TorqueThailand.com
รีวิว ลองขับ GWM TANK 300 DIESEL Ultra 4WD SUV ดีไซน์ Boxy Style ออฟโรดเต็มขั้น ขุมพลังดีเซล 2.4 ลิตร VGT Turbo 184 แรงม้า 480 นิวตันเมตร
รีวิว ลองขับ GWM TANK 300 DIESEL Ultra 4WD | ออฟโรด SUV
GWM TANK 300 DIESEL Ultra 4WD
“ต้องยอมรับว่านี่คือ อัจฉริยภาพ ของดีไซเนอร์ ที่หยิบยืมรูปทรง ‘กล่อง’ มาผสมผสานในงานออกแบบยนตรกรรม … เพราะนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กาลเวลาไม่อาจลดทอนความน่าสนใจของงานดีไซน์ ‘ยนตรกรรมทรงกล่อง’ ได้เลยแม้แต่น้อย”
“ถ้าจะมียนตรกรรมสักรุ่น ที่เรารู้สึกว่า ‘ชื่อ’ เหมาะสมกับ ‘คาแรกเตอร์’ ล่ะก็ เราขอยกให้ GWM TANK แบบปฏิเสธไม่ได้เลยทีเดียว เพราะด้วยความเหลี่ยมสันของงานดีไซน์รูปลักษณ์ ที่ชวนให้สื่อถึง ‘รถถัง’ และการนำเสนอความ ‘แข็งแกร่ง’ คือสิ่งที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน แบบที่เราคาดว่าใครๆ ก็สามารถสัมผัสได้”
“สำหรับ GWM TANK ในบ้านเรา มีจำหน่ายอยู่ 2 รุ่นหลัก คือ TANK 500 ที่สไตล์จะออกไปทาง ‘วัยรุ่นดูไบ’ เน้นความหรูหราเป็นหลัก และอีกหนึ่งก็คือ TANK 300 ที่ต้องยอมรับว่าเป็นกระแสร้อนแรงมากในปัจจุบัน หลังจากนำร่องด้วยเวอร์ชัน HEV ไปแล้ว
ล่าสุด GWM ก็เดินเกมรุกต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัว GWM TANK 300 DIESEL ใหม่ ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Pro 2WD ราคา 1,029,000 บาท, รุ่น Ultra 2WD ราคา 1,179,000 บาท และพระเอกของวันนี้ รุ่น Ultra 4WD ราคา 1,279,000 บาท”
“ปฏิเสธไม่ได้ว่า ดีไซน์แบบ Boxy Style หรือทรงกล่องของ TANK 300 ที่ผสมผสานความเป็นยนตรกรรมออฟโรดสไตล์ SUV เข้าไปด้วยนั้น สร้างแรงดึงดูดสะกดสายตาได้อย่างเหนือความคาดหมาย ตั้งแต่ด้านหน้าที่มากับกระจังทรงสี่เหลี่ยมสีดำเงา Piano Black
พร้อมโลโก้แบรนด์ TANK แบบโครเมียมขนาดใหญ่ ประกบด้วยชุดไฟหน้าทรงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังเข้ากับแผงกันชนหน้าสไตล์ออฟโรดสีดำ และฝากระโปรงหน้าที่มีส่วนโค้งนูน ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งแบบออฟโรด”
“ในมุมมองด้านท้าย โดดเด่นด้วยล้ออะไหล่ติดตั้งบนประตูท้าย พร้อมฝาปิดสีดำเงา เพิ่มความ Boxy Style (ทรงกล่อง) ด้วยชุดไฟท้ายแนวตั้งกรอบสีดำเงา เข้ากับโทนสีดำในส่วนของมือจับเปิดประตูท้าย บานพับ และกันชนท้ายสไตล์ออฟโรด
ซึ่งเชื่อมต่อกับคิ้วล้อหลังได้อย่างลงตัว ไฮไลต์สำคัญคือ ‘ประตูฝาท้ายแบบเปิดออกด้านข้าง’ ที่แม้จะเป็นเอกลักษณ์ แต่ก็ยังไม่ค่อยสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานในบ้านเราเท่าไรนัก”
“NEW GWM TANK 300 DIESEL มากับมิติตัวถังยาว 4,760 มิลลิเมตร กว้าง 1,930 มิลลิเมตร สูง 1,903 มิลลิเมตร บนความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร และระยะความสูงจากพื้น (Ground Clearance) 224 มิลลิเมตร ติดตั้งล้ออัลลอยสไตล์ออฟโรดสีดำเงา Piano Black ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง Highway Terrain ขนาด 265/65 R17 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ทั้งหมดนี้ทำให้ NEW GWM TANK 300 DIESEL มีสมรรถนะออฟโรดเต็มรูปแบบ สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 700 มิลลิเมตร ขณะเดียวกัน ระยะโอเวอร์แฮงด้านหน้าและด้านหลังที่สั้นกระชับ ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการปีนป่ายบนทางชันได้อย่างมั่นใจ”
