Breaking News

โตโยต้า รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2563

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2563 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 79,177 คัน เพิ่มขึ้น 2.7%

โตโยต้า มอเตอร์ ไทยแลนด์

โตโยต้า ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2563

สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2563

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2563 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 79,177 คัน เพิ่มขึ้น 2.7% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 25,437 คัน ลดลง 7.2% รถเพื่อการพาณิชย์ 53,740 คัน เพิ่มขึ้น 8.2%ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 42,763 คัน เพิ่มขึ้น 6.8%

ประเด็นสำคัญ

ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายนมีปริมาณการขาย 79,177 คัน เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 7.2% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าภาพรวมของตลาดในเดือนนี้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆในประเทศกำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ โครงการ “คนละครึ่ง” และราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ กำลังซื้อของผู้บริโภคในหลายจังหวัดปรับตัวดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลในเชิงบวกให้กับตลาดรถยนต์

ส่วนตลาดรถยนต์สะสม 11 เดือน มีปริมาณการขาย 688,057 คัน  ลดลง 24.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 34.5% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 18.3% เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นยังส่งผลไปทั่วโลก

แต่อย่างไรก็ตามภาครัฐฯ ยังคงออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนรวมถึงเศรษฐกิจไทยให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้

นอกจากนี้ในด้านของตลาดรถยนต์ บรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆยังคงมอบข้อเสนอพิเศษ รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ และปรับปรุงใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในเดือนธันวาคมมีทิศทางที่ดีขึ้น

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2563

  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 79,177 คัน เพิ่มขึ้น 7%
  • อันดับที่ 1 โตโยต้า    28,279 คัน เพิ่มขึ้น    4.0%     ส่วนแบ่งตลาด 35.7%
  • อันดับที่ 2 อีซูซุ         17,577 คัน เพิ่มขึ้น   20.2%    ส่วนแบ่งตลาด 22.2%
  • อันดับที่ 3 ฮอนด้า      8,908 คัน เพิ่มขึ้น      0.2%      ส่วนแบ่งตลาด 11.3%
  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 25,437 คัน ลดลง 2%                                  
  • อันดับที่ 1 โตโยต้า    7,420 คัน ลดลง     23.6%    ส่วนแบ่งตลาด 29.2%
  • อันดับที่ 2 ฮอนด้า     7,376 คัน เพิ่มขึ้น    9.3%     ส่วนแบ่งตลาด 29.0%
  • อันดับที่ 3 มาสด้า      2,746 คัน ลดลง       6.7%    ส่วนแบ่งตลาด 10.8%
  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 53,740 คัน เพิ่มขึ้น 2%
  • อันดับที่ 1 โตโยต้า   20,859 คัน  เพิ่มขึ้น    19.3% ส่วนแบ่งตลาด 38.8%
  • อันดับที่ 2 อีซูซุ   17,577 คัน       เพิ่มขึ้น    20.2% ส่วนแบ่งตลาด 32.7%     
  • อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ    3,727 คัน    เพิ่มขึ้น      5.5% ส่วนแบ่งตลาด  6.9%
  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)

ปริมาณการขาย 42,763 คัน เพิ่มขึ้น 6.8%

  • อันดับที่ 1 โตโยต้า   17,305 คัน เพิ่มขึ้น   10.7%    ส่วนแบ่งตลาด 40.5%
  • อันดับที่ 2 อีซูซุ        16,578 คัน เพิ่มขึ้น   24.0%   ส่วนแบ่งตลาด 38.8%
  • อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ     3,727 คัน เพิ่มขึ้น     5.5%     ส่วนแบ่งตลาด   8.7%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,318 คัน

