Breaking News

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว 2 โมเดลพลังดีเซลโฉมใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ

ข่าวสด รถยนต์ วันนี้: เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว 2 โมเดลพลังดีเซลโฉมใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ “Mercedes-Benz GLC” และ “Mercedes-Benz GLC Coupé”

Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic

ข่าวสด: เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว 2 โมเดลพลังดีเซลโฉมใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ

หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆ

เราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้

Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic

มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมารถยนต์ตระกูลเอสยูวี ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มยนตรกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ มีส่วนสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นอย่างมาก

ด้วยยอดขายที่เติบโต อย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากยอดขายทั่วโลกในปีที่ผ่านมาสูงถึง 820,721 คัน และมีสัดส่วนยอดขายมากกว่าหนึ่งในสามของยอดขายรวมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดย Mercedes-Benz GLC คือ หนึ่งในยนตรกรรมกลุ่มเอสยูวีรุ่นที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากที่สุด”

Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic

“และเพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์หรู ล่าสุดบริษัทฯ จึงได้เปิดตัวสองยนตรกรรมเอสยูวีพรีเมี่ยม ขุมพลังดีเซลโฉมใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ ได้แก่ Mercedes-Benz GLC และ Mercedes-Benz GLC Coupé เพื่อเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอรถยนต์ในกลุ่มเอสยูวี ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้าคนสำคัญทุกท่านได้เลือกสรรให้เหมาะกับความต้องการ และไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว” มร. โรลันด์ กล่าว

Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic

มร.บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากการเปิดตัวรถยนต์เอสยูวี 3 รุ่นย่อยในครั้งนี้ทั้ง GLC 220 d, GLC 220 d AMG Dynamic และ GLC 220 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic

Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic

ส่งผลให้ปัจจุบันเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) นำเสนอรถยนต์ตระกูลเอสยูวีรวมจำนวนทั้งหมด 7 รุ่นย่อย โดยมีรุ่นประกอบในประเทศ ได้แก่

  • GLA 200 Urban
  • GLA 250 AMG Dynamic
  • GLC 220 d
  • GLC 220 d AMG Dynamic
  • GLC 220 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic
  • GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic
  • GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic

ซึ่งรถยนต์ในกลุ่มนี้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง”

“สำหรับ Mercedes-Benz GLC และ Mercedes-Benz GLC Coupé มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ คนรุ่นใหม่ และครอบครัวยุคใหม่ที่ชื่นชอบความสะดวกสบายในการขับขี่ และในขณะเดียวกัน ก็ต้องการพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระใช้สอยภายในรถ

ซึ่งรถยนต์กลุ่มนี้นอกจากจะมีสมรรถนะที่ทรงพลังแล้วยังมีรูปลักษณ์ และดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราและทันสมัย ตามหลักปรัชญา Sensual Purity ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไว้ได้อย่างลงตัว

โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ LED High-performance ดีไซน์ใหม่ และการเพิ่มเติมหลากหลายฟังก์ชัน และฟีเจอร์ใหม่เพื่อสาวกครอสโอเวอร์ค่ายดาวสามแฉกโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นระบบมัลติมีเดียแบบ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) สามารถเชื่อมโยงผู้ขับขี่เข้ากับเทคโนโลยีอันชาญฉลาดเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว

ผ่านระบบการสั่งการด้วยเสียงที่สามารถจดจำข้อมูล และเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานต่างๆ ของผู้ขับขี่ เพื่อแจ้งเตือน หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานให้ง่ายและเหมาะสมที่สุด บริการ ‘Mercedes me connect’ ที่มีความสามารถ ในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้า รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการได้เพียง ปลายนิ้วสัมผัส”

ข้อมูลผลิตภัณฑ์: Mercedes-Benz GLC โฉมใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ

Mercedes-Benz GLC 220 d

Mercedes-Benz GLC 220 d
Mercedes-Benz GLC 220 d

เป็นรถยนต์ครอบครัวที่เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ และเกียร์อัตโนมัติ แบบ 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 1,950 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที

Mercedes-Benz GLC 220 d
Mercedes-Benz GLC 220 d

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 217 กม./ชม มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ยอดเยี่ยมเฉลี่ยเพียง 5.1 ลิตร/100 กม. พร้อมกันนี้ ยังได้เพิ่มอุปกรณ์ใหม่อย่าง ชุดอุปกรณ์ปะยางฉุกเฉินแบบ TIREFIT เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ในยามคับขันอีกด้วย

