Breaking News

รีวิว ลองขับ MG5 10th Anniversary Special Edition รุ่นพิเศษที่เสริมออปชัน แต่ยังคงความคุ้มค่าในเรื่องราคา

รีวิว ลองขับ MG5 10th Anniversary Special Edition เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ขนาด 1.5 ลิตร 114 แรงม้า มาพร้อมสีใหม่ CRAYON GREY

MG5 10th Anniversary Special Edition

รีวิว ลองขับ MG5 10th Anniversary Special Edition ราคา 589,900 บาท

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition คือ สปอร์ต คูเป้ ซีดาน เวอร์ชั่นพิเศษ ที่ถือกำเนิดมาเพื่อให้โลกรู้ว่า การครอบครอง ยนตรกรรม Special Editon ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพง”

ถ้าจะบอกว่าเวลาผ่านไป “ไวเหมือนโกหก” ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะอยู่ๆ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ก็เปิดตัวรุ่นพิเศษ MG5 10th Anniversary Special Edition ออกมา นั่นก็เท่ากับว่าเราๆ ท่านๆ รู้จักกับเจ้า “สปอร์ต คูเป้ ซีดาน” ที่ชื่อ MG5 มาแล้วเป็นเวลาถึง 10 ปีนั่นเอง

สำหรับ MG5 10th Anniversary Special Edition พูดง่ายๆ ว่ายังคงใช้พื้นฐานของ MG5 ที่เราๆ ท่านๆ รู้จักกันดีในความสวยเฉี่ยวสะดุดตา และยิ่งมากับการตกแต่งพิเศษ ในฐานะฉลองครบรอบ 10 ปี (10th Anniversary Special Edition) ด้วยแล้วล่ะก็ บอกเลยว่า ได้อารมณ์ภาพลักษณ์ยนตรกรรมจากฝั่งยุโรปไปแบบเต็มๆ

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

เริ่มจากจุดเด่น คือ โทนสีใหม่ของตัวถัง “สีเทา Crayon Grey” เน้นเรียบหรู พร้อมกับคุมโทนการตกแต่งในสไตล์ Monochrome (โมโนโครม) เช่น สัญลักษณ์ MG และสัญลักษณ์ครบรอบ 10 ปี (10th Anniversary) ที่มากับโทนสีดำ Glossy Black ตามด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ที่ไม่เพียงเพิ่มความสปอร์ตด้วยงานดีไซนใหม่ และโทนสีดำเท่านั้น หากแต่ยังบ่งบอกความเป็นเวอร์ชั่นพิเศษ ไว้กับลวดลายเลเซอร์สัญลักษ์ 10th Anniversary อีกด้วยเช่นกัน

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

เปิดประตูเข้ามาภายใน​ห้องโดยสาร ต้องบอกว่ายังเป็นสไตล์ที่คุ้นเคย กับการผสมผสานความสปอร์ตให้เข้ากับความพรีเมี่ยม เสริมด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายที่ใครจะว่าอย่างไรไม่ทราบ แต่สำหรับเรา ถือได้ว่าเพียงพอเพื่อตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ เช่น

วัสดุหนังหุ้มเบาะนั่ง,คอนโซลหน้าแบบ 3D Diamond Design มาพร้อมหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล (Digital Multi-function Display) ขนาด 7 นิ้ว จับคู่กับหน้าจอ Infotainment แบบ Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว ควบคุมได้ง่ายดายจากบนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดียทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto

ทั้งยังมีระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล พร้อมช่องแอร์ สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และกรองอากาศระดับ PM 2.5 มาช่วยเพิ่มความสดชื่นตลอดเส้นทาง

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

ระบบความปลอดภัย คือ สิ่งที่เรารู้สึกประทับใจ และรู้สึกคุ้มค่า แม้ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเห็นค่าก็ตาม ซึ่ง MG5 หรือ MG5 10th Anniversary Special Edition ยังคงจัดสรรมาให้เต็มระบบมาตรฐานยุโรปกับ Advanced Synchronised Protection System

