Breaking News

รีวิว ลองขับ BMW i5 M60 xDrive 2025 รถไฟฟ้าล้วนสุดล้ำ ขับสนุกและประหยัด

รีวิว BMW i5 M60 xDrive 2025 รถไฟฟ้าล้วนที่มาพร้อมสมรรถนะ 601 แรงม้า การขับขี่ที่คล่องแคล่ว พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย สัมผัสความหรูหราทุกการเดินทางในราคาคุ้มค่า 5.4 ล้าน 

BMW i5 M60 xDrive 2025 รถยนต์ไฟฟ้าซีดานพรีเมียม ดีไซน์หรู สปอร์ตล้ำสมัย

รีวิว ลองขับ BMW i5 M60 xDrive 2025 | รถไฟฟ้าสุดล้ำ ขับขี่สนุก ราคาคุ้มค่า

BMW i5 M60 xDrive 

นี่คือรถซึ่งมาแทนที่ M550i ขุมพลัง V8 โมเดลก่อนหน้านี้ มันทรงพลังยิ่งขึ้น, ไฮเทค และเป็นมิตรกับโลกด้วยการเปลี่ยนมาใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน รถรุ่นใหม่รหัส G60 ใช้แพลตฟอร์ม CLAR เช่นเดียวกับ 5-series เครื่องยนต์สันดาปฯ

ต่างจากคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Mercedes ที่ใช้แพลตฟอร์มออกแบบมาสำหรับ EV โดยเฉพาะ และแยกอนุกรมออกไป ซึ่งในที่นี้คือ EQE รถที่ Merc คุยว่า มันเป็นดีไซน์ที่ถูกออกขายเร็วกว่ากำหนดที่วางไว้ถึง 20 ปี

หันกลับมามองที่ i5 มันดูเป็นรถที่ไม่หวือหวาอะไรเมื่อเทียบกับ EQE รถในคลาสเดียวกัน ไม่เพียงดีไซน์ภายนอกแต่รวมถึงในห้องโดยสารด้วย ทว่าข้อดีก็คือคุณไม่จำเป็นต้องปรับตัวมากนัก ทุกอย่างในนี้เรียบง่ายและเป็นที่คุ้นเคยสำหรับเหล่า Bimmer แม้ปุ่มส่วนใหญ่จะหายไปหรือไม่ก็กลายเป็นระบบสัมผัสแทนก็ตาม

แฮนด์ลิงก็เป็นที่คุ้นเคยเช่นกัน แม้ปัจจุบันกลายเป็นรถไฟฟ้าล้วนที่หนักถึง 2 ตัน ทว่า i5 ยังคงให้สัมผัสแบบ BMW ได้อย่างชัดเจน M60 เร่งอย่างบ้าคลั่งจากจุดหยุดนิ่งสู่ 100 กม./ชม. ด้วยมอเตอร์คู่ที่ทำกำลังสูงสุดได้ถึง 601 แรงม้า และแรงบิดเต็มเพดาน 795 นิวตันเมตร

ตั้งแต่ล้อเริ่มหมุน แม้เสียงคำรามหวานจากขุมพลัง V8 จะถูกแทนที่ด้วยเสียงสังเคราะห์ซึ่งปรุงแต่งให้ฟังดูเหมือนมีเสียงท่อไอเสียปนอยู่ก็ตาม แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปคือแรงฉุดมหาศาลจนทำให้คุณรู้สึกราวกับหน้ารถยกลอยขึ้นจากพื้นแบบรถแข่งควอเตอร์ไมล์

i5 พลังไฟฟ้าพุ่งไปข้างหน้าพร้อมความเร็วที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ทว่าหนักแน่นมั่นคง สงบนิ่งจนไม่ต้องกังวลใดๆ ช่วงล่างที่ขึงตึงในโหมด Sport ขึ้นไป ร่วมด้วยระบบบังคับเลี้ยวที่ยอดเยี่ยม คือกุญแจสำคัญที่ส่งให้ M60 ควบคุมง่ายดายและอย่างมั่นใจ ไม่เพียงบนทางตรงในความเร็วสูงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเข้าโค้งต่อเนื่องบนถนนคดเคี้ยวอีกด้วย