ในรายละเอียดปลีกย่อยด้านออพชั่นที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานภายนอก ก็ถือว่าให้มาอย่างครบครันและคุ้มค่าไม่น้อย ตั้งแต่ระบบไฟหน้า Intelligent LED ที่มาพร้อมระบบเปิด–ปิดไฟหน้า และระบบปรับไฟสูง–ไฟต่ำอัตโนมัติ, ฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง, ไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ LED, ไฟท้าย Full LED,
ไฟตัดหมอกด้านหน้าและหลังแบบ LED, กระจกมองข้างปรับและพับอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวและระบบจดจำตำแหน่ง, ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าและหลัง, จนถึงเสาอากาศแบบครีบฉลาม, หลังคาซันรูฟแบบเปิด–ปิดด้วยไฟฟ้า และราวหลังคาสีดำเงา ซึ่งช่วยเพิ่มอารมณ์ความเป็น Off-Road ได้มากขึ้น
ดีไซน์ภายในห้องโดยสาร มีทั้งความหรูหรา และความสะดวกสบายให้สัมผัส ผสมผสานด้วยอารมณ์ความเป็นยนตรกรรม Off-Road ในส่วนของงานดีไซน์คอนโซลหน้า ตัดสลับด้วยความคลาสสิคจากช่องแอร์ทรงกลม
รับกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังที่สามารถควบคุมหน้าจอแสดงข้อมูลขับขี่ และเครื่องเสียง ขณะที่ด้านหลังมากับปุ่ม Paddle Shift ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ ช่วยเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ได้ง่ายยิ่งขึ้น
จุดเด่นออพชั่นของ NEW GWM TANK 300 DIESEL หลักๆ ต้องยกให้ชุดคันเกียร์ Electronic Shifter ที่มีทั้งดีไซน์และขนาดเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมชุดเบรกมือไฟฟ้า และระบบการขับเคลื่อนซึ่งเลือกได้ถึง 9 รูปแบบ
ตามด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว สำหรับแสดงข้อมูลต่างๆ ให้ผู้ขับขี่ เช่น ความเร็ว, รอบเครื่องยนต์, ตำแหน่งเกียร์, ระบบขับเคลื่อน, ระบบนำทาง ตลอดจนสถานะของระบบต่างๆ
นอกจากนี้ ระบบความบันเทิงมากับหน้าจอมัลติมีเดียแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย รวมถึงการเชื่อมต่อ Bluetooth สำหรับรับสาย-โทรออก และบริการออนไลน์หลายรูปแบบ โดยสามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านออนไลน์หรือ FOTA (Firmware Over-the-Air) ได้อย่างสะดวกสบาย
นอกจากนี้ NEW GWM TANK 300 DIESEL ยังมากับความเป็น Smart Car อัจฉริยะ ที่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยฟังก์ชันที่มีมาให้นั้นจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ ฟังก์ชันด้านการตรวจสอบสถานะรถยนต์ 11 ระบบ
ประกอบด้วย ระบบตรวจสอบสถานะประตูและหน้าต่าง, ระบบตรวจสอบสถานะระบบปรับอากาศ, ระบบตรวจสอบสถานะหลังคาซันรูฟ, ระบบตรวจสอบสถานะเบาะระบายอากาศ, ระบบตรวจสอบระยะทางทั้งหมด / ระยะทางวิ่งคงเหลือ / ปริมาณน้ำมัน,
