Breaking News

มิชลิน นำเสนอ 2 นวัตกรรมเด่นเพื่อเร่งให้เกิดการสัญจรอย่างยั่งยืนในงาน ‘มูฟวิ่ง ออน’ ประจำปี 2564

ข่าว มิชลิน นำเสนอ 2 นวัตกรรมเด่นที่มุ่งแก้ปัญหาท้าทายหลักซึ่งส่งผลกระทบต่อการสัญจรในอนาคต ในการประชุมสุดยอดระดับโลก มูฟวิ่ง ออน ประจำปี 2564  

ข่าว มิชลิน _  WISAMO
WISAMO

ข่าว มิชลิน นำเสนอ 2 นวัตกรรมล่าสุดนี้สะท้อนกลยุทธ์ความยั่งยืนทุกด้านของมิชลิน

 2021 Movin’On

ในการประชุมสุดยอดระดับโลกด้านการสัญจรอย่างยั่งยืน ‘มูฟวิ่ง ออน’ ประจำปี 2564  มิชลินได้นำเสนอ 2 นวัตกรรมเด่นที่มุ่งแก้ปัญหาท้าทายหลักซึ่งส่งผลกระทบต่อการสัญจรในอนาคต โดยโซลูชั่นล่าสุดของมิชลินซึ่งได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งพร้อมทั้งประหยัดทรัพยากร จะมีบทบาทในฐานะปัจจัยหลักที่เอื้อต่อการบรรลุเป้าหมายในการสร้างการสัญจรที่เป็นมิตรต่อโลกยิ่งขึ้น ตามเจตนารมณ์ของงาน ‘มูฟวิ่ง ออน’ และระบบนิเวศของงานฯ

  • โครงการ WISAMO: นวัตกรรมโซลูชั่นที่ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเกิดจากการขนส่งสินค้าทางทะเล

โครงการ WISAMO ย่อมาจาก Wing Sail Mobility หรือการสัญจรที่ขับเคลื่อนด้วยใบเรือ ภายใต้โครงการนี้ ได้มีการคิดค้นพัฒนาระบบใบเรือที่ยืดหดได้และพองลมอัตโนมัติ ซึ่งสามารถนำไปติดตั้งได้กับทั้งเรือบรรทุกสินค้าและเรือสำราญ ระบบใบเรือดังกล่าวเป็นผลงานที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างแผนกวิจัยและพัฒนาของมิชลิน ร่วมกับบริษัทพัฒนานวัตกรรมสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ 2 ราย ซึ่งมีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกับวิสัยทัศน์เรื่อง “ความยั่งยืนทุกด้าน” (All Sustainable) ของกลุ่มมิชลิน

ใบเรือชนิดพองลมใช้ประโยชน์จากลม ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อนที่ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถหาได้ทั่วไป และไม่มีวันหมด การออกแบบที่ปฏิวัติวงการนี้ไม่เพียงช่วยลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของเรือ แต่ยังส่งผลเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย

ข่าว มิชลิน _  WISAMO

ระบบใบเรือดังกล่าวซึ่งออกแบบและพัฒนาขึ้นโดยทีมงานโครงการ WISAMO สามารถติดตั้งได้กับเรือบรรทุกสินค้าและเรือสำราญส่วนใหญ่ โดยเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้งานกับเรือบรรทุกรถยนต์ (Ro-Ro Ships), เรือบรรทุกสินค้าเทกอง (Bulk Carriers) และเรือบรรทุกน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas Tankers) ระบบใบเรือนี้สามารถติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานติดเรือสำหรับเรือที่สร้างใหม่ หรือติดตั้งเพิ่มในเรือที่ผ่านการใช้งานแล้วได้