ต้องยกความดีความชอบให้กับช่วงล่าง ‘Adaptive M Suspension Professional’ ที่ปรับการทำงานอัตโนมัติแบบเรียลไทม์และเตี้ยกว่ารุ่น M40 เล็กน้อย (ราว 0.3 นิ้ว) รวมไปถึงระบบเลี้ยวล้อหลัง (สูงสุด 2.5 องศา) เหล่านี้ส่งให้ i5 เกาะหนึบในโค้ง ทั้งยังคล่องแคล่วจนรู้สึกเหมือนรถ Hot Hatch คันจิ๋วเสียมากกว่า

ในด้านการใช้งานทั่วไป M60 ซึ่งนับว่าทรงพลังที่สุดในอนุกรม 5 ด้วยกัน (รองจาก M5) ให้ความสบายได้ไม่ต่างจากรุ่นอื่นๆ ในกลุ่ม เป็นอีกครั้งที่ต้องปรบมือให้กับช่วงล่าง Adaptive M ที่ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี

นั่นหมายถึง คุณยังคงสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล “เหนือระดับ” ตามแบบฉบับของรถซีดานขนาดกลางที่หรูหรา ห้องโดยสารเงียบกริบและกว้างขวางโอ่อ่าทุกที่นั่ง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ถ้าจะให้ติก็คงเป็นระยะทางที่วิ่งได้ซึ่งเคลมไว้ที่ราวๆ 460 กม. แต่ในการใช้งานจริงเราทำได้ไม่ถึง 400 กม. แม้จะขับแบบสุภาพเรียบร้อยแล้วก็ตาม

แต่ในภาพรวมแล้ว BMW i5 M60 xDrive คือรถที่เราแนะนำอย่างยิ่ง แม้มีภาพลักษณ์ที่ดูธรรมดาๆ ทว่าใช้งานง่ายและครอบคลุมตั้งแต่การขับขี่ในเมือง, เดินทางไกล ไปจนถึงสนุกกับการขับขี่ในสนามแข่ง… ทั้งหมดนี้ในราคา 5.4 ล้านบาท (หรือ 5.6 ล้านบาท รวม BSI) คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอนครับ!

BMW i5 M60 xDrive รถยนต์ไฟฟ้า 100% ซีดานหรู รหัสตัวถัง G60

BMW i5 M60 xDrive รถยนต์ไฟฟ้า 100% ซีดานหรู ปี 2025

BMW i5 M60 xDrive รถยนต์ไฟฟ้า 100% ซีดานหรู ปี 2025
BMW ยังไม่มีแผนชัดเจนเกี่ยวกับการยุติผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปฯ พวกเขาจึงยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์ “Power of Choice” กล่าวคือ การมีตัวเลือกหลากหลายทั้งเครื่องยนต์, ไฮบริด และไฟฟ้าล้วน ให้ผู้บริโภคได้เลือกให้เหมาะกับความต้องการ สิ่งนี้สะท้อนผ่านแพลตฟอร์ม ‘CLAR’ (Cluster Architecture) ซึ่งสามารถรองรับระบบขับเคลื่อนเหล่านั้นได้อย่างครอบคลุม นั่นรวมไปถึง i5 ใหม่ ที่เป็นรถไฟฟ้า 100% ซึ่งใช้มอเตอร์สองชุด ติดตั้งที่ด้านหน้าและหลังบนแพลตฟอร์มนี้ ส่งให้รูปโฉมของรถดูแทบจะไม่ต่างจาก 5-series รุ่นเครื่องยนต์สักเท่าไหร่นัก

