-NEW CAMRY รวมถึงหัวข้อท้ายสุดกับ “เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense เจเนอเรชั่นใหม่” ที่จะช่วยมอบความมั่นใจให้เสมอ เมื่อเดินทางไปกับ ALL-NEW CAMRY
ใช่ครับ … ทั้ง 4 จุดเด่นหลัก ALL-NEW CAMRY จะมีมาให้อย่างครบครัน แบบไม่ต้องไปสรรหาใดๆ เพิ่มเติม ถ้าควักเงินจ่าย แลกสิ่งที่ดีที่สุด หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ซื้อรุ่นท็อปสุด HEV Premium Luxury ราคา 1,809,000 บาท ไปครอบครอง
… แต่ถ้าคิดว่ารุ่นเริ่มต้น HEV Smart ราคา 1,475,000 บาท ก็น่าสนใจ และไม่ใช่ปัญหา เราลองมาดูกันมั้ยครับว่าส่วนต่าง 334,000 บาท กับสิ่งที่หายไปจากรุ่นท็อปสุด จะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน ต่อใครที่กำลังตัดสินใจอยู่
เริ่มจากภายนอกรุ่น Smart จะมากับล้ออัลลอขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215 / 55 R17 ขณะที่รุ่นสูงกว่าจะมากับขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235 / 45 R18 เช่นเดียวกับในส่วนของกระจังหน้าด้านบน และด้านล่าง ที่ในรุ่น Smart จะมากับโทนสีดำทั้งหมด โดยที่ในรุ่นสูงกว่า คือ Premium Luxury และ Premium ด้านบนจะเป็นโทนสีดำเงา และด้านล่างเป็นโทนสีเทาเมทัลลิค
ไปต่อที่กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED สำหรับรุ่นสูงสุด Premium Luxury สามารถปรับด้วยไฟฟ้า, พับเก็บอัตโนมัติ พร้อมระบบความจำ และระบบ Reverse Link ขณะที่รุ่น Premium และ Smart ทำได้เพียงปรับไฟฟ้า และพับเก็บอัตโนมัติ
ท้ายสุดในส่วนของภายนอก คือ หลังคา Panoramic Roof แบบเปิดได้ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้าออปชันนี้เค้ามีให้เฉพาะรุ่น Premium Luxury และ Premium เท่านั้น … เพราะงั้นรุ่น Smart “อด”
โดยเมื่อดูจาก “ออปชัน” ที่หายไป ในรุ่น Smart จากมุมมองของเรา ก็แค่คิดว่า “ความหล่อ” เขาลดน้อยลงไปหน่อย เช่น จากล้อ 18 นิ้ว เหลือ 17 นิ้ว ตลอดจนการตกแต่ง หรือแม้กระทั่ง หลังคา Panoramic Roof ที่ขาดไป จนอาจจะไม่ได้ดูหรูหราสมฐานะ Camry มากมายแค่นั้น
เพราะหากมองเรื่องตอบโจทย์การใช้งาน เรามั่นใจว่าไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นอื่นๆ แน่ หรืออาจถึงขั้นดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะล้อ 17 นิ้ว กับยาง 215 / 55 R17 คุณจะได้ความ “นุ่ม” มากกว่าขนาด 18 นิ้ว ยาง 235 / 45 R18
ต่อกันที่ภายในห้องโดยสาร ความต่างแรกอยู่ที่วัสดุหุ้มเบาะนั่ง เพราะในรุ่น Smart จะมากับหนังแท้ และหนังสังเคราะห์ ส่วนรุ่นที่สูงกว่าทั้ง Premium Luxury และ Premium จะมากับหนังแท้ Smooth Leather และหนังสังเคราะห์
ทางด้าน “ออปชัน” ในรุ่น Premium Luxury จะมีทั้ง เบาะนั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบความจำ 2 ตำแหน่ง, Seat Ventilator และเลื่อนถอยหลังอัตโนมัติขณะเข้า-ออกจากตัวรถ, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าแบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับข้างพนักพิง
และ Seat Ventilator, ปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า ทั้งตำแหน่งผู้ขับ และผู้โดยสารด้านหน้า ตลอดจนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังปรับพนักพิงด้วยไฟฟ้า