ระบบตรวจสอบสถานะอุณหภูมิและแรงดันลมยาง, ระบบช่วยเตือนเมื่อสถานะประตูและหน้าต่างห้องโดยสารผิดปกติ, ระบบช่วยเตือนเมื่อแบตเตอรี่ 12V ต่ำ, ระบบช่วยเตือนเมื่อปริมาณน้ำมันต่ำ, ระบบค้นหาตำแหน่งรถยนต์ และระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์
ตามด้วยฟังก์ชันด้านการควบคุมสั่งการรถยนต์อีก 5 ระบบ ได้แก่ ระบบล็อกและปลดล็อกประตูรถ, ระบบปิดกระจกหน้าต่าง, ระบบปิดหลังคาซันรูฟ, ระบบเปิด-ปิดระบบปรับอากาศ และระบบเปิด-ปิดเบาะระบายอากาศ
แต่นั่นยังไม่ใช่สาระสำคัญเท่ากับ “ขุมพลัง” เพราะ NEW GWM TANK 300 DIESEL มาพร้อมทางเลือกใหม่ในตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่ม Old School ได้สัมผัส
โดยหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนคือ เครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูงแบบ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC ขนาด 2.4 ลิตร จ่ายน้ำมันแบบ Direct-injection เสริมแรงด้วยระบบอัดอากาศ VGT Turbocharged สร้างเรี่ยวแรงสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่ 1,500–2,500 รอบต่อนาที
ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด รองรับด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบปีกนกคู่ และด้านหลังแบบมัลติลิงก์ ทั้งยังมาพร้อมระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ที่ไม่เพียงแปรผันตามความเร็วเท่านั้น แต่ยังสามารถเลือกปรับได้ถึง 3 โหมดหลัก ได้แก่ เบา, สบาย และสปอร์ต มาพร้อมระบบเบรกแบบดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ที่สำคัญ NEW GWM TANK 300 DIESEL รุ่นสูงสุด Ultra 4WD จึงมีความสามารถด้าน Off-Road เต็มขั้น ด้วยระบบขับเคลื่อนที่ปรับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ 2H สำหรับขับเคลื่อนล้อหลังปกติ, 4H สำหรับขับเคลื่อน 4 ล้อความเร็วสูง และ 4L สำหรับขับเคลื่อน 4 ล้อความเร็วต่ำ เพื่อการ “ลุย” โดยเฉพาะ
เสริมด้วยโหมดการขับขี่อีก 6 รูปแบบ ได้แก่ พื้นหิมะ, พื้นทราย, ภูเขา, พื้นหิน, พื้นหลุมบ่อ และโหมดผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งสามารถเลือกปรับโหมดการขับเคลื่อนได้ตามสถานการณ์ เพื่อผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
และจะยิ่งง่ายดายมากขึ้นเมื่อ NEW GWM TANK 300 DIESEL Ultra 4WD อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยขับขี่แบบ Off-Road ที่เหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยกลับรถในที่แคบ TANK Turn, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด Off-Road Cruise Control,
ระบบ AWD แบบ Dual Speed และระบบล็อกเฟืองขับ (Electric Differential Lock) ด้านหลัง, ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ Body Transparent และหน้าจอแสดงระดับน้ำนอกตัวรถขณะขับลุยน้ำ Wading Detection ซึ่งทั้งหมดช่วยเพิ่มความมั่นใจในการลุยได้อย่างแน่นอน
ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากขีดความสามารถในการลุยแล้ว NEW GWM TANK 300 DIESEL รุ่นสูงสุด Ultra 4WD ยังได้รับการอัพเกรดเทคโนโลยีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นจากฟังก์ชันมาตรฐานที่รู้จักกันดีอีกด้วย ประกอบด้วย
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA), ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (AEBI), ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW),
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA), ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK), ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS),
ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA), ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW), ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA), ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB),
ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู (DOW), เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด, ระบบช่วยเตือนสัญลักษณ์จราจรและการแจ้งเตือนการขับรถเร็วเกินกำหนด รวมถึงระบบติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) และเบอร์ฉุกเฉิน
รวมแล้วทั้งออพชั่นอำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยจะมีมากน้อยแค่ไหน เราแนะนำให้เปิดแคตตาล็อกศึกษาดู น่าจะเข้าใจได้ละเอียดมากกว่า เพราะเราขอการันตีว่าใน NEW GWM TANK 300 DIESEL จัดมาให้แบบท่วมท้นจริงๆ
ซึ่งพูดตรงๆ ว่าท่วมท้นเกินกว่าการเป็นยนตรกรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะอย่างที่กล่าวไว้ว่า NEW GWM TANK 300 DIESEL คันนี้ คือ รุ่นสูงสุด Ultra 4WD เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถแบบ One Stop Shopping คันเดียวจบ ครบทุกสถานการณ์ ทั้งใช้งานในชีวิตประจำวัน และพักผ่อนตามธรรมชาติในวันหยุดสุดสัปดาห์
หากคุณเป็นผู้บริโภคที่อยู่ในป่าคอนกรีตเป็นหลัก รุ่นเริ่มต้นอย่าง Pro 2WD หรือ Ultra 2WD น่าจะเหมาะสมกว่า แต่ถ้าคุณเน้นจ่ายครั้งเดียวจบ ก็ต้องเลือกที่รุ่นสูงสุด Ultra 4WD รับรองว่าครบเครื่องแบบไม่ต้องหาอะไรมาเติมแต่ง
สำหรับภาพรวมในการขับขี่ของ NEW GWM TANK 300 DIESEL จุดนี้ต้องยอมรับก่อนเลยว่า เราขับขี่แบบปกติวิถีคนเมืองเป็นหลัก เพราะฉะนั้นความสามารถในทาง Off-Road ต่างๆ จึงไม่อาจเล่าให้ฟังได้แบบชัดเจนนัก
ส่วนความรู้สึกจากการลองขับนั้น สิ่งแรกที่ต้องบอกเลย คือ ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ด้วยความเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV ขนาดใหญ่ ฉะนั้นต่อให้เจอการจราจรคับคั่งกลางเมืองใหญ่ คุณก็จะรู้สึกไม่อึดอัดมากนัก
แต่ทั้งนี้ก็ต้องแลกมาด้วยอัตราเร่งที่อาจต้องใช้ความอดทนเล็กน้อย เพราะแรงบิด 480 นิวตันเมตรที่ 1,500 รอบต่อนาที ต้องแบกน้ำหนักและขนาดของตัวถัง
ดังนั้นอาจไม่สามารถมอบความคล่องตัวได้ดังใจมากเท่าที่ควร ทั้งหมดนี้ก็เป็นไปตามธรรมชาติของเครื่องยนต์ดีเซล ที่ไม่ควรนำไปเทียบกับรถไฟฟ้า หรือแม้กระทั่ง HEV