BMW i5 M60 xDrive 2025 ซีดานไฟฟ้า พร้อมชุดแต่ง M Sport Professional

BMW i5 M60 xDrive 2025 พร้อมชุดแต่ง M Sport Professional

BMW i5 M60 xDrive 2025 พร้อมชุดแต่ง M Sport Professional
i5 M60 มาพร้อมกับแพคเกจชุดแต่ง “M Sport Professional” ซึ่งเป็นแพคเกจสูงสุด มีความแตกต่างจาก i5 รุ่นมาตรฐานหลายจุด อาทิ เส้นไฟล้อมรอบกระจังหน้าสีดำเงา, ไฟหน้าโทนสีดำ ‘M Shadowline’, มีสปอยเลอร์ขนาดเล็กบนฝาท้าย, เพิ่มการตกแต่ง M Shadowline กับองค์ประกอบอื่นๆ บนตัวถัง และที่แตกต่างชัดเจนคือ ได้คาลิเปอร์สีแดง เฉพาะในแพคเกจนี้เท่านั้น

BMW i5 M60 xDrive 2025 ไฟหน้าแบบคู่เอกลักษณ์ของ BMW

BMW i5 M60 xDrive 2025 ไฟหน้าแบบคู่เอกลักษณ์ของ BMW

BMW i5 M60 xDrive 2025 ชุดไฟท้ายแนวนอน ดีไซน์พาดยาว
ไฟหน้าแบบคู่เอกลักษณ์ของ BMW เป็นระบบ Adaptive LED พร้อมไฟสูงอัตโนมัติ ร่วมด้วย DRL ทรงใหม่แนวตั้ง ที่ใช้เป็นไฟเลี้ยวในตัว นอกจากนั้น ยังเพิ่มดีเทลเล็กๆ ด้วยแถบไฟ LED สีน้ำเงิน ส่วนชุดไฟท้ายคือจุดศูนย์รวมที่เส้นสายช่วงไหล่ด้านข้างตัวถังและส่วนโค้งของหลังคามาบรรจบกัน รูปทรงชุดไฟแนวนอนที่ดูพาดยาว (จากการเชื่อมต่อระหว่างกันด้วยแถบของที่เปิดฝาท้าย) ตลอดความกว้างของรถ ส่งให้มุมมองด้านท้ายดูเตี้ยและผายกว้างยิ่งขึ้น เส้นไฟทรงอักษร L บ่งบอกความเป็น BMW ยุคใหม่ ขณะที่ไฟสัญญาณต่างๆ เป็นเส้นแนวนอนทั้งหมด

BMW i5 M60 xDrive 2025 รถยนต์ไฟฟ้าแรง 601 แรงม้า

BMW i5 M60 xDrive 2025 รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ต ทรงพลังที่สุดใน 5-series

BMW i5 M60 xDrive 2025 ฟีเจอร์ Boost เร่งแซงทันใจ
i5 M60 ทรงพลังที่สุดในอนุกรม 5-series (ไม่นับรวม M5) ทำกำลังรวมได้ถึง 601 แรงม้า และ 795 นิวตันเมตร จากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด สำหรับล้อหน้าและหลัง ที่น่าสนใจคือ พวกเขาใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Current-Excited Synchronous Motor (CESM) ซึ่งเป็นมอเตอร์ซิงโครนัสที่ใช้ กระแสไฟฟ้ากระตุ้น (Excitation Current) ป้อนเข้าไปที่ขดลวดในโรเตอร์ เพื่อสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าในโรเตอร์ แทนการใช้แม่เหล็กถาวร (Permanent Magnet) จึงไม่จำเป็นต้องใช้แร่ Rare Earth เป็นองค์ประกอบอีกต่อไป จึงตัดปัญหาเรื่องการขาดแคลนวัตถุดิบ (ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต) และยังช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ นอกจากนั้น ยังทนทานกว่าเนื่องจากไม่มีปัญหาเรื่องแม่เหล็กถาวรเสื่อมสภาพอีกด้วย… i5 M60 สามารถเร่งจากจุดหยุดนิ่งสู่ 100 กม./ชม. ได้ใน 3.8 วินาที ด้วยการใช้ Launch Control นอกจากนั้น ยังสามารถเร่งแซงได้ทันใจยิ่งขึ้นด้วยการกดแป้น ‘Boost’ ค้างไว้ 0.8 วินาที เพื่อเรียกใช้ “พลังสูงสุด” ได้อีกด้วย