ส่วนในรุ่น Premium และ Smart จะมีแค่เบาะนั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าแบบปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง มีปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้าเฉพาะฝั่งผู้ขับ และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง ไม่ได้สามารถปรับใดๆ ได้เลย นอกจากนี้ พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทางในรุ่น Premium และ Smart จะเป็นแบบ Manual
ส่วนรุ่น Premium Luxury สะดวกสุดๆ ด้วยการปรับแบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำ และเลื่อนถอยหลังอัตโนมัติขณะเข้า-ออกจากตัวรถ หน้าจอแสดงข้อมูลผู้ขับขี่ในรุ่น Premium Luxury จะได้ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบ HUD, รุ่น Premium เป็นขนาด 12.3 นิ้ว
และรุ่น Smart จะได้ขนาด 7 นิ้วไป ส่วนหน้าจอเครื่องเสียงให้ขนาดเท่ากันมาเลยทั้ง 3 รุ่น คือ 12.3 นิ้ว แต่ในรุ่น Premium Luxury พิเศษตรงที่ได้ลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง ส่วนรุ่นอื่นๆ ได้ OEM 6 ตำแหน่ง
ไปต่อที่ระบบปรับอากาศในรุ่น Premium Luxury จะได้อัตโนมัติ 3 โซนปรับอิสระ แยกซ้าย, ขวา และหลัง ส่วนรุ่น Premium และ Smart จะได้เป็นแบบอัตโนมัติ 2 โซนปรับอิสระ แยกซ้าย และขวา แล้วก็ท้ายสุด คือ รุ่น Smart ไม่มี Paddle Shift และกล้องบันทึกภาพติดรถด้านหน้ามาให้
ในจุดนี้ระหว่างรุ่น Smart และรุ่นสูงสุด Premium Luxury เราเห็นความต่างในเรื่องของ ออปชันสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างชัดเจน ซึ่งจากมุมมองของเรา สิ่งเหล่านั้นไม่ได้มีผลต่อการขับขี่ใดๆ ฉะนั้นจึงตอบได้ทันทีว่าสำหรับเรา “ไม่มีปัญหา”
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ไม่อาจตอบได้ว่า สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน สำหรับคนอื่นๆ เช่นกัน … สรุป คือ ต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจ ให้ผู้บริโภคตัดสินใจกันไปตามเนื้อผ้าน่าจะเหมาะสมกว่า
จุดนี้ต้องขอชื่นชมในเรื่องการให้ความสำคัญ ระบบความปลอดภัย รายชื่อเต็มแคตตาล็อกทั้ง 3 รุ่น และมีทุกอย่าง “เกือบ” เหมือนกันทั้งหมด ยกเว้นจุดเดียวก็คือ กล้องมองภาพรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor) จะมีให้เฉพาะรุ่น Premium Luxury และรุ่น Premium เท่านั้น
ขณะที่รุ่น Smart จะได้กล้องมองภาพขณะถอยหลังมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งในมุมมองของเรา “เท่านั้น” ถือว่ามากพอแล้วสำหรับสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ให้กับใครก็ตามแต่ที่ทั้งขับขี่ และโดยสารอยู่ใน ALL-NEW CAMRY
ในส่วนของการภาพรวมการขับ ALL-NEW CAMRY ซึ่งมากับการจับคู่ของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร และระบบขับเคลื่อนแบบ Hybrid เจเนอเรชั่นใหม่ ที่ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน ที่เพิ่มประสิทธิภาพการอัด และการคาบประจุไฟได้ดีกว่า
