รีวิวลองขับ Toyota Yaris ATIV HEV Premium 2025 ไฮบริดประหยัด 29.4 กม./ลิตร ออปชันแน่น นั่งสบาย ปลอดภัยครบ พร้อมเทียบรุ่น GR Sport
รีวิว ลองขับ Toyota Yaris ATIV HEV Premium 2025 ประหยัด 29.4 กม./ลิตร
Toyota Yaris ATIV HEV Premium
“คงไม่ผิด หากจะบอกว่า 2 รุ่นย่อยใหม่อย่าง HEV Premium และ HEV GR Sport คือ ‘หน่วยแทรกซึม’ ในตลาดเมืองไทย… เพราะเราคาดว่าการโยนหินถามทางครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกำหนดทิศทางการทำตลาดอีโคคาร์ในอนาคตอย่างแน่นอน”
ย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2560 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ส่ง Toyota Yaris ATIV เข้าสู่ตลาดรถอีโคคาร์ในประเทศไทย และได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 280,000 คัน
และด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ความต้องการ “รถยนต์ไฮบริด” เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เดินหน้าต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่ความยั่งยืน
เปิดตัวไลน์อัพใหม่ New Yaris ATIV HEV ภายใต้แนวคิด “Be Confident & Beyond Expectation” มาพร้อม 2 รุ่นย่อยใหม่ ได้แก่ HEV Premium เน้นภาพลักษณ์หรูหรา (รุ่นที่เราได้ทดลองขับ) และรุ่นท็อป HEV GR Sport ที่เน้นความสปอร์ตเร้าใจตามเอกลักษณ์ของ GR
สำหรับรุ่นย่อย HEV Premium ในฐานะรุ่นเริ่มต้นของไลน์อัพไฮบริด มาพร้อมจุดเด่นด้านดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าด้านบนโทนโครเมียมรมดำ
คู่กับกระจังหน้าด้านล่างสีเทาเมทัลลิก และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว ส่วนภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะหนังสังเคราะห์โทนสีดำ-เทา แบบใหม่ เพิ่มความพรีเมียมมากขึ้น
ด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ให้มาครบครัน อาทิ หน้าจอสัมผัสใหม่ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายแบบใหม่, ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB)
พร้อมฟังก์ชันหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Brake Hold), ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และไส้กรองอากาศ PM2.5 รวมถึงไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light) ที่ปรับได้สูงสุด 64 เฉดสี
อีกหนึ่งจุดเด่นด้าน “ความคุ้มค่า” คือ ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense (TSS) ที่ได้รับการอัปเกรดด้วยฟังก์ชันใหม่ Lane Keeping Control (LKC) หรือระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ทำงานร่วมกับ Adaptive Cruise Control แบบ All-Speed
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM), ระบบเตือนรถตัดผ่านด้านหลังขณะถอยจอด (RCTA), กล้องมองภาพรอบคัน (PVM), ระบบสัญญาณกะระยะด้านหน้า 2 จุด และด้านหลัง 4 จุด, กล้องบันทึกภาพด้านหน้า (DVR) รวมถึงถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
หากถามว่ารุ่น HEV GR Sport แตกต่างจาก HEV Premium อย่างไร? คำตอบชัดเจนคือความสปอร์ตที่โดดเด่นยิ่งขึ้นผ่านชุดตกแต่งแบบ GR Sport ตั้งแต่ภายนอก เช่น กระจังหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมตราโลโก้ GR ผสานกับชุดแต่ง GR-S รอบคัน
ไม่ว่าจะเป็นสเกิร์ตหน้า–ข้าง–กันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง รวมถึงหลังคาสีดำ, กระจกมองข้างสีดำปรับ–พับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว LED และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว
ส่วนภายในมากับเบาะหนังสังเคราะห์ดีไซน์สปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังสีดำประทับโลโก้ GR พร้อมชุดลำโพง Pioneer จำนวน 6 ตำแหน่ง เพิ่มอรรถรสในการขับขี่มากขึ้น
ด้านสมรรถนะ รุ่น HEV GR Sport ได้รับการปรับจูนให้ขับสนุกยิ่งขึ้น บนพื้นฐานช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบทอร์ชันบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลงที่จูนพิเศษ เช่นเดียวกับพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) ที่ปรับเซ็ตเฉพาะรุ่น GR Sport
ส่วนขุมพลังของทั้ง HEV Premium และ HEV GR Sport ใช้พื้นฐานเดียวกัน คือ เครื่องยนต์รหัส 2NR-VEX เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร 16 วาล์ว DOHC Dual VVT-i ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังรวมสูงสุด 111 แรงม้า
ระบบขับเคลื่อนผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Normal และ Power
ไฮไลต์สำคัญคือความประหยัดเชื้อเพลิง โดยทำตัวเลขได้สูงสุดถึง 29.4 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Sticker ตามมาตรฐานทดสอบ UN R101 ในห้องปฏิบัติการ สำหรับรุ่น HEV Premium)