BMW i5 M60 xDrive 2025 แบตเตอรี่ HV เจเนอเรชั่นล่าสุด

BMW i5 M60 xDrive 2025 ระบบช่วยขับ ADAS

BMW i5 M60 xDrive 2025 แบตเตอรี่ HV เจเนอเรชั่นที่ 5
แบตเตอรี่ HV เทคโนโลยีล่าสุด (เจเนอเรชั่นที่ 5) ของ BMW มีทั้งหมด 7 ชุด แบ่งเป็นโมดูลเซลล์แบตเตอรี่ 72 เซลล์/โมดูล จำนวน 4 ชุด และ 12 เซลล์/โมดูล อีก 3 ชุด โดยทั้งหมดถูกออกแบบให้มีรูปทรงเพรียวบางจนสามารถติดตั้งไว้ใต้ท้องรถได้อย่างปลอดภัย ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถจึงยังคงมีขนาดเท่ากับ 5-series รุ่นใช้เครื่องยนต์ แบตเตอรี่มีความจุพลังงานที่ใช้งานได้ 84.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ราว 450-500 กม. ด้วยความช่วยเหลือจากระบบรีเจนฯ ที่ใช้ ADAS เข้ามาช่วยในการประเมินและปรับระดับการกู้คืนพลังงานตามสภาพการจราจร เช่น ไม่กู้คืนเลย หากผู้ขับถอนคันเร่งโดยไม่มีรถข้างหน้า, กู้คืนต่ำถึงปานกลาง ตามระยะห่างจากรถคันหน้า เพื่อช่วยลดความเร็วไปในตัว และระดับสูง หากถอนคันเร่งโดยเข้าใกล้รถคันหน้าซึ่งช้ากว่า เป็นต้น… ชาร์จ AC ขนาด 11kW จาก 0-100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชม. ครึ่ง และชาร์จ DC จาก 10-80%ประมาณ 1 ชม. 13 นาที (125A), 40 นาที (250A) ไปจนถึงเร็วสุด 30 นาที (500A)

BMW i5 M60 xDrive 2025 สวิตช์คันเกียร์ดีไซน์พรีเมียม

BMW i5 M60 xDrive 2025 หน้าจอและปุ่มเลือกโหมดขับขี่

BMW i5 M60 xDrive 2025 หน้าจอแสดงผลภายในรถ
สวิตช์คันเกียร์ ‘CraftedClarity’ ให้เอฟเฟคต์ระยิบระยับแวววาว พร้อมรูปแบบการขับขี่ที่สามารถเลือกได้จากปุ่ม ‘My Modes’ ระบบสัมผัส ซึ่งจะแสดงโหมดต่างๆ ขึ้นบนจอแสดงผลส่วนกลาง นั่นรวมไปถึงโหมดใหม่ล่าสุด ‘Max Range’ สำหรับกรณีที่คุณตกที่นั่งลำบาก แบตเตอรี่เหลือไม่พอที่จะไปถึงสถานีชาร์จ (หากขับโหมดปกติ) โดยระบบจะจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 80 กม./ชม., ปิดระบบปรับอากาศ เพื่อลงโทษคุณ (ประโยคหลังผมเพิ่มเอง) และคำนวณระยะทางที่วิ่งได้อีกครั้ง นอกจากนั้น ระบบยังสามารถปรับลดการใช้พลังงานอื่นๆ เพิ่มเติมตามสถานการณ์จริงโดยอัตโนมัติ เช่น ลดการแสดงผลบนหน้าจอลง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะรอดไปถึงจุดชาร์จที่เซ็ตไว้ได้