เริ่มจากโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame), ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) และระบบ AVH (Auto Vehicle Hold), ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA, ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี

และควบคุมการลื่นไถล TCS, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS, ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS, ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)

ตลอดจนจุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX, ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock), ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้าง, กล้องมองภาพรอบทิศทาง 3มิติ (AVM), สัญญาณเตือนกะระยะขณะถอยหลัง และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

ด้านขุมพลังของ MG5 10th Anniversary Special Edition นั้นไม่มีอะไรต่างจาก MG5 รุ่นมาตรฐาน ฉะนั้นจึงเท่ากับยังคงขับเคลื่อนด้วย เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ขนาด 1.5 ลิตร เสริมระบบ VTi – TECH ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด สู่ระบบขับเคลื่อนล้อคู่หน้า

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

โดยจุดเด่นก็คือ การออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพื่อยกระดับการควบคุมขึ้นไปอีกขั้น แถมยังมากับทัพเสริมทั้ง ระบบพวงมาลัยแบบ แร็คแอนด์พิเนี่ยน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ปรับแต่งน้ำหนักได้ถึง 3 ระดับ พร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม ที่ถูกปรับเซ็ทมาในรูปแบบ Euro Tuning Suspension

เพราะงั้นภาพรวมของฟิลลิ่งช่วงล่าง จึงค่อนไปในทางสปอร์ตมากกว่านุ่มนวล นั่งสบาย และนั่น คือ สิ่งที่ทำให้ไม่ว่าจะ MG5 หรือ MG5 10th Anniversary Special Edition กลายเป็น “สปอร์ต คูเป้ ซีดาน” ที่มีเอกลักษณ์การขับขี่เฉพาะตัว ตอบโจทย์ผู้ชื่นชอบอารมณ์ความสปอร์ต ราวกับยนตรกรรมฝั่งยุโรป

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

สำหรับในส่วนของพละกำลัง 114 แรงม้า และแรงบิด 150 นิวตันเมตร แม้เป็นตัวเลขที่ดูไม่หวือหวาเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้วถือว่าตอบโจทย์การขับขี่ได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบอกลา เกียร์อัตโนมัติ แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ จากเจเนอเรชันที่แล้ว มาจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด เลยทำให้พอเดาได้ว่า “บุคลิก” น่าจะออกมาตามคาดหมาย

ซึ่งก็คือ “Aggressive น้อย แต่เรียบร้อยมากขึ้น” ในเรื่องของการส่งกำลัง เพราะหากจำอารมณ์ของเจเนอเรชันที่แล้วได้ เค้าจะค่อนข้างให้ความตึงตังนิดหน่อย ในช่วงรอยต่อจากแต่ละเกียร์ ซึ่งพอเปลี่ยนไปคบหาเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด

เลยทำให้สไตล์ Old School ดังกล่าวหายไป กลายเป็นมีความเรียบร้อยมากขึ้น แต่ในความเรียบร้อยนั้น ก็แฝงไปด้วยอารมณ์ความสปอร์ตที่พัฒนาให้ดีกว่าเจเนอเรชั่นที่แล้วเช่นกัน

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

เริ่มตั้งแต่ตำแหน่งเบาะนั่งฝั่งคนขับ ที่รับกับตำแหน่งพวงมาลัยที่ไม่เพียงปรับระดับได้ แต่ยังปรับน้ำหนักได้อีกด้วย และอย่างที่กล่าวไป 114 แรงม้า และแรงบิด 150 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด ทำให้ MG5 หรือ MG5 10th Anniversary Special Edition ขับสบายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ไม่ต้องใช้ความ Aggressive กดคันร่งเต็มเท้าตลอดเวลาอีกต่อไป เพราะแค่ค่อยๆ เติมน้ำหนักเท้าขวา MG5 หรือ MG5 10th Anniversary Special Edition ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งได้ทันที อีกหนึ่งจุดเด่นที่บอกเลยว่า “ลงตัวสำหรับเรา” คือ อารมณ์ของช่วงล่างสไตล์ Euro Tuning Suspension เพราะปกติเวลาเข้าร้านกาแฟ “เราสั่งแต่ อเมริกาโน่ (Americano) ด้วยเพราะไม่อินกับความละมุน กลมกล่อมของ ลาเต้ (Latte)”