แน่นอนว่าเมื่อมองจากดีไซน์และรหัสเครื่องยนต์ หลายคนอาจเดาได้ไม่ยากว่าระบบไฮบริดชุดนี้มีต้นแบบจาก Toyota Yaris Cross ซึ่งก็ถือว่า “ใช่” และ “ไม่ใช่”
เพราะในเชิงวิศวกรรมมีการปรับรายละเอียดหลายอย่าง ตั้งแต่การทำงานของเครื่องยนต์, มอเตอร์ไฟฟ้า ไปจนถึงเกียร์และอัตราทด เพื่อให้สอดคล้องกับบุคลิกของตัวรถมากที่สุด
ซึ่งเรามองว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสมอย่างยิ่ง การเพิ่มไลน์อัพไฮบริดใน Yaris ATIV ครั้งนี้ จึงเป็นการขยายตัวเลือกด้านสมรรถนะและอรรถรสการขับขี่ให้กับผู้บริโภคได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
เมื่อเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์สันดาปที่จำหน่ายอยู่แล้วและหลายคนน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี เราจึงขอข้ามรายละเอียดภาพรวมของรุ่นสันดาปไปก่อน เพื่อโฟกัสประสบการณ์ขับขี่ของเวอร์ชันไฮบริดโดยเฉพาะ
สำหรับไลน์อัพ Yaris ATIV HEV ที่เปิดตัวมาด้วย 2 รุ่นย่อย คือ HEV Premium และ HEV GR Sport ในมุมมองของเรา ถือว่าสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจนตั้งแต่อารมณ์การออกแบบไปจนถึงฟีลลิ่งการขับขี่
โดยรุ่น HEV Premium จะเน้นความอเนกประสงค์และความคุ้มค่าเป็นหลัก ทั้งด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ให้มาอย่างครบถ้วน ระบบความปลอดภัยที่จัดเต็มเป็นมาตรฐาน และอัตราประหยัดเชื้อเพลิงที่ตอบโจทย์สภาวะการใช้รถจริงในยุคปัจจุบัน
อีกหนึ่งจุดที่เราชื่นชอบคือ แม้จะใช้ขุมพลังพื้นฐานเดียวกับ Toyota Yaris Cross แต่มีการปรับจูนให้เข้ากับบุคลิกของ Yaris ATIV ได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งอัตราทดเกียร์ที่ตอบสนองคล่องตัวในย่านความเร็วต่ำ และจังหวะส่งกำลังของเกียร์ที่ต่อเนื่อง นุ่มนวลในช่วงความเร็วเดินทาง
การควบคุมโดยรวมถูกเซ็ตมาเพื่อความสบายเป็นหลัก ทั้งน้ำหนักพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) ที่เบา ควบคุมง่าย รวมถึงช่วงล่างที่เน้นการซับแรงกระแทกให้ผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลาย สอดรับกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว จับคู่กับยางขนาด 195/60 R16
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล หากหยิบเอาภาพรวมของ Yaris ATIV HEV Premium มาเปรียบเทียบกับ Yaris ATIV เวอร์ชัน ICE ขุมพลัง 1.2 ลิตร จะสามารถรับรู้ได้ทันทีถึงความแตกต่างจากบุคลิกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นไปได้ว่าส่วนหนึ่งเกิดจากน้ำหนักตัวรถที่เพิ่มขึ้น
ทำให้มีการปรับเซ็ตให้เหมาะสมกับความเป็นยนตรกรรม HEV ส่งผลให้รู้สึกถึงอาการหนักแน่น หน่วงกว่าเวอร์ชัน ICE อยู่พอสมควร จนหลายครั้งในการขับ Yaris ATIV HEV Premium จะให้อารมณ์คล้ายการขับยนตรกรรมระดับ Mid-Size ติดมาอยู่บ้าง
ซึ่งหากไม่ใช่คนที่เสพความสนุกเร้าใจในการขับขี่อยู่ตลอดเวลา หลายคนน่าจะชื่นชอบอารมณ์ความเป็นกลางของ Yaris ATIV HEV Premium ที่เข้าถึงง่าย และเน้นการใช้งานที่สะดวกสบายเป็นหลัก
แต่ถ้าอยากได้อารมณ์สนุกมากขึ้น รุ่น HEV GR Sport น่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะมาพร้อมการปรับเซ็ตระบบช่วงล่างให้เฟิร์มขึ้นอีกระดับ
ขณะเดียวกันพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ใหม่ ก็ได้รับการปรับแต่งให้มีความกระชับฉับไวยิ่งขึ้น เพื่อถ่ายทอดความเป็น GR Sport ออกมาได้ชัดเจน และยิ่งเห็นความแตกต่างมากขึ้นเมื่อผสานเข้ากับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 17 นิ้ว จับคู่กับยางซีรีส์ 205/50 R17
ทำให้ภาพรวมของรุ่น HEV GR Sport สามารถสร้างความประทับใจได้ดีทีเดียวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบยนตรกรรมขับสนุก เพราะองค์ประกอบหลายอย่างในการควบคุมมีความกระชับ ฉับไว และให้ความมั่นใจในความเร็วสูงได้ดีกว่ารุ่น HEV Premium อย่างเห็นได้ชัด
จนเราอดคิดไม่ได้ว่านี่คือสิ่งที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตั้งใจสร้างความแตกต่างระหว่าง 2 รุ่น เพื่อแบ่งแยกการตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน ระหว่าง Yaris ATIV HEV Premium ที่เป็นกลาง เข้าถึงง่าย ใช้งานสบาย
กับ Yaris ATIV HEV GR Sport ที่เร้าใจและตอบโจทย์ความสนุกในการขับได้มากกว่า ซึ่งเรามองว่านี่คือ “ข้อดี” ที่ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือก “น้อยลง” และ “ชัดเจน” รักชอบแบบไหน ก็สามารถตัดสินใจได้แทบจะในทันที
Specification: Toyota Yaris ATIV HEV Premium
- Price : 719,000 BHT
- Engine : 1,496 CC / 4 Cylinder / 16 Valve / Dual VVT-i 91 PS @ 5,500 rpm / 121 Nm @ 4,000 – 4,800 rpm
- Electric Motor : 80 PS / 141 Nm
- Transmission : E-CVT
- Performance : 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight : N/A
TorqueThailand.com





