BMW i5 M60 xDrive 2025 คาลิเปอร์เบรกสีแดงแพคเกจ M Sport Professional

BMW i5 M60 xDrive 2025 คาลิเปอร์เบรกสีแดงและล้อ 21 นิ้ว

BMW i5 M60 xDrive 2025 ระบบบังคับเลี้ยว Integral Active Steering
คาลิเปอร์สีแดงเป็นส่วนหนึ่งของแพคเกจ M Sport Professional ระบบเบรกสามารถจัดการกับพละกำลังกว่า 600 แรงม้าได้อยู่หมัด ทั้งยังให้สัมผัสขณะเหยียบที่ตรงไปตรงมาและเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง ข้อเท็จจริงก็คือ หากเลือกโหมดรีเจนฯ อัตโนมัติ คุณแทบไม่ต้องเหยียบเบรกเลยด้วยซ้ำ ล้อขนาด 21 นิ้ว กว้าง 8.5 นิ้วที่คู่หน้าและ 9.5 นิ้ว สำหรับคู่หลัง ร่วมด้วยยาง 255/35 และ 285/30 ตามลำดับ ช่วงล่างของ 5-series ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดย i5 ถูกเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับช่วงล่างด้านหน้าเพื่อปกป้องแบตเตอรี่ HV ได้ดีขึ้น ขณะที่ด้านหลังก็แตกต่างจากรุ่นเครื่องยนต์ด้วยการใช้แบริ่งขนาดใหญ่ขึ้นและใช้จุดยึดแบบลูกยางเพื่อลดเสียงรบกวน มาพร้อมระบบ Adaptive M Suspension Professional ซึ่งประกอบด้วยแดมเปอร์ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์, ระบบบังคับเลี้ยวแบบ Integral Active Steering ช่วยให้ล้อหลังสามารถเลี้ยวได้สูงสุด 2.5 องศา และเตี้ยกว่า i5 eDrive40 เล็กน้อย

BMW i5 M60 xDrive 2025 ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าเวอร์ชั่นล่าสุด

BMW i5 M60 xDrive 2025 พวงมาลัยทรงสปอร์ต

BMW i5 M60 xDrive 2025 พวงมาลัยทรงสปอร์ตพร้อมแถบบอกตำแหน่ง
ระบบบังคับเลี้ยวด้วยไฟฟ้าเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด มาพร้อมอัตราทดพวงมาลัยแใหม่ที่ตอบสนองได้ไดเรคท์ยิ่งขึ้นตามองศาการเลี้ยว ฟังก์ชันต่างๆ ยังรวมถึงระบบแปรผันน้ำหนักและอัตราทดตามความเร็ว Servotronic ตลอดจนการตั้งค่าแบบ Comfort หรือแบบ Sport ให้เลือกใน My Modes พวงมาลัยทรงสปอร์ตมีแถบบอกตำแหน่งด้านบนและดีไซน์ก้านทั้ง 3 แบบเจาะทะลุ

BMW i5 M60 xDrive 2025 ห้องโดยสารโทนสี Dark Silver M พร้อมลายคาร์บอน

BMW i5 M60 xDrive 2025 เบาะ Comfort พร้อมพนักพิงหลังออกแบบใหม่
คุณภาพการประกอบและวัสดุชั้นเลิศคือสิ่งที่คุณจะได้รับจาก BMW อย่างไม่ต้องสงสัย ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ที่เรียบง่ายตามสมัยนิยม ใช้โทนสี “Dark Silver M” ตัดกับการตกแต่งด้วยลายคาร์บอนผสานกับความแวววาวของผลึกแก้ว ‘CraftedClarity’ และแสงสีแพรวพราว ช่วยเพิ่มความหวือหวาให้กับ 5-series ใหม่ได้เป็นอย่างดี เบาะรุ่น Comfort นั่งได้อย่างผ่อนคลาย เบาะหลังออกแบบใหม่ให้พนักพิงบริเวณช่วงไหล่ขยายกว้างออกไปจนเกือบถึงขอบประตู จึงนั่งสบายยิ่งขึ้น พื้นที่โดยรวมในห้องโดยสารกว้างขวางกว่าเดิมจากฐานล้อที่ยาวกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ทั้งยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานมากมาย ซึ่งรวมไปถึงหลังคากระจก ‘Sky Lounge’ ขนาดใหญ่เกือบเต็มพื้นที่หลังคา พร้อมม่านบังแดดที่เลื่อนเก็บไปด้านหน้า (ทางกระจกหน้า) เพื่อเพิ่มพื้นที่กระจกให้กับเบาะหลัง