ฉะนั้นความ Aggressive ของช่วงล่างระดับ MG5 หรือ MG5 10th Anniversary Special Edition หรือมากกว่านั้น จึงเป็นสิ่งที่เรา “ยอมรับ” ได้ ขณะที่ผู้อื่นเราอยากแนะนำให้ไปลองสัมผัส เพื่อตัดสินใจดู ก่อนจะผูกสัมพันธ์กันไปยาวๆ

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

ประเด็นสำคัญที่เราบอกว่ารู้สึกลงตัวกับช่วงล่างสไตล์ Euro Tuning Suspension เนื่องจากเราค่อนข้างชื่นชอบยนตรกรรมสไตล์สปอร์ต และอีกอย่าง คือ เราขับเร็วซะเป็นส่วนใหญ่ แถมยังชอบสนุกในโค้งเป็นประจำ ฉะนั้นความ Euro Tuning Suspension ของ MG5 หรือ MG5 10thAnniversary Special Edition

จึงกลายเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวอย่างพอดี ชนิดที่พูดได้ว่าไม่ได้นุ่มนวล หรือ กระด้างเกินต้องการ แต่เป็นความลงตัวที่สามารถสื่อสารสภาพพื้นผิวท้องถนนให้เข้าใจได้ง่าย ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วได้อย่างเหมาะสม แถมยังมีพวงมาลัยที่ปรับน้ำหนักได้ถึง 3 ระดับ

MG5 10th Anniversary Special Edition

MG5 10th Anniversary Special Edition

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนเป็นกลไกสำคัญให้คุณสามารถเลือกความมั่นใจในการขับขี่ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ไม่ว่าจะเน้นความสนุกสนานในการขับขี่ หรือเดินทางปกติในชีวิตประจำวันก็ตาม เหนืออื่นใด คือ ไม่ว่าจะในรูปแบบการขับขี่ใดๆ ระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ติดตั้งมาให้จะยังคงคุ้มครอง และให้ความอุ่นใจไปตลอดเส้นทาง

ซึ่งบอกเลยว่าถ้าอ่านมาตั้งแต่ต้น หลายคนคงคิดว่าเรากำลังพูดถึง ยนตรกรรม ที่มาพร้อมค่าตัวราวๆ 7 หลัก … แต่ไม่เลยครับ เพราะคุณสมบัติที่ว่ามาของ MG5 10th Anniversary Special Edition แถมยังมากับสถานะเวอร์ชั่นพิเศษ เปิดจำหน่ายในราคาสุดเซอร์ไพรส์ ที่ตั้งเอาไว้เพียง 589,900 บาท เท่านั้น … คุ้ม หรือ ไม่ ? ขอแนะนำว่าให้ไปสัมผัสก่อน แล้วค่อยมาตัดสินใจ !!!

MG5 10th Anniversary Special Edition

Specification: MG5 10th Anniversary Special Edition        

  • Price:   589,900 BHT
  • Engine:   1,498 CC / 4 Cylinder / 16 Valve 114 hp @ 6,000 rpm / 150 Nm @ 4,500 rpm 
  • Transmission:   8 CVT / Front Wheel Drive
  • Performance:   0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
  • Weight:   N/A

Check Also

Honda City Hatchback 2024 TURBO RS

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback 2024 TURBO RS เสริมความสปอร์ต เน้นความประหยัดสำหรับ Hot Hatch ตัวจริง

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback TURBO RS เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO ให้กำลัง 122 …