ดีไซน์ภายนอก

Mercedes-Benz GLC 220 d
Mercedes-Benz GLC 220 d

มาพร้อมกับกระจังหน้าเสริมโครเมี่ยมแบบสามมิติที่ลาดต่ำลงเพื่อความสวยงาม ประดับด้วยสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลางบนลาย 2 แถบ ลายเส้นด้านข้างถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้ายเสริมโครงสร้างตัวรถให้ดูทรงพลัง และสง่างามไปพร้อมกัน

Mercedes-Benz GLC 220 d
Mercedes-Benz GLC 220 d

โดยในรุ่น GLC 220 d มาพร้อมกับระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance headlamps และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว 5 ก้าน ในขณะที่รุ่น GLC 220 d AMG Dynamic มาพร้อมชุดไฟหน้าอัจฉริยะแบบ MULTIBEAM LED ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเสริมความดุดันให้กับรถได้

Mercedes-Benz GLC 220 d
Mercedes-Benz GLC 220 d

ทั้งขณะเปิด หรือ ปิดไฟ พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ซึ่งประกอบ ด้วยหลอดไฟ LED ที่ทำงานโดยอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถปรับความเข้มแสง โดยใช้ระบบไฟหน้าให้เข้ากับสภาพการจราจรโดยรอบได้

มาพร้อมกับล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 19 นิ้ว แบบ 5 ก้านคู่ ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมที่สุดที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ในตัวเมืองด้วยความนุ่มนวล และสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟที่เลื่อนเปิด-ปิด ได้ด้วยระบบไฟฟ้า อีกด้วย

ดีไซน์ภายใน

Mercedes-Benz GLC 220 d
Mercedes-Benz GLC 220 d

ถูกออกแบบโดยเน้นความหรูหรา ทันสมัย และกว้างขวาง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครอบครัวโดยเฉพาะ มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 550 ลิตร และสามารถบรรจุได้ถึง 1,600 ลิตรเมื่อพับเบาะที่นั่งด้านหลังลง การตกแต่งภายในของรุ่น GLC 220 d จะตกแต่งด้วยลายไม้แบบ Open-pore brown ash wood พร้อมเบาะหนัง ARTICO สีดำแบบ Comfort ที่ง่ายต่อการดูแลรักษา

และพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน นอกจากนี้ยังมีระบบปฏิบัติการหน้าจอแบบ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ขนาด 10.25 นิ้ว ซึ่งเป็นหน้าจอ อินโฟเทนเมนต์ที่ใช้ระบบสัมผัส (Touchscreen) เพื่อใช้ในการควบคุมระบบต่าง ๆ ของรถ

โดยผู้ขับขี่สามารถควบคุมและออกคำสั่งได้ด้วยการสัมผัสที่หน้าจอ หรือ ใช้ Touchpad ดีไซน์ใหม่ มีระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ Bluetooth สำหรับแผงหน้าปัดฝั่งผู้ขับขี่ในรุ่น GLC 220 d AMG Dynamic

จะเป็นระบบ All-Digital instrument display หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic, Sporty และ Progressive และมีระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO เสริมเข้ามาด้วย

ด้านเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัย

Mercedes-Benz GLC โฉมใหม่ รุ่นประกอบ ในประเทศ มาพร้อมกับระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่ 5 แบบ คือ

  • ECO ที่ช่วยปรับการขับขี่เข้าสู่ระบบประหยัดน้ำมัน
  • INDIVIDUAL ที่สามารถบันทึกรูปแบบการขับขี่ที่ผู้ขับขี่กำหนดไว้ได้
  • COMFORT ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนขับรถซาลูน
  • SPORT
  • SPORT+ เน้นการเพิ่มความเร้าใจให้กับการขับขี่มากยิ่งขึ้น

มีระบบช่วยในการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติพร้อม PARKTRONIC เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ที่มาพร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง รวมถึงติดตั้งระบบกันสะเทือน AGILITY CONTROL ที่ช่วงล่างของรถยนต์เพื่อเสริมความนุ่มนวลในการขับขี่อีกด้วย

นอกจากนี้ในรุ่น GLC 220 d AMG Dynamic ยังได้ติดตั้งระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาขึ้นให้ดียิ่งขึ้น อาทิ ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC)