BMW i5 M60 xDrive 2025 แผงจอ Curved Display พร้อมจอคู่

BMW i5 M60 xDrive 2025 จอส่วนกลาง Curved Display ระบบสัมผัส 14.9 นิ้ว

BMW i5 M60 xDrive 2025 จอผู้ขับขี่ Curved Display ขนาด 12.3 นิ้ว

BMW i5 M60 xDrive 2025 รถยนต์ไฟฟ้าซีดานพรีเมียม ดีไซน์หรู สปอร์ตล้ำสมัย

BMW i5 M60 xDrive 2025 รถยนต์ไฟฟ้าซีดานพรีเมียม ดีไซน์หรู สปอร์ตล้ำสมัย

BMW i5 M60 xDrive 2025 ชุดเครื่องเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins
ศูนย์กลางของห้องโดยสารคือ BMW Curved Display แผงจอแสดงผลทรงโค้ง ครอบด้วยกระจกชิ้นเดียวแบบไร้กรอบ ภายในประกอบไปด้วย 2 จอภาพ คือ จอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว สำหรับผู้ขับขี่ และจอส่วนกลาง ระบบสัมผัส ขนาด 14.9 นิ้ว ทำงานอย่างรวดเร็วด้วยระบบปฏิบัติการ BMW OS ล่าสุดเวอร์ชั่น 8.5 ร่วมด้วยอินเตอร์เฟซตลอดจนกราฟฟิกที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด นอกจากนั้น ยังมี HUD สำหรับผู้ขับที่สามารถเรียกดูข้อมูลสำคัญๆ ได้มากมาย และยังมาพร้อมกับเกมส์ต่างๆ ให้เล่นเพลินๆ ขณะรอชาร์จไฟหรือจอดอยู่กับที่ นี่เป็นการร่วมงานกันระหว่าง BMW และแพลตฟอร์ม AirConsole โดยผู้เล่นเพียงเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับรถผ่าน QR Code บนหน้าจอส่วนกลาง ก็สามารถใช้โทรศัพท์เป็นตัวควบคุมการเล่นเกมส์ได้ทันที ที่ขาดไม่ได้คือชุดเครื่องเสียงรอบทิศทางจาก Bowers & Wilkins ให้พลังเสียงหนักแน่นทีเดียว
BMW i5 M60 xDrive 2025 ช่องแอร์แนวนอนใต้แถบ Interaction Bar
จุดที่ทำให้ดีไซน์ห้องโดยสารดูมินิมัลเป็นพิเศษ คือการเปลี่ยนจากช่องแอร์แบบปกติ มาใช้แบบเป็นช่องแนวนอนซ่อนอยู่ใต้แถบ Interaction Bar นับเป็นการออกแบบที่แปลกตา ทว่าสามารถใช้งานได้จริง สามารถให้ความเย็นได้ทั่วห้องโดยสารไม่ต่างจากช่องแอร์ทรงปกติ แต่อาจต้องทำความคุ้นเคยกับตำแหน่งของปุ่มปรับทิศทางลมซึ่งมีขนาดเล็กจับยาก แถมยังซ่อนไว้ด้านล่างของแดชบอร์ดอีกด้วย ส่วนการเปิดปิดช่องแอร์เป็นระบบสัมผัสทำแยกออกมาไว้บน Interaction Bar สามารถเลือกระดับการเปิดได้หลากหลายสเตป
BMW i5 M60 xDrive 2025 คอนโซลผสมผสานเทคโนโลยีสัมผัสและปุ่มกดดั้งเดิม
5-series ใหม่ ผสมผสานเทคโนโลยีระบบสัมผัสเข้ากับการใช้ปุ่มกดและสวิตช์แบบดั้งเดิมได้อย่างลงตัว โดยฟังก์ชั่นหลักๆ ที่ต้องใช้บ่อยขณะขับขี่ยังคงเป็นระบบปุ่มกดและสวิตช์ เพื่อให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนเป็นเวลานาน ในขณะที่ฟังก์ชั่นรองๆ ลงมา ใช้ระบบสัมผัสแบบ Haptic ร่วมด้วย “สันนูน” เพื่อให้ผู้ขับทราบตำแหน่งของปุ่มได้จากการสัมผัส ส่วนฟังก์ชั่นที่ไม่ค่อยได้ใช้งานขณะขับขี่ เช่น การบันทึกตำแหน่งเบาะ และระบบไฟส่องสว่าง (ซึ่งทำงานอัตโนมัติอยู่แล้ว) ใช้การสัมผัสไปบนแถบผลึกแก้วของ ‘Interaction Bar’ ตามจุดต่างๆ รอบๆ ห้องโดยสาร ตัวแถบแสงจะเปลี่ยนสีไปตามโหมดการขับขี่ที่เลือก ทั้งยังสามารถปรับสีที่ต้องการได้เองอีกด้วย