อีกหนึ่งอย่างที่รู้สึกได้คือ NEW GWM TANK 300 DIESEL เป็นยนตรกรรมที่มีความเป็น Off-Road SUV ค่อนข้างสูงกว่ารถอเนกประสงค์ SUV ทั่วไป ฉะนั้นความคล่องตัวสูงๆ ที่หลายคนคาดหวัง จึงอาจทำให้รู้สึกผิดหวัง รวมถึงความสปอร์ตจากการตอบสนองด้านพละกำลังด้วยเช่นกัน
แต่ถ้าคาดหวังด้านความนุ่มนวลของระบบช่วงล่าง บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง เพราะด้วยความเป็น Off-Road SUV ดังที่กล่าวไป ทำให้ความสามารถในการดูดซับแรงสั่นสะเทือน และการยืดหยุ่นของช่วงล่างเพื่อรับมือกับอุปสรรคต่างๆ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักในการปรับแต่ง ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่า TANK 300 DIESEL จะรับมือกับสภาพถนนแย่ๆ ในเมืองได้อย่างไม่ต้องกังวล
ท้ายสุด ถ้าจะให้พูดสรุปเกี่ยวกับ NEW GWM TANK 300 DIESEL ก็ต้องบอกว่า นี่คือ Off-Road SUV ที่ให้อารมณ์การขับขี่ใกล้เคียงกับ Wrangler Rubicon อย่างชัดเจน ซึ่งไม่ได้เน้นการขับขี่แบบ Performance บนท้องถนน แต่เน้นการใช้งานทั่วไป ทั้งแบบยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV และการโลดแล่นผจญภัยในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้พอประมาณ
ซึ่งนั่นแหละครับ คือสิ่งที่เรารู้สึกได้เกี่ยวกับ NEW GWM TANK 300 DIESEL ยนตรกรรม Off-Road SUV ที่มีเอกลักษณ์ในแบบที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างครอบคลุม ทั้งจากงานดีไซน์ที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวมอง ไปจนถึงเครื่องยนต์ดีเซลที่ต้องบอกว่าดูแลง่ายและสะดวกกว่าขุมพลัง Hybrid
แล้วก็ด้วยการป้อนตลาดของ TANK 300 ทั้งเวอร์ชั่น HEV และเวอร์ชั่น DIESEL นี้เอง คือสิ่งที่เรามองว่าเป็น “ข้อดี” ในการให้ทางเลือกอันชัดเจนต่อผู้บริโภคในการเป็นเจ้าของ
เพราะส่วนตัวเราเองมองว่า ถ้าเวอร์ชั่น HEV น่าจะเหมาะกับการเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์หล่อๆ ในเมืองมากกว่า ขณะที่เวอร์ชั่น DIESEL วางตำแหน่งไว้ให้เป็นสายลุยเต็มอัตราศึก (หรือไม่?) ซึ่งในจุดนี้คงต้องขออนุญาตเล่าจากความเข้าใจ และมุมมองของเราที่มีต่อ GWM TANK 300 ทั้งขุมพลัง HEV และ DIESEL
ส่วนบทสรุปในภาพรวม ตรงนี้ขออนุญาตให้ผู้อ่านเป็นคนตัดสิน เพราะทั้งเวอร์ชั่น HEV และ DIESEL ต่างก็มีบุคลิกที่แตกต่างกันค่อนข้างชัด รวมถึงขีดความสามารถในการใช้งาน (ตามความเข้าใจของเรา) …
แต่ถ้าจะให้สรุปในเวอร์ชั่น DIESEL สำนวนที่ชัดเจนที่สุดคือ TANK 300 DIESEL เป็นยนตรกรรม One Stop Shopping ที่เหมาะกับผู้ที่ไม่เน้น Performance บนทาง On-Road มากนัก แต่เน้นความครบครัน ด้วยอรรถรสที่กลมกล่อม ในทุกสถานการณ์การขับขี่อย่างแท้จริง
Specification: TANK 300 DIESEL Ultra 4WD
- Price : 1,279,000 BHT
- Engine : 2,370 CC / Diesel VGT Turbo Intercooler / 4 Cylinder / 16 Valve 184 hp @ 3,600 / 480 Nm @ 1,500 – 2,500 rpm
- Transmission : 9A/T / 4WD
- Performance : 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight : N/A
