Breaking News

ฮอนด้า เปิดตัว “ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่” มาพร้อมคุณค่าใหม่ในทุกมิติกับ 2 ขุมพลังการขับเคลื่อนที่ทรงพลัง ระบบฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลังเทอร์โบตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเอสยูวี

All-new Honda CR-V

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวที่สุดแห่งยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวี “ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชันที่ 6” ในไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้าและตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเอสยูวีในไทย พร้อมยกระดับเอสยูวีเซกเมนต์ไปอีกขั้นอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ

ครั้งแรกกับขุมพลังการขับเคลื่อนระบบฟูลไฮบริด e:HEV ใน ซีอาร์-วี ใหม่ ผสานการทำงานอันทรงพลังของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์เบนซิน VTEC TURBO ขนาด 1.5 ลิตร มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม

รองรับทุกไลฟ์สไตล์กับเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง มั่นใจทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อยครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่หลากหลาย เติมเต็มประสบการณ์ที่ดีตลอดเส้นทาง สู่อีกขั้นแห่งเอสยูวีที่สมบูรณ์แบบ ในราคา 1,419,000 – 1,729,000 บาท

มาพร้อมข้อเสนอพิเศษฟรีประกันภัย1 ปี รับดอกเบี้ย 2.29%** พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นในรุ่น e:HEV ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

รวมทั้งฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 – 31 พฤษภาคม2566 โดยลูกค้าสามารถสัมผัสกับ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม 2566 – 2 เมษายน 2566 และที่โชว์รูมฮอนด้า** (รุ่นเทอร์โบ ตั้งแต่ 20 มีนาคม 2566 และ รุ่น e:HEV ในเดือนเมษายน 2566**)

All-new Honda CR-V

All-new Honda CR-V

นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า ซีอาร์-วี คือหนึ่งใน Global Model ที่สำคัญของฮอนด้า ที่ประสบความสำเร็จ ด้านยอดขายและครองใจลูกค้าทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เจเนอเรชันแรก โดยในประเทศไทย ซีอาร์-วี ได้เข้ามาเปิดตลาดเอสยูวีและทำให้รถเอสยูวีเป็นที่นิยมยิ่งขึ้น

อีกทั้งส่งผลให้ฮอนด้าขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดเอสยูวีมาอย่างยาวนาน โดยตลอดระยะเวลากว่าเกือบสามทศวรรษ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ฮอนด้า ซีอาร์-วี คือรถที่อยู่ในใจของคนไทยมาโดยตลอด ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 183,000 คัน ในครั้งนี้ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชันที่ 6 พร้อมมอบคุณค่าใหม่ที่ยกระดับมาตรฐานของเอสยูวีไปอีกขั้น

ทั้งดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมลงตัวในทุกมิติ สมรรถนะการขับขี่ทรงพลังของ 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน ระบบฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลังเทอร์โบ ภายในกว้างขวาง ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม และมั่นใจได้ด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัย

All-new Honda CR-V

All-new Honda CR-V

All-new Honda CR-V

โดยการเปิดตัว ซีอาร์-วี ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้าและตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเอสยูวี อีกทั้งขับเคลื่อนยอดขายกลุ่ม e:HEV ของฮอนด้าให้เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ในประเทศไทยอีกด้วย”

ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวีที่สมบูรณ์แบบ

ที่สุดแห่งสปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีที่ผสานคุณค่าใหม่เพื่อยกระดับเอสยูวีไปอีกขั้น ทั้งดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะที่ทรงพลังและมอบความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยมอบประสบการณ์เดินทางที่เหนือระดับไปอีกขั้น สู่ทุกจุดหมายกับความสมบูรณ์แบบในทุกมิติ

All-new Honda CR-V

All-new Honda CR-V

All-new Honda CR-V

ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ ผสานฟังก์ชันการใช้งานไว้อย่างลงตัว

  • กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black และกระจังหน้าสีดำ Piano Black ตกแต่งด้วยโครเมียม (เฉพาะรุ่น E)
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
  • ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • เปิดมุมมองใหม่ที่พรีเมียมยิ่งขึ้นกับหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
  • สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close)
  • เสาอากาศครีบฉลาม
  • ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสคู่
  • ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว

ครั้งแรกกับรุ่น RS ที่ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้นด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคัน

(รุ่น e:HEV RS 4WD)

  • เสริมเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ด้วยสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้า
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ Piano Black
  • กันชนหน้าและหลังสีเดียวกับตัวรถ
  • ชายกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ
  • คิ้วตกแต่งประตูข้างสีดำ Gloss Black
  • ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED
  • สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถและสีดำ Piano Black
  • เสาอากาศครีบฉลามสีดำ Piano Black
  • ล้ออัลลอย 19 นิ้ว แบบสปอร์ต

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ที่ดีตลอดเส้นทางด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม

All-new Honda CR-V

All-new Honda CR-V

All-new Honda CR-V

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง ผสานแนวคิดระหว่างการใช้วัสดุคุณภาพสูงและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน โดดเด่นด้วยชุดตกแต่งภายในที่พรีเมียม แตกต่างกันในแต่ละรุ่น

เสริมลุคสปอร์ตพรีเมียมเต็มขั้นกับรุ่น RS (รุ่น e:HEV RS 4WD)

  • ชุดตกแต่งภายในลายอะลูมิเนียมปัดเงาและสีดำ Piano Black
  • เบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
  • พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
  • แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต

ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม* อาทิ

  • ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ พร้อม Honda Smart Key Card (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
  • ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat)
  • ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ที่ได้รับการติดตั้งในหลายตำแหน่งเป็นครั้งแรกใน ซีอาร์-วี อาทิ ถาดคอนโซลกลาง แผงประตูหน้าและหลัง และที่วางแก้ว
  • ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา แบบ i-Dual Zone (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
  • ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 (เฉพาะรุ่น EL 4WD)
  • ไฟอ่านหนังสือด้านหลัง LED แบบสัมผัส

พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายที่กว้างขวาง

  • เบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Sliding) เลื่อนและแยกพับแบบ 60:40
  • รุ่นเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับพับลงแนวราบได้เรียบ (Utility Mode) ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
  • รุ่นเบาะโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง (เฉพาะรุ่น EL 4WD) สามารถปรับพับเบาะด้านหลังแถวที่ 3 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้ายในขณะที่ผู้โดยสารแถว 2 สามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบาย หรือปรับพับเบาะทั้งแถวที่ 2 และ 3 ลงแนวราบ (Utility Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลังทั้งแถวที่ 2 และ 3 (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว 

เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์แบบสมาร์ต กับหลากหลายเทคโนโลยีอันล้ำสมัย*

  • ใหม่ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
  • ใหม่ ระบบเครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
  • ใหม่ ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 2 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น E ขนาด 7 นิ้ว)
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
  • ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง (USB Type-C 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 1 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง)

ขับเคลื่อนสู่ทุกจุดหมายอย่างมั่นใจ กับทางเลือก 2 ขุมพลังที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการขับขี่

มีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM)AWD with E-DPS)

ครั้งแรกกับระบบฟูลไฮบริด e:HEV ใน ซีอาร์-วี ใหม่

-ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว

พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 2,000 รอบต่อนาที มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร* (รุ่นe:HEV ES) และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 113 กรัม/กิโลเมตร

-โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน 3 โหมด ได้แก่

  1. โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
  2. โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
  3. โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

มาพร้อมสวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์ได้อย่างง่ายดาย ได้แก่

  1. โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode)
  2. โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode
  3. โหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)

ขับสนุก อัตราเร่งเร้าใจ สไตล์สปอร์ต กับขุมพลังเทอร์โบ

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85

มั่นใจทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่

ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System:CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ* อาทิ

  • ใหม่ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (ยกเว้นรุ่น E)
  • ใหม่ เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
  • ใหม่ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
  • ใหม่ ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
  • ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
  • ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)

ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ดังนี้

All-new Honda CR-V with prices

ระบบฟูลไฮบริด e:HEV มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง   ราคา 1,729,000 บาท
  • รุ่น e:HEV ES 5 ที่นั่ง   ราคา 1,589,000 บาท

เครื่องยนต์เทอร์โบ มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น EL 4WD  7 ที่นั่ง   ราคา 1,649,000 บาท
  • รุ่น ES 4WD  5 ที่นั่ง   ราคา 1,599,000 บาท
  • รุ่น E              5 ที่นั่ง   ราคา 1,419,000 บาท

โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่

  1. สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD และ e:HEV ES
  2. สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD
  3. สีขาวแพลทินัม (มุก)
  4. สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
  5. สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
  6. สีดำคริสตัล (มุก)

ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยังมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 – 31 พฤษภาคม 2566 ฟรีประกันภัย 1 ปี รับดอกเบี้ย 2.29%** พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care)

ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)

เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นสำหรับรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยการมอบแคมเปญพิเศษด้านการบริการหลังการขาย** ได้แก่

  • ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษาเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  • รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5ปี ไม่จำกัดระยะทาง

ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง

เสริมความสปอร์ตพรีเมียมในสไตล์ SUV อีกขั้นด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo)ที่มาพร้อมแนวคิด “Vibrant SUV” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต ราคา 12,000 บาท คิ้วตกแต่งกระจังหน้า ราคา 3,900 บาท

บันไดข้าง ราคา 16,500 บาท ไฟส่องสว่างประตูคู่หน้าแบบ LED (1 ชุด มี 2 ชิ้น) ราคา 4,350 บาท คิ้วขอบห้องสัมภาระ LED ราคา 8,000 บาท และชุดเสริมหลังคาคู่พร้อมชุดบรรทุกสัมภาระหลังคา ราคา 27,500 บาท หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่

  • Elegant Package ราคา 31,000 บาท และ 32,500 บาท (สำหรับรุ่น e:HEV RS 4WD) ประกอบด้วย กันชนหน้าแบบสปอร์ต ชุดตกแต่งกันชนด้านหลัง คิ้วตกแต่งกระจังหน้า และชุดตกแต่งประตูข้าง
  • Premium Sport Package ราคา 43,500 บาท และ 45,000 บาท (สำหรับรุ่น e:HEV RS 4WD) ประกอบด้วยกันชนหน้าแบบสปอร์ต ชุดตกแต่งกันชนด้านหลัง คิ้วตกแต่งกระจังหน้า บันไดข้าง
    และชุดตกแต่งฝาท้ายคิ้วโครเมียม
  • Exhaust Pipe Finisher Package ราคา 2,500 บาท ประกอบด้วยปลอกท่อไอเสียสเตนเลส 2 ชิ้น

หรือดูรายละเอียดชุดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ www.hondaaccess.co.th/products/crv

พบกับ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 (Motor Show 2023) ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 – 2 เมษายน 2566 และที่โชว์รูมฮอนด้าตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566** (รุ่นเทอร์โบ ตั้งแต่ 20 มีนาคม 2566 และ รุ่น e:HEV ในเดือนเมษายน 2566**)

หมายเหตุ:

  • *อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
  • **เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
  • สีน้ำเงินแคนยอน ริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD และ e:HEV ES
  • สำหรับสีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท
  • ราคาแพ็กเกจชุดแต่งโมดูโล ไม่รวม VAT 7%

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

  • โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ 
  • www.honda.co.th/testdrive
  • ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777

Check Also

MICHELIN Pilot Sport Cup 2 R _ Ferrari F80 2024

‘มิชลิน’ ได้รับเลือกเป็นยางมาตรฐานติดรถซูเปอร์คาร์ ‘เฟอร์รารี่ เอฟ80’ (Ferrari F80)

มิชลินได้พัฒนายางรุ่น ‘เค1’ (K1) ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อ ‘เฟอร์รารี่ เอฟ80’ โดยเฉพาะ ยางรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์’ (MICHELIN …