BMW i5 M60 xDrive 2025 ระบบ Driving Assistance Professional พร้อมฟีเจอร์ Highway Assistance

BMW i5 M60 xDrive 2025 รถยนต์ไฟฟ้าซีดานพรีเมียม ดีไซน์หรู สปอร์ตล้ำสมัย

BMW i5 M60 xDrive 2025 ระบบช่วยขับขี่ Driving Assistance Professional
ระบบช่วยขับขี่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ด้วยออปชั่น ‘Driving Assistance Professional’ มีฟีเจอร์ Highway Assistance ระบบขับขี่อัตโนมัติอันชาญฉลาดติดตั้งมาให้เป็นครั้งแรก คุณสามารถปล่อยมือออกจากพวงมาลัยแล้วปล่อยให้ระบบควบคุมการขับขี่โดยเบ็ดเสร็จ โดยมีกล้องภายในห้องโดยสารทำหน้าที่ตรวจจับคุณเพื่อประเมินว่าคุณยังคงมีสมาธิในการขับขี่และ 2 พร้อมจะกลับมาควบคุมรถทันทีที่จำเป็น นอกจากนั้น ยังมีระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ ‘Active Lane Change’ ที่ล้ำอนาคตจนน่าขนลุกด้วยการใช้ “สายตา” ของคุณสั่งการ! โดยเมื่อระบบคาดการณ์ว่าสามารถเปลี่ยนเลนได้ ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนจากเลนขวาสุดมาอยู่เลนฝั่งซ้าย (ถัดมา) มันจะแจ้งเตือนและใช้กล้องตรวจจับดวงตาของคุณ หากคุณเหลือบมองที่กระจกมองข้างฝั่งซ้าย จะเป็นการยืนยันว่าคุณจะเปลี่ยนไปสู่เลนซ้าย ระบบจะตรวจสอบโดยรอบและ (หากปลอดภัย) จะบังคับพวงมาลัยเปลี่ยนเลนให้อย่างนุ่มนวล โดยไม่จำเป็นต้องยืนยันด้วยการเปิดไฟเลี้ยวแต่อย่างใด เมื่อระบบช่วยขับขี่ถูกเปิดใช้งาน จะแสดงภาพแบบ Live View ที่จอสำหรับผู้ขับ และใช้กล้องรอบทิศทางร่วมกับเซนเซอร์รอบคันเพื่อแสดงภาพกึ่งสมจริงบนจอส่วนกลาง ทำให้ผู้ขับเห็นสภาพแวดล้อมรอบคันและรถคันอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น

SPECIFICATIONS: BMW i5 M60 xDrive

  • Price: 5,599,000 (BSI Standard Package included)
  • Powertrain: 81.4kWh battery, two electric motors, 601hp, 795Nm
  • Transmission: Single-speed gearbox, all-wheel drive
  • Performance: 3.8sec 0-100km/h, 230km/h top speed (Limit), 455-516km range (WLTP)
  • Weight: 2130kg

Check Also

Honda e:N1 2025 มุมเฉียงด้านหน้ารถไฟฟ้า EV compact city car

รีวิว Honda e:N1 EV 100% – SUV ไฟฟ้า 204 แรงม้า วิ่งไกล 500 กม. ราคาเริ่มต้น 1,199,000 บาท

รีวิว ลองขับ Honda e:N1 SUV พลังงานไฟฟ้า 100% ดีไซน์ใกล้เคียง Honda HR-V แต่เพิ่มความล้ำสมัย ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กม. ราคา …