รวมไปถึงการปรับแต่งสมองกล เพื่อให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีขึ้น ทำให้พละกำลังเรี่ยวแรงจากเดิม 211 แรงม้า ถูกขยับขึ้นเป็น 227 แรงม้า และทำอัตราสิ้นเปลืองได้ดีขึ้นเป็น 25 กม./ลิตร จากเดิม 23.8 กม./ลิตร ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลงานจากการที่ ALL-NEW CAMRY สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว วิ่งทำระยะทางได้มากขึ้น
ถ้านับเป็นอายุมนุษย์ เราเชื่อว่า 36 ปี คงแทบจะทุกคนรู้จัก TOYOTA CAMRY เป็นอย่างดี ทั้งตำแหน่งของโปรดักส์ในการทำตลาด รวมถึงเทคโนโลยี Hybrid ด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเราคงไม่ต้องอธิบายให้มากความในเรื่องของพฤติกรรมการขับขี่แบบไหน ? … ที่เหมาะสมกับ ALL-NEW CAMRY HEV
เนื่องจากสิ่งที่เราอยากให้โฟกัส คือ “การทำงาน” มากกว่า เพราะหากใครหลายคนได้ลองขับ และพยายามสัมผัส ALL-NEW CAMRY HEV อย่างจริงจัง หลายคนน่าจะทึ่งกับความเรียบเนียนในการตัดต่อกำลังระหว่าง เครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า ย่านความเร็วต่ำ และความเร็วกลาง ราวกับมี AI ทำหน้าที่ผู้กำกับ คอยบอกจังหวะสลับการถ่ายทอดกำลัง ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้คันเร่งก็ว่าได้
และนั่นคือสไตล์การขับที่เราคิดว่าเหมาะสมที่สุดแล้วกับ ALL-NEW CAMRY HEV เพราะต่อให้เราต้องการพละกำลังแบบฉับพลัน ด้วยการเพิ่มน้ำหนักเท้าขวา วิธี “จุ่ม” คันเร่ง ของเรา ก็ยังไม่ใช่สไตล์ Kick Down เหมือนที่คุ้นเคยกับรถเครื่องยนต์สันดาปเลยทีเดียว
แต่เป็นการ “จุ่ม” เบาๆ ราวกับเพื่อเป็นสัญญาณเตือนให้ทั้งเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า เปลี่ยนจากสลับการทำงาน มาเป็นทำงานร่วมกัน ส่งกำลังทั้งหมดออกมาให้เราได้ใช้ หรือได้สนุกกับการขับขี่บ้างเป็นครั้งคราวก็พอ
เพราะนอกจาก “พละกำลัง” แล้ว ที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ “แพลทฟอร์ม TNGA” อันดีงามที่เข้ามาช่วยเสริมเสถียรภาพ และความสนุกให้เห็นได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม ตั้งแต่ CAMRY เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ จนกระทั่งมาถึงเจเนอเรชั่นล่าสุด ALL-NEW CAMRY HEV ที่ยังคงสร้างความประทับใจ และมั่นใจทุกครั้ง เมื่อได้ขับ
ท้ายสุด หลังจากได้ลองขับ ถ้าเน้นการใช้งานเป็นหลัก เราคิดว่าคุณคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ALL-NEW CAMRY HEV ทั้ง 3 รุ่นย่อย ได้ถูกพัฒนามาให้มีความกลมกล่อม สมบูรณ์แบบในเรื่อง “สมรรถนะ” การขับขี่อย่างถึงที่สุดแล้วจริงๆ ตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือเดินทางพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์
ส่วนคำถามจะที่ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี จากทั้งหมด 3 รุ่นย่อย เราขอย้อนกลับไปให้คุณพิจารณาเองดีกว่า เพราะทั้งหมด ทั้งมวล ส่วนต่าง “ราคา” มาจาก “ออปชัน” แต่ถ้าพูดถึง “สมรรถนะ” บอกได้เลยว่ามาตรฐานเดียวกันหมดแน่นอน
Specification : ALL-NEW CAMRY HEV SMART
- Price : 1,475,000 BHT
- Engine : 2,487 CC / 4 Cylinder / 16 Valve / Dual VVT-i 186 hp @ 6,000 rpm / 221 Nm @ 3,600 – 5,200 rpm
- Electric Motor : 100 kw / 208 Nm
- Transmission : E-CVT
- Performance : 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight : N/A