ซึ่งทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกระจังหน้าในการคำนวณระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าที่สัมพันธ์กับความเร็วของรถในขณะนั้น และลดความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ รวมทั้งช่วยเบรกด้วยระดับแรงเบรกประมาณ 50% ของแรงเบรกปกติ เพื่อรักษาระยะห่างตามที่ผู้ขับขี่กำหนด

ระบบแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนช่องจราจร (Blind Spot Assist) ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์หรือจักรยานยนต์คันอื่นที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลัง จะเปลี่ยนช่องจราจร เป็นต้น

Mercedes-Benz GLC Coupé โฉมใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ

Mercedes-Benz GLC 220 d 4MATIC Coupe AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLC 220 d 4MATIC Coupe AMG Dynamic

ยนตรกรรมที่ผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวีและความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ของรถยนต์คูเป้เข้าไว้ด้วยกัน โดดเด่นด้วยการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ที่สามารถตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างลงตัว โดยรถยนต์รุ่นนี้มีกลุ่มเป้าหมายคือลูกค้าที่ชื่นชอบ การขับขี่ทั้งในเมือง และนอกเมือง

Mercedes-Benz GLC Coupé โฉมใหม่ รุ่นประกอบในประเทศไทย นำเสนอในรุ่น GLC 220 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ และเกียร์อัตโนมัติ แบบ 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 1,950 ซีซี

Mercedes-Benz GLC 220 d 4MATIC Coupe AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLC 220 d 4MATIC Coupe AMG Dynamic

กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 217 กม./ชม. โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ ที่ดูปราดเปรียวจากลายเส้นโค้งเว้า ให้ความรู้สึกพลิ้วไหว

รวมถึงการออกแบบภายในที่เน้นความหรูหรา ทันสมัย แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังคงกลิ่นอายของความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิมรวมถึงการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และระบบความปลอดภัยมาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อมอบความมั่นใจให้กับลูกค้าทุกท่าน

ดีไซน์ภายนอก

มาพร้อมฝากระจังหน้าแบบ diamond radiator grille มีสัญลักษณ์โลโก้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลาง โคมไฟหน้าแบบ LED High-performance ที่มาพร้อมไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist

และไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED fibre-optic เพื่อการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ เส้นสายหลังคา และลายเส้นด้านข้าง ถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้ายเน้นดีไซน์แบบเรียบหรู ล้ำสมัย เสริมโครงสร้างตัวรถให้ดูทรงพลัง และสง่างามไปพร้อมกัน

ด้านท้ายเพิ่มความแข็งแกร่งดุดันด้วยปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ พร้อมด้วยชุดแต่ง AMG bodystyling (กันชนหน้า-หลัง), ล้ออัลลอย ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 19 นิ้ว 5 ก้านคู่ สีเงินสลับดำ, ระบบกันสะเทือนแบบ Sports suspension, หลังคาซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

ดีไซน์ภายใน

Mercedes-Benz GLC 220 d 4MATIC Coupe AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLC 220 d 4MATIC Coupe AMG Dynamic

มาพร้อมจุดเด่นภายในห้องโดยสาร อย่างแดชบอร์ดและคอนโซลกลางที่มีขอบลายเส้นที่ดูไหลลื่น โดยแผงคอนโซลที่มีขนาดใหญ่ และถูกออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวนี้ วางทอดตัวยาวจากช่องลมระบบปรับอากาศบริเวณตรงกลางของแผงหน้าปัดลงมาจนถึง พนักวางแขนบริเวณกึ่งกลางระหว่างเบาะที่นั่งของผู้ขับขี่กับผู้โดยสารตอนหน้า

ซึ่งเส้นสายบริเวณแผงคอนโซลที่ดูเรียบง่ายแต่เร้าอารมณ์ช่วยให้ห้องโดยสารดูกว้างขวาง เรียบง่าย และล้ำสมัยยิ่งขึ้น แผงหน้าปัดฝั่งผู้ขับขี่เป็นระบบ All-Digital instrument display หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัลขนาด 12.35 นิ้ว สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic, Sporty และ Progressive

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับพวงมาลัยนิรภัยพร้อมเพาเวอร์ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ พร้อมเสริมความรู้สึกสปอร์ตให้มากขึ้น ด้วยระบบกันสะเทือน แบบ Sports suspension, ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO, ฟังก์ชัน ECO start/stop, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน,

เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมบันทึกหน่วยความจำ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถ พับได้แบบ Fully Folded ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บ ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้มีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ ที่กว้างขวางด้วยความจุ 500-1,400 ลิตร ซึ่งนับเป็นความจุที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์กลุ่มเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมีระบบปฏิบัติการหน้าจอแบบ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ขนาด 10.25 นิ้ว ซึ่งเป็นหน้าจออินโฟเทนเมนต์ที่ใช้ระบบสัมผัส (Touchscreen) เพื่อใช้ในการควบคุมระบบต่าง ๆ ของรถโดยผู้ขับขี่สามารถควบคุม และออกคำสั่งได้ด้วยการสัมผัสที่หน้าจอ หรือ ใช้ Touchpad ดีไซน์ใหม่,

ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ Bluetooth, ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester®, ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ตพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัด ชุดคันเร่ง และแป้นเบรกแบบสปอร์ต เบาะนั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ต พรมปูพื้นพร้อมสัญลักษณ์ AMG และระบบไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร

ความปลอดภัยและเทคโนโลยี

มาพร้อมกับระบบ “Mercedes-Benz Intelligent Drive” เพื่อให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้รับ ความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ โดยระบบดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากแนวคิดการปกป้องก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุเข้าไว้ด้วยกันภายใต้ระบบควบคุมอัจฉริยะเพียงหนึ่งเดียวที่ทำงานสอดประสานกันไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® system
  • โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Program – ESP®)
  • ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist
  • ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light)
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS)
  • ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ (ATTENTION ASSIST)
  • ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)
  • เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC)
  • กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง
  • ระบบช่วย การนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist)
  • ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator)
  • ระบบเตือนแรงดันยาง (Tyre pressure loss warning system) เป็นต้น

พร้อมทั้งระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA (Active Brake Assist system) และ ระบบแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนช่องจราจร (Blind Spot Assist)

นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบส่งกำลังที่รองรับระบบ DYNAMIC SELECT ซึ่งมีโหมดการขับขี่ 5 แบบ คือ

  • ECO ที่ช่วยปรับการขับขี่เข้าสู่ระบบประหยัดน้ำมัน
  • INDIVIDUAL ที่สามารถบันทึกรูปแบบการขับขี่ที่ผู้ขับขี่กำหนดไว้ได้
  • COMFORT ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบาย
  • SPORT
  • SPORT+ เน้นการเพิ่มความเร้าใจให้กับ การขับขี่มากยิ่งขึ้น

Mercedes-Benz GLC 220 d รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 3,239,000 บาท

  • รุ่น:   GLC 220 d
  • เครื่องยนต์:   ดีเซล 4 สูบ แถวเรียง
  • ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี):   1,950
  • แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที):   194 / 3,800
  • แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที):   400 / 1,600 – 2,800
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที):   7.7
  • ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.):   217
  • อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน (ลิตร/กม.):   5.1 – 5.3 / 100

Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 3,699,000 บาท

  • รุ่น:  GLC 220 d AMG Dynamic
  • เครื่องยนต์:  ดีเซล 4 สูบ แถวเรียง
  • ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี):   1,950
  • แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที):   194 / 3,800
  • แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที):   400 / 1,600 – 2,800
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที):   7.7
  • ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.):   217
  • อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน (ลิตร/กม.):  5.1 – 5.3 / 100

Mercedes-Benz GLC 220 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 4,040,000 บาท

  • รุ่น:   GLC 220 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic
  • เครื่องยนต์:  ดีเซล 4 สูบ แถวเรียง
  • ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี):  1,950
  • แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที):  194 / 3,800
  • แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที):  400 / 1,600 – 2,800
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.(วินาที):  7.9
  • ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.):   217
  • อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน (ลิตร/กม.):  5.2 – 6.0 / 100

Check Also

50 Years of Turbo

พบกับปอร์เช่ที่งาน Retro Classic ในเมืองสตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี ที่มาในธีม “เหนือกว่าสมรรถนะ – 50 ปีของปอร์เช่ เทอร์โบ” ณ งานนิทรรศการ การแสดงสินค้าในวันที่ 25 ถึง 28 เมษายน 2024

งาน Retro Classics ที่เมืองสตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี เป็นงานที่รวมพลกลุ่มผู้ชื่นชอบรถคลาสสิกและรถสปอร์ตจากทั่วทุกมุมโลก สำหรับปอร์เช่ งานนี้ ไม่ได้เป็นเพียงงานแสดงสินค้าทั่วไป แต่ยังเป็นงานประจำปีที่พลาดไม่ได้ โดยงานจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 28 …