ใบเรือดังกล่าวครอบคลุมระยะการใช้งานที่หลากหลายมากที่สุดในตลาด โดยพิสูจน์แล้วว่าให้ประสิทธิภาพสูงสำหรับการเดินเรือในทิศทางต่าง ๆ หลายทิศทาง โดยเฉพาะเมื่อกางใบเรือเต็มที่ (เหนือลม) ทั้งยังสามารถใช้ได้กับทุกเส้นทางการขนส่งสินค้าทางทะเล เสากระโดงแบบยืดหดได้ที่สามารถพับเก็บช่วยให้สะดวกเมื่อเรือเข้าเทียบท่าและลอดใต้สะพาน  นอกจากนี้ ระบบใบเรือนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงได้สูงถึง 20%[1]

การผสานความร่วมมือกับ ‘มิเชล เดส์โชโย่’ (Michel Desjoyaux) ผู้บังคับการเรือที่มีชื่อเสียงระดับโลกและทูตของโครงการ WISAMO ช่วยให้ทีมวิจัยของมิชลินสามารถพัฒนานวัตกรรมใบเรือได้สมบูรณ์แบบ ความคิดเห็นและความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคของนักเดินเรือผู้มีประสบการณ์รายนี้คาดว่าจะช่วยให้นวัตกรรมใบเรือผ่านการทดสอบใช้งานท่ามกลางสถานการณ์จริงของการขนส่งสินค้าทางทะเล 

ข่าว มิชลิน _  WISAMO

ทั้งนี้ มร.เดส์โชโย่ ได้กล่าวไว้ว่า “ประโยชน์ของการขับเคลื่อนด้วยแรงลมก็คือพลังงานลมเป็นพลังงานสะอาด ไม่มีค่าใช้จ่าย มีอยู่ทั่วไป และไม่มีประเด็นให้ถกเถียงหรือต่อต้านใด ๆ  จึงถือเป็นแนวทางที่ดีสำหรับอนาคตเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากเรือบรรทุกสินค้า”

ระบบใบเรือ WISAMO จะติดตั้งกับเรือบรรทุกสินค้าเป็นครั้งแรกในปี 2565 โดยมิชลินคาดว่าจะสามารถเริ่มกระบวนการผลิตได้หลังจากขั้นตอนการทดสอบเสร็จสิ้นสมบูรณ์

โครงการ WISAMO เกิดขึ้นจากการที่มิชลินมุ่งมั่นส่งเสริมให้เกิดการสัญจรทางทะเลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นโดยไม่รอให้ต้องกำหนดกฎระเบียบขึ้นในอนาคต  ทั้งนี้ มิชลินได้ดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของการสัญจรทางทะเลร่วมด้วย  นอกจากนี้ ภายใต้แผนกลยุทธ์องค์กรที่กำหนด กลุ่มมิชลินยังมุ่งสร้างการเติบโตส่วนหนึ่งด้วยการพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ ขึ้น

  • ยางรถแข่งสมรรถนะสูงซึ่งผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืนถึง 46%
Michelin Motorsports Tyre
Michelin Motorsports Tyre

ในการประชุมสุดยอดระดับโลกด้านการสัญจรอย่างยั่งยืน ‘มูฟวิ่ง ออน’ ประจำปี 2564  มิชลินยังได้เผยโฉมยางรถแข่งซึ่งผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืนถึง 46% โดยติดตั้งมากับรถแข่งต้นแบบ GreenGT Mission H24 ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจนซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับการแข่งขันประเภท ‘เอ็นดูรานซ์ เรซซิ่ง’ (Endurance Racing)

ด้วยนวัตกรรมล่าสุดที่พัฒนาขึ้นสำหรับกีฬามอเตอร์สปอร์ตโดยเฉพาะ มิชลินค้นพบวิธีผลิตยางรถยนต์จากวัสดุที่มีความยั่งยืนสูง โดยยังคงให้สมรรถนะบนสนามแข่งที่เหนือกว่า