โตโยต้า 2,766 คัน – อีซูซุ 1,108 คัน – มิตซูบิชิ 838 คัน – ฟอร์ด 465 คัน – นิสสัน 141 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 37,445 คัน เพิ่มขึ้น 3%
  • อันดับที่ 1 อีซูซุ       15,470 คัน  เพิ่มขึ้น   21.5%  ส่วนแบ่งตลาด 41.3%
  • อันดับที่ 2 โตโยต้า  14,539 คัน  เพิ่มขึ้น    3.5%  ส่วนแบ่งตลาด 38.8%
  • อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ    2,889 คัน  เพิ่มขึ้น     6.7%  ส่วนแบ่งตลาด   7.7%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2563

  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 688,057 คัน ลดลง 7%                              
  • อันดับที่ 1 โตโยต้า  211,119 คัน  ลดลง   30.3% ส่วนแบ่งตลาด 30.7%
  • อันดับที่ 2 อีซูซุ       158,277 คัน  เพิ่มขึ้น   3.8% ส่วนแบ่งตลาด 23.0%
  • อันดับที่ 3 ฮอนด้า    82,966 คัน    ลดลง   28.7% ส่วนแบ่งตลาด 12.1%
  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 236,659 คัน ลดลง 5%                                
  • อันดับที่ 1 ฮอนด้า    69,041 คัน ลดลง  22.7%   ส่วนแบ่งตลาด 29.2%
  • อันดับที่ 2 โตโยต้า   59,341 คัน ลดลง 44.9%    ส่วนแบ่งตลาด 25.1%
  • อันดับที่ 3 นิสสัน      24,666 คัน  ลดลง  25.7%  ส่วนแบ่งตลาด 10.4%
  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 451,398 คัน ลดลง 3%                    
  • อันดับที่ 1 อีซูซุ         158,277 คัน เพิ่มขึ้น   3.8% ส่วนแบ่งตลาด 35.1%
  • อันดับที่ 2 โตโยต้า    151,778 คัน  ลดลง  22.3% ส่วนแบ่งตลาด 33.6%
  • อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      31,541 คัน  ลดลง   29.5% ส่วนแบ่งตลาด  7.0%
  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)

ปริมาณการขาย 357,947 คัน ลดลง 19.9%

  • อันดับที่ 1 อีซูซุ        146,901 คัน เพิ่มขึ้น  6.1%   ส่วนแบ่งตลาด 41.0%
  • อันดับที่ 2 โตโยต้า   129,512 คัน ลดลง   25.8%  ส่วนแบ่งตลาด 36.2%
  • อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      31,541 คัน ลดลง   29.5%  ส่วนแบ่งตลาด   8.8%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 37,064 คัน

โตโยต้า 17,033 คัน – มิตซูบิชิ 8,224 คัน – อีซูซุ 5,333 คัน – ฟอร์ด 4,487 คัน – นิสสัน 1,315 คัน –เชฟโรเลต 672 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 320,883 คัน ลดลง 2%
  • อันดับที่ 1 อีซูซุ        141,568 คัน เพิ่มขึ้น  9.1%  ส่วนแบ่งตลาด 44.1%
  • อันดับที่ 2 โตโยต้า   112,479 คัน ลดลง   25.3% ส่วนแบ่งตลาด 35.1%
  • อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ     23,317 คัน ลดลง    28.3% ส่วนแบ่งตลาด  7.3%

Check Also

50 Years of Turbo

พบกับปอร์เช่ที่งาน Retro Classic ในเมืองสตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี ที่มาในธีม “เหนือกว่าสมรรถนะ – 50 ปีของปอร์เช่ เทอร์โบ” ณ งานนิทรรศการ การแสดงสินค้าในวันที่ 25 ถึง 28 เมษายน 2024

งาน Retro Classics ที่เมืองสตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี เป็นงานที่รวมพลกลุ่มผู้ชื่นชอบรถคลาสสิกและรถสปอร์ตจากทั่วทุกมุมโลก สำหรับปอร์เช่ งานนี้ ไม่ได้เป็นเพียงงานแสดงสินค้าทั่วไป แต่ยังเป็นงานประจำปีที่พลาดไม่ได้ โดยงานจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 28 …