สัดส่วนการใช้วัสดุที่ยั่งยืนในระดับสูงเป็นผลจากการเพิ่มปริมาณยางธรรมชาติและการใช้คาร์บอนแบล็กซึ่งได้จากการรีไซเคิลยางที่สิ้นอายุใช้งานแล้ว

วัสดุยั่งยืนประเภทอื่นซึ่งมาจากแหล่งชีวภาพหรือได้จากการรีไซเคิลที่นำมาใช้ในการผลิตยางรถยนต์ ได้แก่ วัสดุที่พบได้ในชีวิตประจำวัน เช่น เปลือกส้ม, เปลือกมะนาว, น้ำมันดอกทานตะวัน, เรซินสน (Pine Resin) และเหล็กกล้าที่ได้จากการรีไซเคิลกระป๋องอลูมิเนียม

กีฬามอเตอร์สปอร์ตซึ่งเป็นเสมือนห้องทดลองทางเทคโนโลยีในโลกแห่งความจริง ช่วยให้มิชลินสามารถพัฒนาและทดสอบโซลูชั่นไฮเทคใหม่ ๆ ในสภาพแวดล้อมการใช้งานสุดหฤโหด ภายใต้ความร่วมมือทางนวัตกรรมครั้งนี้ มิชลินได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการนำวัสดุที่ยั่งยืนมาใช้ผลิตยางล้อในสัดส่วนที่สูงขึ้นโดยยังคงให้สมรรถนะที่ดีดังเดิม

ในการประชุมสุดยอดฯ ปีนี้ มิชลินได้ประกาศความมุ่งมั่นที่จะใช้วัสดุที่ยั่งยืน 100% ในการผลิตยางล้อทุกประเภทให้ได้ภายในปี 2593 โดยเป้าหมายระยะแรกของกลุ่มมิชลินคือการใช้วัสดุที่ยั่งยืนในการผลิตยางล้อให้ได้ถึง 40% ภายในปี 2573

นอกจากจะใช้วัสดุที่ยั่งยืนในการผลิตยางล้อแล้ว มิชลินยังนำกระบวนการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Design Processes) มาใช้เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ยางล้อในทุกช่วงวงจรชีวิต ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบและการผลิต ไปจนถึงการใช้งานบนถนนและการรีไซเคิล

ฟลอรองต์ เมอเนโกซ์ (Florent Menegaux) ประธานกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า “ค่านิยมหลักของมิชลินสอดคล้องกับของงาน ‘มูฟวิ่ง ออน’ และพันธมิตรผู้สนับสนุนการจัดงานฯ กล่าวคือ เรามีความเชื่อว่าการสัญจร หรือในความหมายกว้าง ๆ ก็คือ ‘การเคลื่อนที่’ นั้น เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและเป็นต้นกำเนิดของความก้าวหน้า 

นวัตกรรมโซลูชั่นทั้ง 2 รูปแบบที่เรานำเสนอในการประชุมสุดยอดระดับโลกด้านการสัญจรอย่างยั่งยืนปีนี้ ถือเป็นบทพิสูจน์ที่จับต้องได้และใช้งานได้จริง ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของมิชลินที่จะทำให้การสัญจรมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น”

[1] อัตราส่วนนี้อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของเรือ เส้นทางเดินเรือ หรือสภาพอากาศ

Check Also

Honda Double Happy Double Lucky Campaign 2024

ฮอนด้า มอบรางวัลใหญ่ ในแคมเปญ “Honda Double Happy, Double Lucky ซื้อรถฮอนด้าวันนี้ แฮปปี้คูณสอง” รวมทั้งสิ้น 30 รางวัล มูลค่ากว่า 13 ล้านบาท

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ พร้อมด้วย คุณอารีย์ สุชนลิมะกุล ผู้จัดการทั่วไปส่วนการขายและส่วนบริการหลังการขาย ส่งมอบรางวัลใหญ่รถยนต์ฮอนด้าในไลน์อัปเอสยูวี 4 …